โหรดังเตือน อุบัติภัยรอบใหม่ สูญทรัพย์ ชีวิต จุดเปลี่ยนกองทัพไทย
แม่หมอสมัครเล่น ตอนที่ 594 โดย ฟองสนาน จามรจันทร์ - ประชาชนกับทหารในดวงเมือง
ภาพดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์
กำเนิด: วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2325 เวลา 06.54 น.
ลัคนาสถิตราศีเมษ - ธาตุไฟ
พระอังคารดวงเดิม (๓) สถิตในราศีพฤษภ
พระจันทร์ดวงเดิม (๒) สถิตในราศีกรกฎ มาตรฐานเกษตราธิบดี - โยคหน้าพระอังคาร (๓)
อาถรรพ์ดวงเมืองตามฤกษ์กำเนิดที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่หนึ่ง พระผู้ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ได้ทรงเลือกมานั้น ผู้เขียนจะหยิบยกมาเล่า เพื่อที่เมื่อเมืองเกิดวิกฤตหรือคับขันมาก หรือหนักหนาสาหัสคราวใดแล้ว คนไทยจะได้มีกำลังใจว่า จะรอดได้แบบไม่น่าเชื่อ และหลังจากวิกฤตแล้วจะมีโอกาสตามมาทุกครั้ง
เรื่องนี้ปรากฏในตำนานวางเสาหลักเมือง หรือพระราชพิธีพระนครฐาน ที่ฤกษ์กำเนิดเมืองคือวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2325 เวลา 06.54 น. ที่พิสูจน์ความขลังมาแล้วถึงสี่ครั้งใหญ่ คือ
1. ศึกพระเจ้าปดุง หรือสงครามเก้าทัพที่สยามเสียเปรียบด้านกำลังพลมากมาย แต่เมื่อได้สู้เต็มที่แล้ว ข้าศึกก็มีปัญหาภายในต้องยกทัพกลับเอง หลังจากนั้นราชอาณาจักรสยามก็แผ่ไพศาล
2. เมื่อชาติตะวันตกล่าอาณานิคม สยามเป็นประเทศเดียวแถบนี้ที่รักษาเอกราชไว้ได้ แม้จะต้องจำใจแขนขาด เสียดินแดนไปมากมาย
3. เมื่อคราวสงครามโลกครั้งที่สอง - สงครามมหาเอเชียบูรพา ญี่ปุ่นบุกไทย ไม่มีทางเลือก ต้องประกาศสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตร แต่เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงคราม ไทยกลับรอดหวุดหวิดเส้นยาแดงผ่าแปดด้วยคณะเสรีไทย
4. ในสมัยรัชกาลที่เก้า เมื่อคราวกองทัพเวียดนามจ่อชายแดนไทย หมายจะบุกยึดเมือง คนส่วนใหญ่คาดว่าไทยจะล้มเป็นโดมิโน่ เป็นคอมมิวนิสต์ตามประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ แถบนี้ แต่วันดีคืนดี กองทัพเวียดนามกลับหายจากชายแดนไทย เพราะต้องไปรับมือกองทัพจีนที่ทำสงครามสั่งสอน
แม้แต่คราวโควิด-19 ระบาด หลังสู้เพื่อเอาชีวิตรอดกันผ่านไปแล้ว องค์การอนามัยโลกยังยกย่องระบบสาธารณสุขไทยในการรับมือโรคอุบัติใหม่
เมื่ออ่านจากดวงเดิมดวงเมืองแล้ว มีหลักหลายอย่างประกอบกันที่จะให้ไทยรอด วันนี้จะพูดถึงสองหลักคือทหารและประชาชนประกอบกัน คือ ลัคนาเมืองสถิตราศีเมษ พระอังคาร (๓) ซึ่งในความหมายทางโหรคือนักรบ - ลัทธิทหาร - กองกำลังของชาติ - ความกล้าหาญ - นักสู้ - การต่อสู้ - สงคราม - สนามรบ ฯลฯ จึงเป็นดาวประจำชีพเมือง (ตนุลัคน์) เมืองถือกำเนิดในวันอาทิตย์ พระอังคารจึงเป็นดาวเดช ตามหลักทักษาซึ่งหมายถึงตบะบารมี - อำนาจ
วินาทีที่ดวงชะตาเมืองถือกำเนิดจากพระราชพิธีพระนครฐานนั้น พระอังคารดวงเดิมสถิตในราศีพฤษภ จึงอยู่นำหน้าลัคนาเมืองที่สถิตราศีเมษ หรือทางโหรเรียก “ศูนย์พาหะ”
ความมุ่งหมายของพระผู้ทรงเลือกฤกษ์กำเนิดเมืองคือล้นเกล้าฯ รัชกาลที่หนึ่ง คงทรงมุ่งหมายให้ทหาร - ความกล้าหาญ - ความเข้มแข็ง - ตบะบารมี - ออกฤทธิ์เดชในบทบาทสำคัญ ที่จะนำพาเมืองฝ่าฟันไปข้างหน้าไปตลอดจนกว่าจะไม่มีเมือง
