“เที่ยวไทยคนละครึ่ง” สิทธิ์คงเหลือเพียบ เปิดให้ประชาชนทั่วไปลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ยังมีสิทธิ์คงเหลืออีก 499,148 สิทธิ์ เปิดลงทะเบียนได้ถึง 31 ต.ค. 68
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า จากการเปิดลงทะเบียนโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2568 ทาง ททท. ได้รับทราบถึงปัญหาขัดข้องของระบบลงทะเบียนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งจากการที่มีประชาชนให้ความสนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมากถึง 5.9 ล้านคนในการเปิดลงทะเบียนวันแรก โดยได้พบประเด็นปัญหาหลัก ดังนี้
1. ปัญหาคอขวดในการรองรับผู้ใช้งาน
เนื่องจาก ททท.ได้ออกแบบระบบให้ผู้ลงทะเบียนต้องยืนยันตัวตนผ่านระบบ ThaID ควบคู่กับการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน Amazing Thailand เพื่อเพิ่มความโปร่งใส และป้องกันการสวมสิทธิ์ซึ่งเคยเกิดปัญหาขึ้นในการดำเนินโครงการครั้งก่อน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากระบบแอปพลิเคชัน ทั้ง 2 แอปพลิเคชั่น มีระบบความเร็วในการรองรับผู้ใช้งานไม่สอดคล้องกัน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้กระบวนการลงทะเบียนล่าช้า
ทั้งนี้ ในเบื้องต้น ททท. ได้มีการปรับ Flow ระบบเพื่อให้สามารถ “Bypass” การยืนยันตัวตนผ่าน ThaID ในขั้นตอนการลงทะเบียนเบื้องต้น เพื่อบรรเทาความไม่สะดวกแก่ผู้ใช้งานในทันที และให้ผู้ลงทะเบียนกรอกข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการลงทะเบียนบนแอปพลิเคชัน แต่ผู้ใช้งานยังจำเป็นต้องยืนยันตัวตนผ่านระบบ ThaID เมื่อมีการเช็กอินเข้าพัก ณ โรงแรมที่เลือกใช้สิทธิ์
อย่างไรก็ตาม ททท. ขอความร่วมมือผู้ลงทะเบียนทุกท่าน เมื่อทำการลงทะเบียนในระบบสำเร็จแล้ว สามารถทยอยเข้าสู่กระบวนการยืนยันตัวตนผ่าน ThaiID ได้ภายหลัง ก่อนถึงวันเดินทางจริง
“เพื่อบรรเทาความไม่สะดวกในการใช้งาน ททท.จึงให้ By Pass การลงทะเบียนยืนยันตัวตนใน ThaID ไปก่อน แต่ขอยืนยันว่านักท่องเที่ยวจะต้องตามไปลงทะเบียนใน ThaID ทีหลังเพื่อยืนยันตัวตนตอนเดินทางจริง เพื่อป้องกันการทุจริตและการสวมสิทธิที่เคยเกิดขึ้นตอนโครงการเราเที่ยวด้วยกันในอดีต”
2.การได้รับ OTP ล่าช้า
เนื่องจากการเปิดใช้โดเมนอีเมลใหม่ verify.tat.or.th และมีการส่งอีเมลปริมาณสูงจากการส่งอีเมลยืนยันตัวตนจำนวนมากในทันที ทำให้เกิดระบบป้องกันสแปมของผู้ให้บริการอีเมลรายใหญ่ จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้การรับอีเมลยืนยันตัวตนล่าช้าสำหรับผู้ใช้งานบางราย ขณะนี้ ททท. ได้ดำเนินการปรับค่าการตั้งค่าระบบภายในเครื่องมือ Google Workspace และ Google Postmaster ซึ่งทำให้ระบบของผู้ให้บริการอีเมล เริ่มทยอยปลดล็อกการรับอีเมลจาก @tat.or.th ซึ่งสะท้อนผ่านจำนวนผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการยืนยันตัวตนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแล้ว
“จากปัญหาการรับ OTP ผ่าน Gmail ที่ล่าช้า เราคาดว่าจะใช้เวลา 7 วันในการแก้ปัญหาให้แล้วเสร็จ กำลังเร่งล้างแคช (Clear Cache) หรือลบข้อมูลชั่วคราวที่เก็บไว้ในแอปพลิเคชั่น โดยระหว่างนี้แนะนำให้ประชาชนใช้อีเมลจากผู้บริการรายอื่น เช่น Hotmail และ Yahoo ในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการไปก่อน”
