Texica Wine 15 ปีแห่งการนำ “จิตวิญญาณอิตาลี” สู่โต๊ะอาหารไทย เมื่อไวน์กลายเป็นการเดินทางทางวัฒนธรรม
สำหรับผู้ที่หลงใหลในไวน์และวัฒนธรรมอิตาเลียน Texica Wine จะเป็นอีกหนึ่งผู้ช่วยคุณให้เข้าถึงสิ่งเหล่านั้น เพราะ Texica Wine ไม่ได้เป็นเพียงผู้นำเข้าไวน์ระดับพรีเมียมจากอิตาลี แต่ยังเป็นสะพานเชื่อมโลกของไวน์เข้ากับวิถีชีวิตอย่างมีรสนิยม ผ่านปรัชญาที่มุ่งเน้น "การเล่าเรื่อง" มากกว่าการขายสินค้า และ “การเข้าใจวัฒนธรรม” มากกว่าการทำการตลาด
Texica Wine ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2553 โดยคุณอนุสร โลหะพันธกิจ นักเคมีผู้หลงใหลในไวน์อิตาเลียน และเชื่อมั่นว่าไวน์คือหนึ่งในภาษาทางวัฒนธรรมที่ทรงพลังที่สุดของอิตาลี ความตั้งใจเริ่มต้นจากการไม่สามารถหาไวน์อิตาเลียนสายพันธุ์หายากในเมืองไทยได้ จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างบริษัทที่เน้นการนำเข้าไวน์จากอิตาลีประเทศเดียว ซึ่งในขณะนั้นแทบไม่มีใครในตลาดกล้าเลือกเส้นทางนี้
ทำไมต้อง “ไวน์อิตาลี” ?
เพราะว่า ไวน์อิตาลี “ขายยาก” หนึ่งในเหตุผลสำคัญคือพันธุ์องุ่นของอิตาลีไม่เหมือนใคร ขณะที่ไวน์จากประเทศอื่นๆ จะนิยมใช้พันธุ์องุ่นหลักเพียงไม่กี่พันธุ์ เช่น Cabernet Sauvignon, Merlot, Chardonnay ฯลฯ จึงทำให้ผู้บริโภคคุ้นเคย และทำการตลาดเชิงพาณิชย์ง่ายกว่า แต่ในอิตาลีเพียงประเทศเดียวมีพันธุ์องุ่นที่ใช้ทำไวน์เชิงธุรกิจมากกว่า 300 สายพันธุ์
ตรงนี้เองที่หลายคนมองว่าเป็น อุปสรรค เพราะลูกค้าไม่คุ้นชื่อไวน์และพันธุ์องุ่น แต่สำหรับ Texica Wine กลับมองว่า “ยิ่งไม่รู้จัก ยิ่งดี” เพราะนั่นคือโอกาสที่จะได้เล่าเรื่องในสิ่งที่ยังไม่มีใครเล่า และไม่มีใครทำ
“ตอนแรกมันเหมือนจะเป็นอุปสรรค แต่จริงๆ แล้วมันคือโอกาส เพราะมันมีแต่วัฒนธรรมอิตาลีเท่านั้นที่มีความลึกขนาดนี้ และยังไม่มีใครเปิดเผยให้คนไทยรู้จักมากพอ” คุณอนุสร โลหะพันธกิจ, ผู้ก่อตั้ง Texica Wine อธิบาย
ด้วยเหตุนี้เอง Texica Wine จึงเลือกที่จะเดินเส้นทางเฉพาะทางสุดท้าทาย โดยเลือก นำเข้าเฉพาะไวน์จากอิตาลีประเทศเดียว และเน้นเฉพาะจากไร่ไวน์ขนาดเล็ก (Boutique Winery) ที่มีการผลิตแบบแฮนด์คราฟท์ สะท้อนรากเหง้า วัฒนธรรม และบุคลิกของพื้นที่นั้นๆ อย่างแท้จริง
ไวน์ที่เล่าเรื่องเมือง เรื่องคน เรื่องชีวิต
Texica Wine เชื่อว่าไวน์ เป็นมากกว่าเครื่องดื่มหรือรสชาติ แต่คือบทสะท้อนของภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ อาหาร ผู้คน และวิถีชีวิตของแคว้นต่าง ๆ ในอิตาลี ตั้งแต่ไร่องุ่นของครอบครัวเล็กๆ ในแคว้นทางใต้ ที่ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมอาหรับ-นอร์มัน ไปจนถึงไร่ไวน์ทางเหนือที่สะท้อนความเป็นขุนนางและความหรูหราอย่างสมบูรณ์แบบ
ไวน์ทุกขวดที่ Texica Wine คัดเลือก ล้วนสะท้อนเอกลักษณ์ของภูมิภาคต้นกำเนิด ทั้งจากแคว้นดังอย่าง Tuscany ไปจนถึงแคว้นเล็กๆ ที่รู้จักกันเฉพาะกลุ่ม ซึ่งล้วนมีมนต์เสน่ห์เฉพาะตัว ปัจจุบัน Texica Wine มีไวน์กว่า 300 ฉลาก จาก 18 แคว้นของอิตาลี
