สุชาติ ยันไม่เคยลดความพยายาม เร่งผลักดันนำช้างไทยกลับบ้าน

วันที่ 19 ธันวาคม 2568 นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า เรียนพี่น้องทุกท่านครับ ผมเข้าใจดีถึงความห่วงใยและความรักที่ทุกท่านมีต่อพลายประตูผาและพลายศรีณรงค์ ช้างไทยทั้งสองเชือกของเราที่อยู่ในศรีลังกา ผมรับฟังเสียงเรียกร้องของพี่น้องประชาชน ที่ท่านแสดงความเห็นในกลุ่มต่างๆ ที่แสดงความเห็นอย่างหลากหลาย ทั้งที่เข้าใจและไม่เข้าใจการทำงาน ผมยินดีน้อมรับทุกความเห็น

แต่ผมต้องขอบคุณความเห็นที่ ‘เข้าใจ’ การทำงานของผม และเข้าใจสถานการณ์ ภายในประเทศที่ “ประชาชนของเรา” ก็ประสบปัญหาทั้งสถานการณ์น้ำท่วมและปัญหาชายแดน ที่คนไทยได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ได้เข้าไปช่วยเหลือในทุกมิติ จากที่ท่านสามารถเห็นได้ในภารกิจของเรา ที่เราได้สื่อสารให้ประชาชนทราบทุกวัน ทั้งช่วยผู้อพยพที่ชายแดน ตั้งศูนย์พักพิง ภารกิจลำเลียงผู้ป่วยด้วย เฮลิคอปเตอร์ การกู้ระบบประปา การทำความสะอาดเมืองและอีกหลายอย่างที่เราได้ทำ ผมและเจ้าหน้าที่ของเรา “ไม่เคยหยุดทำงานเลยสักวันครับ”

แต่อย่างไรก็ตาม อยากจะเรียนให้ทราบว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ เราทำงานอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อนำช้างทั้งสองกลับบ้าน

สิ่งที่เราได้ดำเนินการไปแล้ว

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอนัดหมายให้ผมในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางไปเยี่ยมคารวะท่านประธานาธิบดีศรีลังกาด้วยตนเอง เพื่อหารือและผลักดันเรื่องนี้ในระดับผู้นำประเทศ เราได้เสนอช่วงวันที่ 17-18 ธันวาคม 2568 หรือวันอื่นภายในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งผมได้รับหนังสือตอบกลับมาตามหนังสือแนบดังนี้

สถานการณ์ปัจจุบันที่ศรีลังกา

สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโคลัมโบ ได้รับแจ้งจากกระทรวงการต่างประเทศศรีลังกาว่า ในขณะนี้ “ทางการศรีลังกาไม่สามารถจัดการนัดหมายได้” เนื่องจากประเทศกำลังเผชิญ “วิกฤติอุทกภัยและแผ่นดินถล่มครั้งใหญ่” มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และระบบสาธารณูปโภคทั่วประเทศได้รับความเสียหาย หน่วยงานภาครัฐทั้งหมดจึงต้องเร่งให้ความสำคัญกับภารกิจกู้ภัย บรรเทาทุกข์ และฟื้นฟูประเทศเป็นอันดับแรก

แต่ทางสถานทูตฯได้แจ้งว่า พลายประตูผาและพลายศรีณรงค์ปลอดภัยดี ไม่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปเยี่ยมพลายประตูผาที่วัดพระเขี้ยวแก้วแล้ว และได้รับการยืนยันจากผู้ดูแลว่าพลายศรีณรงค์ที่วัดเกลนียาก็ปลอดภัยเช่นกัน

ผมขอให้ทุกท่านทราบว่า กระทรวงฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะเร่งประสานงานเพื่อจัดการเยือนศรีลังกาในโอกาสแรกที่สถานการณ์เอื้ออำนวย เพื่อนำเรื่องนี้ไปหารือในระดับผู้นำอย่างจริงจัง

รัฐบาลทำงานหนักขึ้นทุกวัน ไม่เคยลดความพยายาม ผมขอให้ทุกท่านมั่นใจว่า การนำพลายประตูผาและพลายศรีมรงค์กลับบ้านยังคงเป็น ‘วาระสำคัญ’ ของเรา และเราจะอัปเดตความคืบหน้าให้ทุกท่านทราบอย่างต่อเนื่องครับ