โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ป.ป.ช.ผนึก บก.ปปป.-ป.ป.ท.บุกจับปลัดคนดังคาที่ทำงานเชียงใหม่เก็บหัวคิวทำบัตรชมพูแรงงานต่างด้าว-เงินสะพัดหลายล้านบาท

Manager Online

เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา • MGR Online

เชียงใหม่- ป.ป.ช. จับมือ บก.ปปป. และ ป.ป.ท. นำหมายศาลบุกจับปลัดอำเภอคนดัง คาวิทยาลัยการปกครองเชียงใหม่ เรียกรับเงินค่าธรรมเนียมทำบัตรชมพูแรงงานเกินจริง เบื้องต้นพบเงินสะพัดหลายล้านบ้าน

วันนี้(30มิ.ย.68)สำนักงาน ป.ป.ช. ภายใต้การอำนวยการของนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และนายวิวัฒน์ เจริญฉ่ำ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 5 มอบหมายให้นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ และนายนิรันดร ศรีภักดี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเชียงใหม่ นายไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มสืบสวนฯ 2 เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 5 และเจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตประจำจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และสำนักงาน ป.ป.ท.ร่วมกันจับกุม นายบุญญฤทธิ์ (สงวนนามสกุล) ตำแหน่งเจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ (ปลัดอำเภอ) ที่ทำการปกครองอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยนายทะเบียนจังหวัด (ทำหน้าที่หัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงใหม่)

ทั้งนี้ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ที่ 21/2568 ลงวันที่ 26 มิถุนายน 2568 ฐานเป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 มาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ หรือเจ้าหน้าที่องค์การระหว่างประเทศ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 172 และมาตรา 173 และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ร่วมกันนำหมายค้นของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ที่ 1/2568 ลงวันที่ 26 มิถุนายน 2568 เข้าทำการตรวจค้นที่บ้านของนายบุญญฤทธิ์ฯ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน

สืบเนื่องจากสำนักงาน ป.ป.ช.ได้รับแจ้งเบาะแสจากผู้เสียหาย ซึ่งประกอบอาชีพเป็นนายหน้าแรงงานต่างด้าว ได้นำแรงงานต่างด้าวเข้าทำบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพู) และคัดแบบรับรองรายการทะเบียนประวัติของคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ (ท.ร. 38/1) ตามกฎกระทรวงกำหนดให้คนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยปฏิบัติเกี่ยวกับการทะเบียนราษฎร พ.ศ.2562 กำหนดค่าธรรมเนียมการออกบัตรประจำตัว (บัตรชมพู) ฉบับละ 60 บาท และค่าธรรมเนียมการขอคัดสำเนาแบบรับรองรายการทะเบียน ฉบับละ 20 บาท

แต่นายบุญญฤทธิ์ได้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวจากนายหน้าแรงงานต่างด้าว จำนวน 200 บาทต่อแรงงานต่างด้าว 1 ราย ซึ่งมีเงินส่วนต่างเกินจากค่าธรรมเนียมตามกฎหมาย (เงินส่วนต่าง) จำนวน 120 บาท เฉพาะผู้เสียหายที่เข้าแจ้งเบาะแสกับสำนักงาน ป.ป.ช.เพียงรายเดียว มีเงินส่วนต่างเกินจากค่าธรรมเนียม ตั้งแต่นายบุญญฤทธิ์เข้ามาปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อประมาณต้นปี พ.ศ.2566 จำนวนกว่า 2.4-3.6 ล้านบาท

ทั้งนี้พบว่าในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ มีผู้ประกอบอาชีพตัวแทนนายหน้าแรงงานต่างด้าวกว่า 100 ราย ซึ่งพฤติการณ์เก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวเป็นที่รับรู้โดยทั่วไปว่านายบุญญฤทธิ์เรียกเก็บค่าธรรมเนียมรายละ 200 บาทต่อแรงงานต่างด้าว 1 ราย หากตัวแทนนายหน้ารายใดไม่จ่ายเงินจำนวนดังกล่าว จะไม่ได้คิวนัดเพื่อนำแรงงานเข้าทำบัตรประจำตัว

