สภาพัฒน์ รับลูก มท. - กกร. ปรับโครงสร้างใหญ่ "กรอ. 77 จังหวัด- 18 กลุ่มจังหวัด" ทั่วประเทศ องค์ประกอบ "ใหม่" ปรับเพียบ!
สภาพัฒน์ รับลูก มหาดไทย - กกร. ปรับโครงสร้างใหญ่ "กรอ.จังหวัด-กลุ่มจังหวัด" ทั่วประเทศ พ่วงทั้งองค์ประกอบ/อํานาจหน้าที่ "พ่อเมือง- 18 หัวหน้ากลุ่ม" ยังนั่งหัวโต๊ะเหมือนเดิม ร่วม 4 ประธาน กกร. "หอการค้า สภาอุตฯ สภาท่องเที่ยวฯ สมาคมธนาคารไทย" ใน 77 จังหวัด 18 กลุ่ม เพิ่มจำนวน "ผู้ทรงคุณวุฒิ - ผู้แทนสถาบันการศึกษา - ผู้แทนธุรกิจ/ประชาสังคม (เลือกกันเอง) นั่งวาระคราวละ 3 ปี "เพิ่ม" กรณีพ้นตำแหน่ง สามารถกลับมาเป็นอีก แต่ไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน เน้นบทบาท "เอกชนส่วนกลาง/ภูมิภาค" ร่วมพัฒนา ขับเคลื่อน แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ในแต่ละพื้นที่ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
วันนี้ (15 ส.ค.2568) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าตามข้อเสนอปรับปรุงองค์ประกอบของ คณะกรรมการร่วมภาครัฐ และเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) จังหวัด และ กรอ. กลุ่มจังหวัด
ตามข้อเสนอของ สํานักงานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่ เสนอมายังปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้พิจารณาปรับปรุงแก้ไขร่างคําสั่ง และคําสั่งแต่งตั้ง กรอ.จังหวัด และ กรอ.กลุ่มจังหวัด
ล่าสุด สํานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ในฐานะฝ่ายเลขานุการ กรอ.ส่วนกลาง มีหนังสือแจ้งถึงกระทรวงมหาดไทย ต่อการพิจารณาข้อเสนอการปรับปรุงโครงสร้างองค์ประกอบและอํานาจหน้าที่
เห็นว่าการปรับปรุงโครงสร้างองค์ประกอบและอํานาจหน้าที่ของ กรอ.จังหวัด และ กรอ.กลุ่มจังหวัด
เพื่อให้สอดคล้องกับคําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ และเป็นไปตามสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศและนโยบายของรัฐบาล ตลอดจนเพื่อสนับสนุนและส่งเสริม กรอ.ส่วนกลาง
โดยเฉพาะ บทบาทให้ภาคเอกชนทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคได้มีส่วนร่วมกับภาครัฐในการพัฒนาประเทศให้มี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ กรอ.จังหวัด และ กรอ.กลุ่มจังหวัด เป็นกลไกขับเคลื่อนการพัฒนา และแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจให้เป็นไปตามบริบทและศักยภาพในแต่ละพื้นที่ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
เห็นควร ให้ความสําคัญกับการประชุม กรอ.จังหวัด และ กรอ.กลุ่มจังหวัดให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ ตามมติคณะรัฐมนตรี 28 เม.ย.2552 และ 27 ต.ค. 2558
สำหรับองค์ประกอบใหม่ ของ กรอ.จังหวัด จะยังมี ผู้ว่าราชการจังหวัด นั่งเป็นประธานกรรมการฯ มีรองผู้ว่าฯ ที่ผู้ว่าฯมอบหมายให้รับผิดชอบงานภารกิจด้านเศรษฐกิจ เป็นรองประธานกรรมการ
ขณะที่ กรรมการ ประกอบด้วย ประธานหอการค้าจังหวัด ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัด และ ประธานสมาคมธนาคารไทยจังหวัด ในสัดส่วนภาคเอกชน
นอกจากนั้น จะมีกรรมการในสัดส่วน "ผู้ทรงคุณวุฒิ" ประกอบด้วย ด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การค้าการลงทุน การค้าชายแดน การเกษตร ฯลฯ จำนวนไม่เกิน 2 คน ผู้แทนสถาบันการศึกษาในจังหวัด 1 คน
ส่วนกรรมการ "ภาครัฐ" ประกอบด้วย คลังจังหวัด พาณิชย์จังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด เกษตรและสหกรณ์จังหวัด ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ท้องถิ่นจังหวัด และประชาสัมพันธ์จังหวัด
หัวหน้าส่วนราชการ หรือหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐซึ่งมิใช่รัฐวิสาหกิจ ที่มีสำนักงานอยู่ในจังหวัด ไม่ว่าจะมีฐานะเป็น ราชการบริหารส่วนภูมิภาค หรือราชการ บริหารส่วนกลางที่ผู้ว่าราชการจังหวัด เห็นสมควร จำนวนไม่เกิน 2 คน
ขณะที่ฝ่ายเลขานุการ ประกอบด้วย หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเลขาธิการหอการค้าจังหวัดเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมจังหวัด เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัด เลขาธิการสมาคมธนาคารไทยจังหวัด และ ผอ.กลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัด สำนักงานจังหวัด