ฉะนั้น เราจึงจะเห็นกองทัพไทยมีบทบาทมาจูงประเทศตลอด บวกบ้าง - ลบบ้าง ก็ว่ากันไป แต่จะปฏิเสธอาถรรพ์ดวงเมืองที่ออกแบบมาเช่นนี้คงไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจูงเมืองให้รอดในช่วงคับขันหรือคราวศึกสงคราม
ต่อคำถามที่ว่า “ทหารมีไว้ทำไม?” ก็คงจะให้คำตอบได้จากดวงเมืองที่ออกแบบไว้เช่นนี้
แล้วด้วยอาถรรพ์ภายหลังต่อสู้ดิ้นรนเต็มที่แล้ว ถึงอย่างไรเมืองก็รอดที่ผ่านมาในอดีต คงพอจะสะท้อนให้กำลังใจคนไทยว่าสิ่งที่กำลังเกิดกับเมืองขณะนี้คือ เพื่อนบ้านกวนโมโห แถมคนไทยบางพวกที่มีอำนาจไปมีผลประโยชน์เกี่ยวพันคล้ายหลิ่วตาให้ข้าศึกมาระราน จนต้องเปิดศึกกันระหว่างไทย - กัมพูชาเมื่อเช้าตรู่วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 นั้น หากเชื่อมั่นในดวงเมืองแล้วก็จะได้มีกำลังใจ
ส่วนด้านลบของพระอังคาร ที่หนึ่งในความหมายคือการทะเลาะวิวาท อารมณ์ฉุนเฉียว เมื่อเป็นศูนย์พาหะคือนำหน้าลัคนาเมืองเช่นนี้ เราจึงเห็นคนไทยชอบทะเลาะกันเอง - หรือใจร้อน - วู่วาม จนกลายเป็นเรื่องปกติในเมือง
ทีนี้มาดูประชาชนในดวงเมืองว่า พวกเราอยู่กันที่ไหน?
หลักทางโหรนั้น ในดวงเมืองพระจันทร์ (๒) เป็นดาวตัวแทนประชาชน ถูกวางให้สถิตในราศีกรกฎ - ได้มาตรฐานเกษตราธิบดี คือมั่นคง
พระจันทร์นี้สถิตในราศีที่สามต่อจากพระอังคาร (๓) ทางโหรเรียก - พระจันทร์ (๒) ประชาชนโยคหน้าพระอังคาร อันมุมโยคนี้ทำให้ดาวที่ถูกโยค สำหรับดวงเมืองคือพระอังคาร (๓) เข้มแข็ง นั่นคือเมื่อมีเรื่องสงคราม หรือต้องสู้ ประชาชนจะช่วยให้ทหารหรือกองกำลังของชาติเข้มแข็ง
แค่ดูคราวนี้เหตุการณ์คับขันเกิดจากกัมพูชา เหล่าประชาชนชาวไทยทั้งหลายจึงพร้อมใจกันโอบอุ้มทหารและกองกำลังของชาติคนละไม้คนละมือแบบเหลือเชื่อ และจะเป็นเช่นนี้ตลอดไปจนกว่าจะไม่มีเมืองรัตนโกสินทร์
ฝากไว้สุดท้ายคือไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตามที่มีคำทำนายเดิมที่ให้ไว้ว่าระหว่าง 29 กรกฎาคม - 23 สิงหาคม 2568 ก่อนหรือหลังประมาณเจ็ดวัน ให้ระวังอุบัติเหตุ - อุบัติภัยรอบใหม่ ที่จะสูญเสียทั้งทรัพย์สินและชีวิตคนครั้งใหม่ต่อจากคราวตึก สตง. ถล่ม ที่จะเกิดได้ทุกทาง ดิน - น้ำ - ลม - ไฟ - ควัน - อากาศ - แก๊ส - ระเบิดนั้น
ที่นำมาก่อนแล้วคือน้องน้ำเพราะพายุวิภา และฤทธิ์คุณลุงข้างบ้าน จนต้องเปิดศึกกัน และยังจะมีตามมาอีกเป็นระลอก ๆ ใหญ่ให้รับมือในระหว่างนี้
นอกจากสู้แล้วรอดแล้ว อาถรรพ์ดวงเมืองอีกอย่างคือ ทุกวิกฤตจะนำมาซึ่งโอกาส
จึงเมื่อเมืองตีฝ่ารอบนี้ไปได้แล้ว เราน่าจะได้เห็นการพัฒนาขึ้นของกองทัพ - กองกำลังชาติแบบก้าวกระโดด ในระดับเมื่อยืนอยู่ข้างกำแพงพระนคร กรกฎาคม 2572 เราจะถามตัวเองว่า “กองทัพไทยไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร?”
เพราะระหว่างกรกฎาคม 2565 - กรกฎาคม 2572 ดาวมฤตยู เจ้าของการปฏิวัติใหญ่ เอื้อต่อการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในกองกำลังของชาติให้ล้ำสมัยมาก (มฤตยูจร o เดินในราศีพฤษภ - ทับพระอังคารดวงเดิมดวงเมือง)
จึงถ้าไม่ฉวยโอกาสใช้วิกฤตคราวนี้ลงมือให้กองทัพทัน - ล้ำสมัยแล้วละก็ จะน่าเสียดายมาก
ฟองสนาน จามรจันทร์
25 กรกฎาคม 2568