3.ความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นราคาของโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการฯ
ทาง ททท.จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอัตรา “ราคาห้องพัก” ของโรงแรมให้เหมาะสมกับการเสนอขายบนแพลตฟอร์ม เนื่องจากตอนนี้เข้าสู่โลว์ซีซันของภาคการท่องเที่ยว โดยสามารถปรับขึ้นราคาได้ไม่เกิน 10% ของราคาในช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ให้สอดรับกับต้นทุนประกอบการที่อาจสูงขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ
โดยทางโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ จะสามารถกำหนดอัตราราคาห้องพักได้ 2 อัตรา ได้แก่ อัตราสำหรับการเข้าพักใน “วันธรรมดา” และอัตราสำหรับการเข้าพักใน “วันหยุดและวันนักขัตฤกษ์” เท่านั้น ไม่สามารถกำหนดแบบยืดหยุ่น (Dynamic Price) เหมือนการเสนอขายบนแพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA) ที่กำหนดกรอบราคามาแล้วขายให้ยืดหยุ่นตามสถานการณ์การเข้าพักได้
“อย่างไรก็ตาม ด้วยโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง เป็นโครงการที่รัฐบาลช่วยสนับสนุนค่าโรงแรมที่พักแก่ประชาชน 40-50% แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคืนต่อสิทธิ ขึ้นกับว่าจะเข้าพักในวันธรรมดาหรือวันหยุด กับเข้าพักโรงแรมในเมืองหลัก 22 จังหวัด หรือเมืองรอง 55 จังหวัด หาก ททท.ตรวจสอบแล้วพบว่ามีการขายราคาสูงแบบผิดปกติ มีสิทธิระงับไม่ให้โรงแรมนั้นๆ เข้าร่วมโครงการได้”
นอกจากเจ้าหน้าที่ ททท.จะเป็นคนตรวจสอบแล้ว ทางประชาชนที่ลงทะเบียนและจองห้องพักเพื่อใช้สิทธิ ซึ่งจะเป็นคนเห็นราคาห้องพักว่าปรับขึ้นสูงเกินความเหมาะสมหรือไม่ สามารถส่งคำร้องมายัง ททท. ให้ตรวจสอบได้เพื่อพิจารณาระงับสิทธิการเข้าร่วมโครงการของโรงแรมนั้นๆ ทันที
“ทั้งนี้ ททท.ต้องขอโทษพี่น้องประชาชนอย่างยิ่งอีกครั้ง จากปัญหาขัดข้องของระบบลงทะเบียนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง แต่ก็เห็นสัญญาณที่ดีว่าคนไทยติดตามและสนใจเข้าร่วมโครงการนี้จำนวนมาก และตื่นตัวกับการท่องเที่ยวในประเทศ” ผู้ว่าการ ททท.กล่าว
สำหรับสถานการณ์ลงทะเบียนของโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ณ วันที่ 2 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.00 น. มีผู้ประกอบการลงทะเบียนจำนวน 38,942 ราย ประกอบด้วย ผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนพร้อมกรอกเอกสารสำเร็จ จำนวน 3,885 ราย และผู้ประกอบการที่สมัครแต่ยังยื่นเอกสารและกรอกข้อมูลไม่ครบถ้วน จำนวน 35,057 ราย สำหรับประชาชนทั่วไป ลงทะเบียนสำเร็จจำนวน 373,638 ราย จองที่พักและชำระเงินเพื่อใช้สิทธิ์แล้ว 862 สิทธิ์ มีสิทธิ์คงเหลือ 499,148 สิทธิ์ แบ่งเป็นเมืองหลัก จำนวน 299,489 สิทธิ์ เมืองน่าเที่ยว 199,659 สิทธิ์ จำนวนผู้ใช้งานรายจังหวัด เรียงตามลำดับ ได้แก่ 1.กรุงเทพฯ 2.สุราษฎร์ธานี 3.กาญจนบุรี 4. อ่างทอง 5.นราธิวาส และมีจุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ชลบุรี 2.ประจวบคีรีขันธ์ 3.เชียงราย 4.เชียงใหม่ 5.น่าน
โครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ยังเปิดให้ลงทะเบียนและใช้สิทธิ์ไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2568
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หนูน้อยอารมณ์ดี! “น้องสเปซ” หัวเราะชอบใจ เมื่อถูกพ่อเป็กฟัดแก้ม น่ารัก น่ามันเขี้ยวสุดๆ