อิหร่านจัดพิธีศพให้กับเหล่าผู้นำระดับสูงที่เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอล
อิหร่านจัดพิธีศพให้กับนักวิทยาศาสตร์และผู้บัญชาการทหารราว 60 รายที่เสียชีวิตในการรบพุ่งกับอิสราเอล ขณะที่นักการทูตระดับสูงของอิหร่านประณามการโจมตีล่าสุดของทำเนียบขาวต่อผู้นำสูงสุดอย่างอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี
อับบาส อาราฆชี รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านไว้อาลัยข้างโลงศพของฮอสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน ซึ่งเสียชีวิตระหว่างการโจมตีของอิสราเอล ในระหว่างรัฐพิธีศพที่จัตุรัสเอนเกลาบ (Enghelab) ในกรุงเตหะราน เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน (Photo by Iranian Foreign Ministry / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน 2568 กล่าวว่า อิหร่านดำเนินรัฐพิธีศพให้กับบรรดานักวิทยาศาสตร์และผู้บัญชาการทหารราว 60 รายที่เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอล
โทรทัศน์ของรัฐได้เผยแพร่ภาพผู้ไว้อาลัยที่สวมชุดดำหลายพันคนตะโกนว่า "อเมริกาจงพินาศ" และ "อิสราเอลจงพินาศ" พร้อมกับชูภาพถ่ายของผู้เสียชีวิต
ประธานาธิบดีมาซูด ปีเซชเคียนเข้าร่วมพิธีดังกล่าวเช่นเดียวกับพลเรือเอกอาลี ชัมคานี ที่ปรึกษาอาวุโสของผู้นำสูงสุดอย่างอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ซึ่งใช้ไม้เท้าเดินหลังจากได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของอิสราเอล
แต่ผู้นำสูงสุดเองไม่ได้เข้าร่วม คาเมเนอีได้กล่าวสุนทรพจน์ผ่านวิดีโอเมื่อวันพฤหัสบดีเพื่อประกาศชัยชนะในความขัดแย้งซึ่งสิ้นสุดลงด้วยการสงบศึกเมื่อต้นสัปดาห์นี้
ในขณะที่ขบวนศพเคลื่อนผ่านมหานครที่กว้างใหญ่ อับบาส อาราฆชี รัฐมนตรีต่างประเทศได้แสดงความอาลัยต่อความขัดแย้ง 12 วันที่เกิดขึ้นพร้อมความสูญเสีย
"ชาวอิหร่านบริจาคเลือด ไม่ใช่ที่ดิน มอบคนที่พวกเขารัก ไม่ใช่เกียรติยศ พวกเขาต้องทนกับระเบิดที่ตกลงมาหลายพันตัน แต่ก็ไม่ยอมจำนน" นักการทูตระดับสูงกล่าว พร้อมเสริมว่าอิหร่านไม่รู้จักคำว่า "ยอมจำนน"
ในจำนวนผู้เสียชีวิต มีโมฮัมหมัด บาเกรี เสนาธิการกองทัพ ซึ่งจะถูกฝังร่วมกับภรรยาและลูกสาวที่ถูกสังหารเช่นกัน
โมฮัมหมัด เมห์ดี เตหะรานชี นักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ซึ่งเสียชีวิตจากการโจมตี จะถูกฝังร่วมกับภรรยาของเขา
ฮอสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติซึ่งเสียชีวิตในวันแรกของการโจมตี จะถูกฝังในวันอาทิตย์
ในจำนวน 60 รายที่จะถูกฝังหลังเสร็จสิ้นพิธี มีเด็ก 4 รายและผู้หญิง 4 รายรวมอยู่ด้วย
อย่างไรก็ตาม ทั้งอิสราเอลและอิหร่านต่างอ้างว่าได้รับชัยชนะในการรบพุ่งครั้งนี้
อิสราเอลกล่าวว่าได้ขัดขวางโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน และขู่ว่าจะดำเนินการทางทหารอีกครั้งหากพยายามสร้างโรงงานนิวเคลียร์ขึ้นมาใหม่
รัฐบาลวอชิงตันยืนกรานว่าการโจมตีครั้งนี้ทำให้โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านล่าช้าไปหลายปี
แต่ผู้นำสูงสุดของอิหร่านกล่าวว่า การโจมตีของพวกศัตรูไม่ได้สร้างผลกระทบสำคัญอะไรเลย
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้โจมตีผู้นำอิหร่านอย่างรุนแรงผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ของเขา และอ้างว่าตนเองเป็นฝ่ายชนะ
ประธานาธิบดีสหรัฐอ้างว่าตนรู้แน่ชัดว่าคาเมเนอีหลบภัยอยู่ที่ไหน และเป็นคนทัดทานไม่ให้อิสราเอลหรือกองทัพสหรัฐสังหารเขา
"ผมช่วยเขาจากความตายที่น่าเกลียดและน่าละอาย แต่เขาก็ไม่จำเป็นต้องพูดว่าขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์ หรอกนะ" ทรัมป์กล่าว
ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่าในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาทำงานเกี่ยวกับการยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่าน ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องหลักของรัฐบาลเตหะราน
"แต่ผมกลับถูกโจมตีด้วยคำกล่าวที่เต็มไปด้วยความโกรธเกลียด ผมเลยหยุดงานทั้งหมดเกี่ยวกับการผ่อนปรนการคว่ำบาตร และอื่นๆ ทันที" ทรัมป์ระบุ
รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านตอบโต้การพาดพิงของทรัมป์ โดยใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าของประธานาธิบดีสหรัฐฯเอง
"หากประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการข้อตกลงจริงๆ เขาควรละทิ้งน้ำเสียงที่ไม่เคารพอันยอมรับไม่ได้ ที่มีต่อผู้นำสูงสุดของอิหร่าน อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี"
"ประชาชนอิหร่านผู้ยิ่งใหญ่และทรงอำนาจแสดงให้โลกเห็นแล้วว่าระบอบการปกครองของอิสราเอลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องวิ่งไปหา 'พ่อ' เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกขีปนาวุธของเราทำลายล้าง" อับบาส อาราฆชีกล่าว
กระทรวงสาธารณสุขของอิหร่านเผยว่าการโจมตีของอิสราเอลทำให้พลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 627 ราย และการยิงตอบโต้ของอิหร่านต่ออิสราเอลทำให้มีผู้เสียชีวิต 28 ราย ตามตัวเลขของอิสราเอล
หลังจากการโจมตีของสหรัฐฯ ทรัมป์กล่าวว่าการเจรจานิวเคลียร์ครั้งใหม่กับอิหร่านจะเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์หน้า
แต่อิหร่านปฏิเสธแผนดังกล่าว และรัฐสภาของอิหร่านได้ผ่านกฎหมายในสัปดาห์นี้เพื่อระงับความร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแลนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ ซึ่งก็คือสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA).