ทางหลวงชนบทเชียงใหม่สั่งรื้อแล้วเสาไฟประติมากรรมหลังกระแสดรามาหนัก ปรับใช้เสาไฟแบบเดิม
เชียงใหม่-แขวงทางหลวงชนบทเชียงใหม่ แจงกรณีดรามาติดตั้งเสาไฟประติมากรรมถนนย่านแหล่งท่องเที่ยวกลางเมือง ที่ถูกวิจารณ์ยับเกี่ยวกับการออกแบบและตั้งข้อสังเกตเพียบ ยืนยันเจตนาและดำเนินการถูกต้องทุกขั้นตอน แต่น้อมรับเสียงสะท้อนจากผู้คนและชุมชน ล่าสุดสั่งปรับแบบแล้ว ยกเลิกใช้เสาไฟประติมากรรมพร้อมรื้อถอนออก เปลี่ยนไปใช้เสาไฟส่องสว่างแบบเดิม ขณะที่โครงการในอนาคตจะมุ่งเน้นการมีส่วนร่วม
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Worapoth Kongngern" โพสต์ภาพเสาไฟประติมากรรมส่องสว่างที่กำลังถูกติดตั้งสองฝั่งทางหลวงชนบท ชม.2025 หรือถนนอัษฎาธร ช่วงตั้งแต่สี่แยกตัดกับถนนรัตนโกสินทร์ ต่อเนื่องไปทางตลาดคำเที่ยง ในตัวเมืองเชียงใหม่ พร้อมเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับราคาจัดซื้อจัดจ้างเสาไฟดังกล่าว ระบุว่า“เสาไฟประติมากรรม ถนน ชม.2025 สเปค – ตกแต่งด้วยแผ่นอะครีลิกหนา 6 มิลลิเมตร ปิดทับด้วยสติกเกอร์สะท้อนแสงชนิด Translucent , เสาไฟประติมากรรมกิ่งคู่จำนวน 4 ชุด ชุดละ 97,281.00 บาท และ เสาไฟประติมากรรมกิ่งเดี่ยว จำนวน 56 ชุด ชุดละ 78,854.00 บาท รวมราคากลาง 9,817,354.12 บาท" ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นและแชร์ต่อไปเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ต่างตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการออกแบบที่ดูแล้วไม่ได้สวยงามและกลมกลืนสอดคล้องเหมาะสมกับศิลปะวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น รวมทั้งประเด็นเรื่องราคาและความคุ้มค่าเหมาะสม จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้(8ก.ค.68) จากการลงพื้นที่สังเกตการณ์บริเวณถนนอัษฎาธร ซึ่งเป็นจุดที่มีการติดตั้งเสาไฟฟ้าประติมากรรมดังกล่าว พบว่าทางผู้รับเหมาได้ดำเนินการรื้อถอนออกไปแล้วจนเกือบหมดแล้ว โดยเหลือเพียงบางจุดเฉพาะในส่วนของเสาไฟและหลอดไฟLEDส่องสว่างเท่านั้น ขณะที่ทางด้านแขวงทางหลวงชนบทเชียงใหม่ นำโดยนายสมพงษ์ แก้วมอญ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทเชียงใหม่ พร้อมคณะทำงานประชุมหารือร่วมกันเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น เพื่อหาทางออกและดำเนินการให้เป็นที่พอใจของทุกฝ่าย ซึ่งเบื้องต้นได้ข้อสรุปว่าจะทำการปรับเปลี่ยนแบบด้วยการยกเลิกการใช้เสาไฟประติมากรรมแล้วให้กลับไปใช้เสาไฟส่องสว่างตามรูปแบบปกติที่ติดตั้งทั่วไป
ทั้งนี้ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทเชียงใหม่ เปิดเผยว่า โครงการนี้เป็นโครงการปรับปรุงถนนสายทาง ชม.2025 แยก ทล.11 – ถนนรัตนโกสินทร์ ซึ่งการปรับปรุงมีขึ้นเนื่องจากระบบไฟฟ้าส่องสว่างและตู้ควบคุมระบบไฟฟ้ามีสภาพชำรุดเสียหายไปอย่างหนัก เนื่องจากมีอายุการใช้งานมานานกว่า 25 ปี จึงเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน จึงจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนเสาไฟฟ้ารวมทั้งระบบไฟฟ้าใหม่ทดแทนของเดิม โดยประกอบด้วย เสาไฟกิ่งคู่ 4 ต้น และ เสาไฟกิ่งเดี่ยว 56 ต้น สำหรับการออกแบบเสาไฟประติมากรรมดังกล่าวทั้งลวดลายและสถาปัตยกรรมนั้น ยืนยันว่ามีเจตนาดี เนื่องจากเห็นว่าถนนเส้นนี้เป็นที่ตั้งของย่านท่องเที่ยวสำคัญของเชียงใหม่ จึงตั้งใจทำให้เกิดความสวยงามและสร้างบรรยากาศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตามจากการที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และท้วงติงเกี่ยวกับเสาไฟประติมากรรมดังกล่าว ทางแขวงทางหลวงชนบทเชียงใหม่ รับฟัง รวมทั้งให้ความสำคัญและใส่ใจกับเสียงสะท้อนดังกล่าว พร้อมกับได้การประชุมหารือกันอย่างเร่งด่วนเพื่อหาทางออกที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งเบื้องต้นได้ข้อสรุปว่าจะทำการปรับแบบ โดยยกเลิกการติดตั้งเสาไฟประติมากรรมแล้วให้เปลี่ยนกลับไปใช้เสาไฟส่องสว่างตามแบบปกติที่มีการใช้อยู่ทั่วไปในปัจจุบัน พร้อมกับลดวงเงินในการจัดซื้อจัดจ้างลงไป ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบหรือเป็นปัญหาใดๆ ต่อการดำเนินโครงการและการจัดซื้อจัดที่ดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบราชการทุกขั้นตอน
ขณะที่ในอนาคตหากจะมีการดำเนินการโครงการลักษณะนี้อีกนั้น ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทเชียงใหม่ บอกว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ถือว่าเป็นประสบการณ์ โดยในอนาคตหากจะมีการดำเนินโครงการใดๆ ที่มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับผู้คนและชุมชนท้องถิ่น มองว่าน่าจะต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนและชุมชนได้มีส่วนร่วมเพื่อกำหนดรูปแบบที่เหมาะสมและตรงตามความต้องการ เช่น อาจจะจัดให้มีการประกวดออกแบบ และนำมาใช้จริงในการดำเนินโครงการ
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO