UREKA ลุยขยายธุรกิจน้ำประปา–เม็ดพลาสติกรีไซเคิล หวังรายได้ประจำโต 2 เท่า
UREKA เดินเกมรุกครึ่งปีหลัง เดินหน้าขยายธุรกิจน้ำประปาและรีไซเคิลเต็มสูบ พร้อมต่อยอดสัญญาระยะยาวร่วมภาครัฐ ผ่านโมเดล PPP ดันรายได้ประจำพุ่ง 2 เท่า รับเมกะเทรนด์ Green Supply Chain และ Net Zero พร้อมวางเป้าหมายระยะ 3–5 ปี สู่การเป็น “Green Infrastructure และ Circular Business Platform” ที่สร้างสมดุลระหว่างรายได้มั่นคงและการเติบโตอย่างยั่งยืนบนหลัก ESG ทั้งองค์กร
นางสาวรินทร์ณฐา เอกอัศวภิรมย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูเรกา ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือ UREKA เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2568 บริษัทฯ ยังคงเดินตามแผนเต็มกำลัง โดยเฉพาะธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำประปา ที่ยังคงมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และจะมีบทบาทที่สำคัญมากยิ่งขึ้นในอนาคต จากปัจจัยสนับสนุนหลัก ได้แก่ การขยายตัวของเมือง การเติบโตของนิคมอุตสาหกรรม และการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในหลายพื้นที่ ซึ่งล้วนมีความต้องการใช้น้ำคุณภาพดีเป็นพื้นฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันประเทศไทย และทั่วโลกต่างเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของทรัพยากรน้ำที่เกิดจากสภาพอากาศแปรปรวน เช่น ปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญา ทำให้เกิดความไม่แน่นอนและแปรปรวนของปริมาณน้ำในแต่ละปี ภายใต้บริบทนี้ ทำให้ UREKA ตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าของน้ำมากยิ่งขึ้น
“ในครึ่งปีหลังประเมินว่า แนวโน้มธุรกิจยังมีทิศทางที่ดี ทั้งในส่วนของธุรกิจน้ำประปา ที่มีแผนขยายกำลังการผลิต พร้อมต่อยอดสู่โครงการใหม่ๆ ร่วมกับภาครัฐผ่านรูปแบบ PPP (Public-Private Partnership) โดยตั้งเป้าเพิ่มฐานรายได้ประจำจากสัญญาระยะยาวอีก 100–200% ซึ่งจะช่วยเสริมความมั่นคงของรายได้ และขยายบทบาทในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในระดับพื้นที่มากยิ่งขึ้น ด้านเม็ดพลาสติกรีไซเคิล ก็จะขยายตลาดจากจีนไปสู่ตลาดอาเซียน เพื่อรับกับดีมานด์จากภาคอุตสาหกรรมที่ให้ความสำคัญกับ Green Supply Chain และ Net Zero มากขึ้น พร้อมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่ม ตอบโจทย์ตลาดที่ต้องการวัตถุดิบรีไซเคิลคุณภาพสูง” นางสาวรินทร์ณฐา กล่าว
UREKA เดินหน้าปรับโมเดลธุรกิจ–เร่งใช้เงินเพิ่มทุน หนุนเติบโตยั่งยืน ลดพึ่งพาการลงทุนเต็มรูปแบบ
บริษัทฯ อยู่ระหว่างวางแผนและออกแบบโมเดลธุรกิจใหม่ โดยเป็นการยกระดับการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่แล้วอย่างคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ก็คือการสร้างรายได้จากสิ่งที่เคยเป็นต้นทุนคงที่ให้เป็นรายได้ประจำ โดยไม่ต้องลงทุนใหม่เต็มรูปแบบ และกระจายความเสี่ยงของพอร์ตธุรกิจ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร UREKA กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทฯได้รับเงินเพิ่มทุนจะเป็นการเร่งสปีด การเติบโตของกลุ่มบริษัท โดยเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนจะถูกนำไปใช้ใน 3 แนวทางหลัก ได้แก่
➡️ 1. ขยายโครงการน้ำประปาเพิ่มเติม
➡️ 2. ลงทุนในเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และพัฒนา ระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะ
➡️ 3. นำบางส่วนของเงินทุนไปเสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะช่วยเสริมความสามารถในการขยายรายได้ ลดต้นทุน และเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และพร้อมรองรับโอกาสในการเติบโตในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมแผนธุรกิจ 3–5 ปี ที่จะยกระดับธุรกิจจากผู้ดำเนินกิจการแบบดั้งเดิม ไปสู่การเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน ทั้งในส่วนของภาพรวมขององค์กร มุ่งสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย ESG อย่างเต็มรูปแบบ โดยเปลี่ยนจาก ‘บริษัทน้ำและรีไซเคิล’ ไปสู่การเป็น “Green Infrastructure และ Circular Business Platform” ที่แข็งแรงและยั่งยืน
“บริษัทอยู่ระหว่างการออกแบบโมเดลธุรกิจใหม่ที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดมูลค่าสูงสุด โดยสร้างรายได้จากสิ่งที่เคยเป็นต้นทุนคงที่ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนใหม่เต็มรูปแบบ นอกจากนี้ ยังมุ่งกระจายความเสี่ยงของพอร์ตธุรกิจ เพื่อสร้างความยืดหยุ่นในการดำเนินงาน และลดการพึ่งพาธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งเป็นหลัก อีกทั้ง UREKAกำลังก้าวสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย ESG อย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงในระดับกลยุทธ์ แต่ฝังรากลึกในระดับวัฒนธรรมองค์กร ครอบคลุมทั้งในมิติสิ่งแวดล้อม การดูแลพนักงาน และการบริหารจัดการองค์กรอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม โดยตั้งเป้าว่าในอีก 3–5 ปีข้างหน้า จะเปลี่ยนภาพลักษณ์จาก “บริษัทน้ำและรีไซเคิล” ไปสู่การเป็น “Green Infrastructure และ Circular Business Platform” ที่มีความแข็งแกร่งทางโครงสร้าง รายได้มั่นคง และเติบโตบนหลักการของความยั่งยืน”