ดังนั้นสำนักงาน ป.ป.ช. บก.ปปป. และสำนักงาน ป.ป.ท.จึงได้สนธิกำลังร่วมกันสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง และได้เข้าจับกุมผู้ถูกกล่าวหาพร้อมเงินของกลางจำนวน 15,200 บาท ณ วิทยาลัยการปกครอง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งใช้เป็นสถานที่ในการออกบัตรประจำตัว (บัตรชมพู) และคัดสำเนาแบบรับรองรายการทะเบียน

ภายหลังการจับกุมผู้ถูกกล่าวหาเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2566 มาตรา 22 และมาตรา 23 โดยได้นำตัวผู้ถูกกล่าวหาไปทำบันทึกการจับที่ สภ.ดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Manager Online

ตลาดคริปโตอิหร่านป่วนหนัก Nobitex ดิ้นฟื้นระบบ หลังโดนแฮ็กเกอร์ถล่มฉกเงินหาย $90 ล้าน

32 นาทีที่แล้ว

อุกอาจ! ปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางลานจอดรถห้างดังย่านลาดพร้าว หลังดีลซื้อขายคริปโต

40 นาทีที่แล้ว

“จตุพร” ย้ำจุดยืน "รวมพลังแผ่นดิน" ไม่เอารัฐประหาร ซัด พท.ฉวยโอกาสปั่นกระแส หลังเจอคลิปหลุดไม่มีปัญญาเสนอหน้า-ติง ปชน.ซูเอี๋ย "อุ๊งอิ๊งค์"

50 นาทีที่แล้ว

ดีเจหนุ่มเผยคลิปนาที! อ้างนางงามคลั่งทำลายข้าวของเสื้อผ้าพังเสียหายทั้งห้อง (ชมคลิป)

57 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

ซีพีเอฟ ร่วมผนึกพลังภาครัฐ-เอกชน-ภาคประชาชน เฝ้าระวังและป้องกันไฟป่า – แก้ปัญหา ฝุ่นPM 2.5

ไทยพับลิก้า

ล่า 5 คนร้าย ปล้นเงิน 3.4 ล้านห้างดังย่านลาดพร้าว

สยามรัฐ

ศบ.ทก. แถลงคืบชายแดนฯ สงสัยเอกสารฝ่ายไทยหลุด ทั้งที่เป็นการประสานภายใน

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

5 คนร้ายปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดังย่านลาดพร้าว

สำนักข่าวไทย Online

ใจดีสู้เสือ !?

สยามรัฐ

คืบหน้าเพลิงไหม้โรงงานกระดาษทิชชู จ.สระบุรี พบผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ราย สูญหาย 2

The Bangkok Insight

นายกฯสรุปผลสอบ ‘ตึก สตง.ถล่ม’ พบออกแบบ – ก่อสร้างไม่เป็นไปตาม กม. ส่ง DSI – ตำรวจหาคนผิด

ไทยพับลิก้า

อุกอาจ! ปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางลานจอดรถห้างดังย่านลาดพร้าว หลังดีลซื้อขายคริปโต

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

วัดจันทร์สามัคคีปิดปากเงียบ ปม “เจ้าคุณอาชว์ลาสิกขา” เชื่อยังอยู่ในประเทศ

Manager Online

สลด! 2 สามเณรเล่นน้ำกลางดึก จมหาย เช้าพบเป็นศพลอยอืดกลางเจ้าพระยา

Manager Online

สลด! วงจรปิดจับภาพ 2 พ่อลูกดักยิงอริดับ 2 ศพ หลังเขม่นหน้า-ชกต่อยในงานวัด

Manager Online
ดูเพิ่ม
Loading...