แม่ทัพภาค 2 ลั่น ปิดด่านชายแดนยันเกษียณ หาทางนำปราสาทตาควายกลับมา
วันที่ 14 ส.ค. 68 พล.ท. บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยถึงกรณีประชุม RBC ระหว่างแม่ทัพภาคที่ 2 และ ผู้บัญชาการภูมิภาคทหาร ฝ่ายกัมพูชา ว่า เขาตอบรับแล้วในช่วงปลายเดือน ส.ค.นี้ จะมีการประชุมฝ่ายเลขานุการ โดยก็จะมีการหารืออีกครั้งว่ามีประเด็นใดบ้าง สำหรับสถานที่หารือจะเป็นแนวเขตชายแดนฝั่งไทย เพื่อความสบายใจ 2 ฝ่าย
ส่วนจะมีการพูดคุยถึง 11 พื้นที่ที่ฝ่ายไทยควบคุมไว้หรือไม่ นั้น เราก็ควบคุมอยู่ ไม่ถอนทหาร และเราก็อยู่ตรงนั้น ถึงได้มีคำว่า ลวดหนาม และใช้จำนวนมาก
พล.ท. บุญสิน ยันยืนชัดว่า พื้นที่ปราสาทตาควายเป็นของไทย แต่ก็ต้องหาวิธีนำกลับมา ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ทั้งทางระหว่างประเทศและภายในประเทศ ส่วนจะคาดหวังการประชุม RBC ครั้งนี้ได้มากน้อยอย่างไร และกำหนดขั้นตอนการปฏิบัติ 13 ข้อ ที่นำไปสู่การหยุดยิงได้เป็นรูปธรรมหรือไม่ อยู่ที่แม่ทัพฝ่ายกัมพูชาจะต้องรอคำยืนยันจากผู้บังคับบัญชาเช่นกัน
สำหรับการจัดการทุ่นระเบิด พล.ท. บุญสิน กล่าวว่า มีการปรับการเฝ้าตรวจระยะไกล ใช้เครื่องมือพิเศษ รวมถึงโดรนตรวจสอบ วางลวดหนาม ซึ่งการประชุม RBC จะพูดถึงทุ่นระเบิดหรือไม่ นั้น พล.ท.บุญสิน ยอมรับว่า เป็นหนึ่งในเรื่องที่จะนำเข้าที่ประชุม เพราะผิดเงื่อนไขในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการใช้ระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งทางกัมพูชาก็เป็นสมาชิกด้วย ถ้าเขาไม่ยอมรับ เราจะประท้วงและสื่อสารไปทางสากลให้รับทราบด้วย
แม้แต่เวที GBC ทางกัมพูชาไม่ตอบรับเก็บกู้ทุ่นระเบิดจะทำอย่างไร พล.ท. บุญสิน กล่าวว่า ในเวที RBC เราจะพูดอีก ถ้าไม่ยอมรับ เราจะชี้แจงต่อสังคมโลก ให้ UN ช่วยดูว่าเกิดอะไรขึ้น และต้องให้ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) เข้ามาช่วยดู ส่วนที่เขาปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนวางทุ่นระเบิด ก็เป็นวิธีของเขา ซึ่งตนเองเตรียมเรื่องการชี้แจง รวมถึงการใช้กำลังไว้พร้อมทั้งหมด
ส่วนการที่เราสื่อสารว่าพร้อมใช้สิทธิ์ป้องกันตัวเอง พล.ท. บุญสิน กล่าวว่า เป็นเรื่องของรัฐบาล ส่วนของเราก็ปฎิบัติหน้าที่ต่อ โดยท่าทีกัมพูชาต่อเรื่องนี้เป็นปกติ และมีการเตรียมพร้อมในส่วนของเขา แต่ฝ่ายไทยก็ไม่ประมาท ย้ำว่า ในพื้นที่ยังไม่มีการถอนกำลัง อาวุธต่าง ๆ ยังคงอยู่เหมือนเดิม และมองว่าฝ่ายกัมพูชายังไม่ลดราวาศอกในเรื่องของการใช้ทุ่นระเบิด
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ยังไว้วางใจไม่ได้ ใช่หรือไม่ พล.ท. บุญสิน กล่าวว่า ยังไม่มีการถอนกำลัง และอาวุธหนักก็ยังอยู่ ส่วนการใช้รถกวาดทุ่นระเบิด ก็ได้ประโยชน์ แต่บางจุดเข้าไม่ถึง เพราะเป็นป่าทึบ ต้องใช้วิธีอื่น
ส่วนที่มีรายงานว่ากัมพูชา ขึงตาข่ายกันโดรน นั้น พล.ท. บุญสิน บอกว่า ตาข่ายกันโดรนเป็นของทั้งสองฝ่าย ทั้งไทย และกัมพูชา กันปกติ ซึ่งกัมพูชากันในพื้นที่เขา ในส่วนของไทยก็ทำเหมือนกัน กั้นไว้ก่อน ยืนย้นว่าไม่ได้ล้ำเขตแดนไทยมา
ส่วนเป็นโดรนจากประเทศที่ 3 หรือไม่ นั้น เท่าที่ดูแล้ว เป็นกลุ่มที่เสียผลประโยชน์ แต่ทางการจีนยืนยันแล้วว่าไม่เกี่ยว
ขณะที่รัฐบาลส่งสัญญาณเรื่องการเปิดด่านแล้วหรือไม่ พล.ท. บุญสิน กล่าวว่า “ทางเรายังไม่พร้อม ถ้าถาม เรายังไม่พร้อม” จากนั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวทีเล่นทีจริงว่า “ปิดยันเกษียณฯ” พร้อมหัวเราะ.