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ขอพาทุกคนไปรู้จักตัวอย่างไร่องุ่นจาก 3 แคว้นสำคัญที่มีโปรดักต์อยู่ในพอร์ตโฟลิโอของ Texica Wine ที่เปรียบเสมือนตัวแทนเสียงเล่าเรื่องจากแต่ละภูมิภาคของอิตาลี
Tuscany - Castello di Bossi
หนึ่งในไร่ไวน์ที่เก่าแก่และน่าจับตามองของแคว้น Tuscany โดยตั้งอยู่ในเขตประวัติศาสตร์ Gaiole in Chianti ของพื้นที่ Chianti Classico Castello di Bossi มีประวัติย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ 9 และมุ่งมั่นทำไวน์จากองุ่น Sangiovese แบบ 100% เพื่อสะท้อน “หัวใจ” ของไวน์ทัสคานีอย่างแท้จริง
ไร่นี้ยังยึดถือปรัชญา ความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity) โดยรักษาพื้นที่ป่าไม้รอบไร่ไว้ จนสามารถพบทรัฟเฟิลได้ในฤดูต่างๆ ซึ่งสะท้อนแนวคิดที่เคารพธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง ไวน์จาก Castello di Bossi มีบุคลิกคลาสสิก ซับซ้อน และบ่งบอกถึงรากเหง้าของ Chianti Classico อย่างแท้จริง
Piedmont - Marchesi di Barolo
ไร่ไวน์ระดับตำนานผู้ให้กำเนิดไวน์ Barolo ในแบบที่เรารู้จักกันทุกวันนี้ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง Barolo และเป็นจุดเปลี่ยนของไวน์อิตาเลียนเมื่อกว่า 200 ปีก่อน เมื่อ Marchesa Juliette ได้นำองค์ความรู้จากฝรั่งเศส มาประยุกต์กับองุ่น Nebbiolo ที่ขึ้นชื่อของแคว้น Piedmont จนได้ไวน์ที่มีโครงสร้างแข็งแรง ไม่หวาน และสามารถบ่มได้ยาวนาน Barolo จึงกลายเป็นไวน์ระดับราชา ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นไวน์สำหรับกษัตริย์แห่งอิตาลี ก่อนจะกลายเป็น “The King of Wine” ที่รู้จักกันทั่วโลก
ปัจจุบัน Marchesi di Barolo ยังคงดำเนินกิจการโดยตระกูล Abbona รุ่นที่ 5 และเป็นผู้ผลิต Barolo ที่ยังคงรักษาสไตล์ดั้งเดิมอย่างมั่นคง
Trentino-Alto Adige - Ferrari Trento
Ferrari Trento คือผู้นำด้านไวน์ฟองของอิตาลี และเป็นผู้บุกเบิกการทำ Sparkling Wine ด้วยวิธี Traditional Method ตั้งแต่ปี 1902 ตั้งอยู่ในเมือง Trento ท่ามกลางเทือกเขา Dolomite ที่มีอากาศเย็นและดินภูเขาที่อุดมสมบูรณ์ Ferrari Trento ได้ผลิตไวน์ในมาตรฐานสูงสุดจนได้รับสมญาว่าเป็น “Sparkling Wine แห่งการเฉลิมฉลองของอิตาลี” ไวน์รุ่นเรือธงอย่าง Giulio Ferrari Riserva del Fondatore ยังได้รับการยกย่องในระดับโลก และ Ferrari Trento ยังเป็น Sparkling Wine อย่างเป็นทางการของการแข่งขัน Formula 1 อีกด้วย
คุณอนุสร ตอกย้ำถึงเป้าหมายลำดับถัดไปว่า “เรามีความตั้งใจในการนำเข้าไวน์ให้ครบจาก ทั้ง 20 แคว้น ภายในปีหน้า เพื่อเติมเต็ม ‘แผนที่ไวน์’ ของอิตาลีในประเทศไทยอย่างสมบูรณ์”