โดยให้กรรมการดังกล่าว มีวาระดำรงตำแหน่ง คราวละ 3 ปี ผู้ซึ่งพ้นจากตำแหน่งแล้ว อาจได้รับแต่งตั้งอีกได้ แต่ไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน
นอกจากนี้ องค์ประกอบของ กรอ.กลุ่มจังหวัด หัวหน้ากลุ่มจังหวัด 18 กลุ่ม (ผู้ว่าฯหัวหน้ากลุ่ม) จะนั่งประธานกรรมการ มีผู้ว่าฯ ในกลุ่มจังหวัด เป็นรองประธานฯ
กรรมการภาคเอกชน ได้แก่ ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัด ประธานสภาอุตสาหกรรมกลุ่มจังหวัด ประธานกลุ่มจังหวัดสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประธานสมาคมธนาคารไทยกลุ่มจังหวัด
ส่วนกรรมการ "ภาครัฐ" ประกอบด้วย หัวหน้าส่วนราชการ หรือหน่วยงานรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นของรัฐซึ่งมิใช่รัฐวิสาหกิจ ที่ผู้ว่าฯในกลุ่มจังหวัดเห็นสมควร จังหวัดละไม่เกิน 3 คน
สัดส่วน "ผู้ทรงคุณวุฒิ" ด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การค้าการลงทุน การค้าชายแดน การเกษตร ฯลฯ จำนวนไม่เกิน 4 คน
"มีการเพิ่ม ผู้แทนภาคธุรกิจเอกชน ภาคประชาสังคม ที่มีบทบาทขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ ใน กรอ.จังหวัด คัดเลือกกันเองให้ได้ผู้แทน ใน กรอ.กลุ่มจังหวัด จังหวัดละไม่เกิน 4 คน"
ผู้แทนสถาบันการศึกษาในกลุ่มจังหวัด 1 คน ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในกลุ่มจังหวัดที่ผู้ว่าฯ เห็นสมควร จังหวัดละ 1 คน
ขณะที่ ฝ่ายเลขานุการ ใช้องค์ประกอบเดียวกับ กรอ.จังหวัด แต่เป็นสัดส่วนตัวแทน 18 กลุ่มจังหวัด และตัวแทนเลขาธิการ กกร.ของแต่ละกลุ่มจังหวัด
ทั้งนี้ กรรมการดังกล่าว มีวาระดำรงตำแหน่ง คราวละ 3 ปี ผู้ซึ่งพ้นจากตำแหน่งแล้ว อาจได้รับแต่งตั้งอีกได้ แต่ไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน เช่นเดียวกับ กรอ.จังหวัด
ขณะที่อำนาจหน้าที่ ของ กรอ.จังหวัด และ กรอ. กลุ่มจังหวัด ทั้ง 8 ข้อ มีองค์ประกอบไม่แตกต่างกัน
ประกอบด้วย 1. การวางยุทธศาสตร์และขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจภายใน จังหวัดและกลุ่มจังหวัด ให้เข้มแข็งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และยุทธศาสตร์ชาติ
รวมทั้งจัดทำข้อเสนอแผนงานโครงการและตัวชี้วัดด้านเศรษฐกิจ เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณต่อคณะกรรมการบริหารงานจังหวัด และกลุ่มจังหวัด แบบบูรณาการ (ก.บ.จ. และ ก.บ.ก.) กระทรวงมหาดไทย รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
2. บูรณาการหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ท้องถิ่น รวมทั้งสถาบันการศึกษาในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใน จังหวัดให้เข้มแข็งและเชื่อมโยงกลุ่มจังหวัด และระดับภาคตามนโยบายและมาตรการของรัฐบาล
3) ประสานเชื่อมโยงกับกระทรวงมหาดไทย กรอ.ส่วนกลาง และ/หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตัดสินใจเชิงนโยบายหรือสั่งการได้ทันต่อสถานการณ์
4) ติดตามผลการดำเนินงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พร้อมทั้งจัดทำรายงานผลความก้าวหน้า ปัญหาอุปสรรคและแนวทางแก้ไขเสนอโดยตรงต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
5) เผยแพร่ และประชาสัมพันธ์ ข้อมูลข่าวสารการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของ จังหวัดและกลุ่มจังหวัดให้ทุกภาคส่วนทราบอย่างทั่วถึง
6) เชิญหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กร และบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ข้อมูลและ ให้คำปรึกษาในเรื่องที่เกี่ยวข้อง ตามอำนาจหน้าที่ของ กรอ.จังหวัดกรอ. และกลุ่มจังหวัด ได้ตามความจำเป็น
7) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานในการขับเคลื่อนหรือปฏิบัติงานให้บรรลุผลตามยุทธศาสตร์และนโยบายรัฐบาล
8) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัด และ หัวหน้ากลุ่มจังหวัด มอบหมาย.
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO