ลูกเป็นโรคซึมเศร้า : เช็ก 5 สิ่งกระตุ้นภาวะซึมเศร้าในเด็ก
คุณพ่อคุณแม่ และผู้ใหญ่หลายคนอาจเข้าใจว่าโรคซึมเศร้า เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ในวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ความจริงแล้ว ภาวะซึมเศร้าในเด็ก เป็นปัญหาที่พบมากขึ้นในปัจจุบัน สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ คุณพ่อคุณแม่ที่มี ลูกเป็นโรคซึมเศร้า อาจไม่ได้เห็นอาการของโรคได้ชัดเจนเหมือนผู้ใหญ่ ต้องอาศัยการสังเกตพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น หงุดหงิดง่าย แยกตัว หรือไม่อยากทำกิจกรรมที่เคยชอบ นอนไม่หลับ กินไม่ได้ หรือผลการเรียนตก การสังเกตและการให้ความสำคัญกับอาการเหล่านี้ตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้สามารถดูแลและช่วยเหลือลูกได้อย่างทันท่วงทีอย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจว่าอะไรคือปัจจัยเสี่ยงหรือสิ่งกระตุ้นที่อาจทำให้ ลูกเป็นโรคซึมเศร้า คือสิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำความเข้าใจ เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าในเด็กต่อไป1. การเรียนที่กดดันมากเกินไป
โรงเรียนควรเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ แต่บางครั้งความกดดันเรื่องผลการเรียนและการสอบ กลับส่งผลเสียต่อสภาพจิตใจลูกอย่างมาก ลูกมักรู้สึกว่ากำลังแบกรับความคาดหวังของคุณพ่อคุณแม่ หรือความรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งเท่าเพื่อน อาจทำให้ลูกเครียด หมดกำลังใจ และมองไม่เห็นคุณค่าในตัวเองได้2. การถูกกลั่นแกล้ง
การถูกเพื่อนเมินเฉย การถูกรังแก หรือถูกบูลลี่จากทั้งในโรงเรียนและโลกออนไลน์ ล้วนเป็นประสบการณ์ที่สร้างบาดแผลในใจลูก และเป็นสิ่งกระตุ้นรุนแรงให้เกิดภาวะซึมเศร้าในเด็กได้ คุณพ่อคุณแม่ควรเสริมทักษะการเข้าสังคมให้ลูกตั้งแต่ก่อนเข้าโรงเรียน และหากลูกเผชิญกับปัญหาการถูกกลั่นแกล้ง คุณพ่อคุณแม่ควรยื่นมือเข้าช่วยเหลือลูกทันที3. ความขัดแย้งในครอบครัว
ภาพแวดล้อมในบ้านมีผลอย่างยิ่งต่อสุขภาพจิตของลูก การที่คุณพ่อคุณแม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูกบ่อยๆ การหย่าร้าง หรือการต้องย้ายที่อยู่อาศัย ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ทำให้ลูกรู้สึกไม่มั่นคง วิตกกังวล และนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้คุณพ่อคุณแม่ควรทำให้บ้านเป็นพื้นที่อบอุ่นและปลอดภัยสำหรับลูก หากมีข้อขัดแย้ง ควรคุยกันด้วยเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง4. สารเคมีในสมอง
บางครั้งภาวะซึมเศร้าในเด็ก อาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยทางชีวภาพ เช่น พันธุกรรม หรือความไม่สมดุลของสารเคมีในสมอง (Neurotransmitters) หากครอบครัวมีประวัติเป็นโรคซึมเศร้า ลูกอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้น แม้ไม่มีสิ่งกระตุ้นภายนอกชัดเจน5. จมอยู่กับหน้าจอ
การใช้เวลาอยู่หน้าจอมากเกินไป และการเสพสื่อโซเชียลฯ มากเกินไป เป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้ลูกเป็นซึมเศร้า เพราะลูกอาจเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนในอินเทอร์เน็ตที่มักนำเสนอแต่ความสำเร็จของตัวเอง รวมถึงการรับชมเนื้อหาเชิงลบ หรืออ่านคอมเมนต์ที่ไม่สร้างสรรค์ จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของลูก การจำกัดเวลาหน้าจอและชวนลูกทำกิจกรรมอื่นๆ จึงสามารถช่วยปกป้องลูกจากภาวะซึมเศร้าได้อ่านบทความ: โตไปไม่ซึมเศร้า 5 ทริกสร้างสุขภาพจิตที่ดีให้ลูกตั้งแต่ยังเล็กอ้างอิงClevelandclinicWebmdNshUK