Texica Wine เน้นย้ำเรื่องคุณภาพและความใส่ใจเป็นพิเศษ ไวน์ทุกขวดถูกนำเข้าผ่าน ตู้ควบคุมอุณหภูมิ (Cold-chain) เพื่อคงรสชาติที่แท้จริงให้เหมือนกับที่ดื่ม ณ ไร่องุ่นต้นทางมากที่สุด พร้อมสนับสนุนไวน์จากไร่ขนาดเล็ก (Boutique Winery) ซึ่งมีกระบวนการผลิตแบบแฮนด์คราฟท์ และมีบุคลิกเฉพาะตัวที่ไม่สามารถหาได้จากไวน์อุตสาหกรรม ฉะนั้น ที่ Texica Wine ไวน์ไม่ใช่แค่เครื่องดื่ม แต่คือ "เรื่องเล่า"
“ก่อนหน้านี้ที่เป็นผู้บริโภคอย่างเดียวก็พบความต่างของผลิตภัณฑ์ที่แม้จะเป็นฉลากเดียวกัน แต่ระหว่างชิมที่อิตาลีกับเมื่อกลับมาชิมที่ประเทศไทย สัมผัสได้ถึงรสชาติที่ต่างกันมาก
ภายหลังจึงทราบสาเหตุว่าประเทศไทยมีนำเข้าไวน์โดยใช้ตู้เก็บความเย็นยังมีไม่ถึงครึ่ง เนื่องจากมีต้นทุนที่ค่อนข้างสูง ในทางกลับกันเราให้ความสำคัญกับคุณภาพของไวน์มาก จึงตัดสินใจเลือกการขนส่งที่สามารถคงไว้ซึ่งรสชาติตามต้นฉบับไว้ได้มากที่สุด” คุณอนุสร กล่าว และอธิบายเพิ่มเติมว่า
เรื่องเล่าที่ดีต้องอาศัยการถ่ายทอดจากผู้ที่เข้าใจอย่างแท้จริง ผู้รับสารจึงจะเข้าถึงแก่นของเนื้อหาที่แท้จริงได้ ทีมขายของ Texica Wine จึงได้รับการฝึกฝนโดยการเดินทางไปสัมผัสประสบการณ์จริงในอิตาลีทุกปี เพื่อให้สัมผัสกับผู้ผลิตไวน์จริง ๆ จากแต่ละแคว้น สัมผัสถึงความเย็นของเช้าในแคว้น Friuli หรือแสงแดดอบอุ่นในแคว้น Puglia เพื่อกลับมาเล่าเรื่องไวน์เหล่านี้อย่างมีชีวิตชีวาและลึกซึ้งจากความเข้าใจจริง ให้กับเชฟ ซอมเมอลิเย่ร์ หรือเจ้าของร้านอาหารที่อยากเชื่อมต่อกับวัฒนธรรมอิตาลีอย่างแท้จริง
“เราไม่ได้ส่งมอบเพียงแค่ไวน์ แต่เราส่งต่อความเข้าใจในวัฒนธรรมอิตาเลียน ผ่านประสบการณ์ที่คนไทยสามารถสัมผัสได้จริง”
โดย Texica Wine ได้เลือกดำเนินธุรกิจในรูปแบบ Selective Distribution จำหน่ายเฉพาะให้กับร้านอาหารและโรงแรมระดับพรีเมียม เพื่อรักษาคุณภาพและประสบการณ์การดื่มไวน์ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ผู้ผลิตตั้งใจ ปัจจุบันเป็นพาร์ตเนอร์ของร้านอาหารมิชลินสตาร์ โรงแรมระดับ 5 ดาว และ Fine Dining ทั่วประเทศ
15 ปี Texica Wine – From Grape to Dance Floor
เนื่องในโอกาสครบรอบ 15 ปีของ Texica Wine ได้จัดงาน “Thank You Dance Party” ขึ้นเพื่อขอบคุณลูกค้า พันธมิตร และผู้มีอุปการคุณทุกท่าน ที่ได้ร่วมเดินทางบนเส้นทางแห่งรสชาติและวัฒนธรรมตลอดหนึ่งทศวรรษครึ่งที่ผ่านมา
งานจัดขึ้นในบรรยากาศสบายๆ แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ณ Bangkok Convention Center Grand at Central World สถานที่สุดพิเศษในกรุงเทพฯ พร้อมเสิร์ฟไวน์คุณภาพระดับตำนานจากแคว้นต่าง ๆ ที่ล้วนเป็นจุดเริ่มต้นของ Texica Wine ตั้งแต่วันแรกที่ก่อตั้งขึ้น
พร้อมอาหารคู่ไวน์และกิจกรรมทางดนตรีสุดพิเศษจากเจ เจตริน วรรธนะสิน และคริสติน่า อากีล่าร์ ตัวแทน King & Queen of Dance มาแชร์ความสนุก เพื่อตอกย้ำว่าไวน์ คือวัฒนธรรมที่มีชีวิต เคลื่อนไหว และแบ่งปันได้
“จากคนรักไวน์คนหนึ่ง… ถึงวันนี้ที่มีโอกาสได้แบ่งปันไวน์จากทุกภูมิภาคในอิตาลีให้คนไทยได้รู้จัก มันคือ 15 ปีที่มีความหมาย และนี่เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น” คุณอนุสร กล่าวทิ้งท้าย