มะเหมี่ยว Mamio กับการเติบโตในฐานะศิลปินเดี่ยว พร้อมส่งซิงเกิ้ลใหม่แทนความคิดถึง

‘มะเหมี่ยว Mamio’ กับการเติบโตในฐานะศิลปินเดี่ยว พร้อมส่งซิงเกิ้ลใหม่แทนความคิดถึง

หลังจากที่ มะเหมี่ยว สุทธิภัทร สุทธิวาณิช หรือที่รู้จักกันในนาม พัด Zweed n’ Roll เดินหน้าในฐานะศิลปินเดี่ยวแบบเต็มตัว ในชื่อ “Mamio” ภายใต้สังกัด Warner Music Thailand ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ปล่อยซิงเกิ้ลที่ 6 กับบทเพลงที่แทนความคิดถึงและการจากลา อย่างเพลง ขอบคุณ (Good Luck) มาให้แฟนๆ ได้ฟังกันแล้ว โดยมะเหมี่ยวได้เปิดใจกับมติชนถึงซิงเกิ้ลล่าสุดของตัวเองว่า เพลงนี้ก็น่าจะเป็นเพลงที่เศร้าที่สุดของ Mamio ดีกว่า เป็นความสุขปนเศร้า เหมือนเราต้องยอมรับว่าทุกอย่างมันจบลงไปแล้ว แล้วก้าวไปข้างหน้า แล้วก็เก็บเรื่องราวดีๆ ไว้

“ความเศร้ามันมีหลายแบบ แต่สำหรับเราเศร้าที่สุดมันจะเป็นแบบนี้ ส่วนความเศร้าที่มันเป็นความโกรธ ความเกลียดมันก็อีกแบบนึง แต่เศร้าอันนี้มันเหมือนมันเศร้าแบบจุกๆ เป็นเหมือนเป็นการจากลาที่ต้องเข้าใจมันด้วยว่าชีวิตมันก็เป็นแบบนี้แหละ”

โดยเพลงนี้ได้บอกเล่าถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ที่เรียกว่าความรักอย่างเดียวมันไม่พอ พอถึงจุดหนึ่งเราก็ต้องแยกย้ายกันไปมีชีวิตเป็นของตัวเอง แต่ความรักที่เคยผ่านมามันก็ยังคงมีอยู่ แล้วก็ความหวังดีก็ยังมีให้กันอยู่

ซึ่งความรู้สึกก่อนที่จะเขียนเพลงนี้ขึ้นมานั้น มะเหมี่ยวเผยว่า “มาจากประสบการณ์จริงด้วย และเพลงนี้เราน่าจะอยากแสดงความขอให้โชคดี ซึ่งแน่นอนว่าแฟนๆ ที่ได้ฟังเพลงนี้น่าจะได้น้ำตากันหลายคน”

ด้านความพิเศษของเพลงนี้ มะเหมี่ยวเผยว่า “เพลงนี้ก็ขึ้นมากับกีต้าร์โปร่งแบบว่า back to basic เลย เหมือนเมื่อก่อนที่เคยทำ แล้วเราก็ขึ้นคอร์ด ขึ้นเมโลดี้ แล้วก็เขียนเนื้อเพลง จากนั้นเราก็เอาเดโม่ทั้งหมดไปให้พี่โป โปษยะนุกูล เขาเป็นโปรดิวเซอร์เพลงนี้ พี่โปก็จัดการเรียบเรียงดนตรีมาให้ จริงๆ พอเราขึ้นมาเป็นอะคลูสติก กีต้าร์โปร่ง เขาก็ใส่เสียงสังเคราะห์ พวกซาวน์ดีไซน์มาทำให้เพลงมันดูมีมิติมากขึ้น”

สำหรับเอ็มวีเพลงนั้นก็ได้พี่จั๊ก จิรัฏฐ์ สมภักดี จากทีมเจตนา มาช่วยกำกับให้ “เราชอบผลงานของพี่จั๊กมากๆ เลยนะ เราว่าพี่จั๊กเขาเป็นคนเล่นกับความรู้สึกของคนได้เก่ง แล้วในเอ็มวีมันก็เป็นเรื่องราวของพ่อกับลูกสาวที่เหมือนเขาจะต้องเดินทางจากกันไปที่ไหนสักที่นึง”

นอกจากนี้ยังเป็นการไปออกกองที่ต่างจังหวัดครั้งแรกของศิลปินสาวอีกด้วย โดยยกกองไปถ่ายทำที่อ่างเก็บน้ำมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ซึ่งมะเหมี่ยวก็ได้เล่าประสบการณ์การไปออกกองที่ต่างจังหวัดครั้งแรกให้ฟังว่า “มันก็จะมีความยากอยู่ เพราะว่ามันถ่ายแบบเอาต์ดอร์ แล้วเรื่องเวลากับสภาพอากาศด้วย บางทีแดดก็จัด บางทีเมฆก็บังแล้วก็ลุ้นๆ ฝนจะตกไหมอีกต่างหากอะไรอย่างเงี้ย แต่ว่ามันคุ้มค่ามากๆ มันสวยมาก”

กับการเดินทางในฐานะศิลปินเดี่ยวแบบเต็มตัวของมะเหมี่ยวนั้น เจ้าตัวก็เผยว่า การเป็นศิลปินเดี่ยวนั้นสนุกมาก เพราะได้ทำอะไรที่หลากหลาย

“เรารู้สึกว่ามันได้ทำอะไรที่หลากหลาย เพราะจริงๆ เราก็อยากลองทำอะไรหลายอย่างอยู่เหมือนกัน แล้วพอมาอยู่คนเดียวมันทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ไม่งั้นบางทีพอมันไม่ใช่เราคนเดียว มันอาจจะตัดสินใจไม่ได้”

ซึ่งความท้าทายที่สุดก็คือการที่ได้อยู่คนเดียว “เพราะว่าเมื่อก่อนเราอยู่เป็นวง เราอยู่มาเป็น 10 กว่าปี พอได้มาอยู่คนเดียว เราว่าได้เปิดการเดินทางใหม่ แล้วมันเป็นการเดินทางที่สนุกและเข้มข้น”

ถ้าถามว่าพัด zweed n roll กับ Mamio มีความแตกต่างกันอย่างไรนั้น ศิลปินสาวเผยว่า “เราว่าพัด zweed n roll อาจจะมีความเก็บ มีความปิดทั้งตัวและใจนิดนึง แต่ Mamio ค่อนข้างเปิดใจ กล้าเปิดเปลือกของตัวเองมากขึ้น อย่างเช่น การเล่าเรื่องในเพลงที่ค่อนข้างจะเล่าเรื่องที่ไม่เคยเล่า การพูด และการแสดงออก ก็เป็นตัวเองร้อยเปอร์เซ็นต์” ซึ่งการที่ได้มาทำอะไรด้วยตนเองนั้น มะเหมี่ยวก็ว่า “เราว่ามันก็ดีนะ เราว่าการทำอะไรด้วยตัวเองมันควรเป็นสิ่งที่ควรจะเป็น ควรจะทำได้ เพราะเราก็เกิดมาคนเดียว”

ส่วนถ้าจะให้นิยามความเป็น Mamio นั้น มะเหมี่ยวเผยว่า “Mamio คือความลื่นไหล ความที่เรารู้สึกว่าจะเป็นอะไรก็ได้ เราจะไหลไปไหนก็ได้โดยที่เราไม่อยากให้มันมีอะไรมาจำกัด”

โดย ชื่อ Mamio มาจาก มะเหมี่ยว เพราะว่าตนชื่อเล่นว่ามะเหมี่ยว “เราก็คิดว่าถ้าเราทำเดี่ยวเราจะใช้ชื่ออะไรดี เราก็นึกถึงชื่อเรา แล้วก็เลยหยิบชื่อมะเหมี่ยวกลับมา แล้วก็ Mamio มาจากตอนที่เด็กๆ เข้าโรงเรียนแล้วเรียนภาษาอังกฤษกับอาจารย์ฝรั่ง เราบอกเขาว่าเราชื่อมะเหมี่ยว เขาก็เลยสะกด Mamio (มามิโอะ) ก็เลยเอากลับไปให้ที่บ้านดู พ่อก็เลยเรียกเราว่ามามิโอะ”

เมื่อถามถึง 6 ซิงเกิ้ลที่ผ่านมาในนามศิลปินเดี่ยว เพลงไหนที่บ่งบอกถึงความเป็น Mamio มากที่สุดนั้น เจ้าตัวเผยว่า “ก็ทุกเพลง แต่ถ้าเป็นมากที่สุด ก็คือวิถีรัก ซึ่งเป็นเพลงที่เดบิวต์เลย ที่เราเลือกเพลงวิถีรักมาเดบิวต์ เพราะว่าเราอยากให้คนเห็นเซ้นต์ของ mamio ด้วยแหละ เพราะเราว่าเราเป็นคนกวนๆ คนนึง ปั่นๆ และเราก็เป็นคนโรแมนติกแล้วกัน แล้วก็พาร์ตดนตรี เราชอบความที่มันสโลว์กรูฟ แล้วทางคอร์ดเท่ๆ โยกๆ เอนๆ หน่อย”

ซึ่งถ้าหากมองกลับไปช่วงแรกจนถึงตอนนี้ ในแง่ของความเป็นศิลปิน มะเหมี่ยวเผยว่า “ตนเองก็โตขึ้นเยอะเหมือนกัน เมื่อก่อนจำได้ว่า ร้องเพลงไม่กล้าลืมตา เพราะว่าเขิน ซึ่งทุกวันนี้ยังเขิน แต่ก็มองหน้าคนดูได้บ้าง”

โดยวิธีการจัดการไม่ให้เกิดความประหม่าบนเวทีของมะเหมี่ยวนั้นก็คือการปล่อยให้มันเป็นธรรมชาติ “เราก็คิดว่าเรามาทำอะไรที่นี่ เรายืนอยู่บนเวที เวทีคือที่ของเรา มั่นใจแล้วก็เป็นตัวเอง มันก็จะลดความประหม่าอะไรอย่างนี้ลงไป”

เมื่อถามว่าตอนนี้คิดว่าตนเองประสบความสำเร็จหรือยัง มะเหมี่ยวเผยว่า “ถ้าในแง่ของตัวเรา เราคิดว่ามันสำเร็จตั้งแต่เราเดบิวต์เพลงแรกแล้ว เพราะว่ามันเป็นเป้าหมายที่เราอยากทำ แต่พอเราก้าวมาทำจริงๆ เราว่าเรารู้สึกขอบคุณตัวเองไปแล้วหนึ่ง แล้วก็ขอบคุณค่ายเพลงที่เชื่อใจให้ทำ ส่วนฟีดแบ็กจากคนฟัง เราก็ขอบคุณที่ยังให้กำลังใจและก็ยังฟังเพลงของเราอยู่”

ทั้งนี้มะเหมี่ยวยังได้แอบสปอยล์เพลงใหม่ของตัวเองให้ฟังอีกว่า “เพลงต่อไปเราเรียกมันว่าความคิดถึงแล้วกัน แต่เพลงต่อไปตอนแต่งร้องไห้ ก็น่าจะเศร้า แต่เป็นความเศร้าที่เหมือนมีความสุขนิดๆ แล้วกันไม่แน่ใจ (ยิ้ม)”

โดยโปรเจกต์ต่อไป ศิลปินสาวเปิดเผยว่า อาจจะมีฟีทเจอริ่งกับคนอื่น แต่ขออุบไว้ก่อน เพราะอยากจะเซอร์ไพรส์แฟนๆ เมื่อถามถึงแพลนการปล่อยอัลบั้ม มะเหมี่ยวเผยว่า “จริงๆ อยากปล่อยปีนี้ แต่อาจจะไม่ทัน น่าจะได้ปล่อยปีหน้า”

พร้อมกันนี้มะเหมี่ยวยังได้ฝากซิงเกิ้ลใหม่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกคน “ฝากเพลงขอบคุณด้วยนะคะ ขอบคุณเป็นเพลงที่จริงๆ มันก็เป็นตัวแทนของความคิดถึงได้เหมือนกัน ถ้ารู้สึกว่าคิดถึงใครบางคน ที่ไม่รู้ว่าอาจจะจากกันด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม ให้เพลงนี้แทนคำขอบคุณ แล้วก็แทนความคิดถึงแล้วกัน” สำหรับคนที่ฟังเพลงนี้ มะเหมี่ยวก็อยากจะบอกว่า “ไม่เป็นไรค่ะ เราเสียน้ำตาเหมือนกัน การร้องไห้เป็นเรื่องธรรมดา คิดถึงได้ เศร้าได้ มีความสุขได้ ทุกอย่างคือธรรมชาติ”

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : มะเหมี่ยว Mamio กับการเติบโตในฐานะศิลปินเดี่ยว พร้อมส่งซิงเกิ้ลใหม่แทนความคิดถึง

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th