คปภ.กางยุทธศาสตร์แผนพัฒนาฉบับที่ 5 รับมือสารพัดความเสี่ยงยุคใหม่ ทั้งภูมิรัฐศาสตร์-เทคโนโลยี -กระแส ESG-สู่โหมดSuper Aged Society
สำนักงาน คปภ. เปิดยุทธศาสตร์แผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 5 รับมือความเสี่ยงยุคใหม่ เตรียมเปิดประชาพิจารณ์ หลังเดินหน้าเวที Focus Group วางกรอบทิศทางอุตสาหกรรมประกันภัยไทยสู่อนาคต
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) เดินหน้าจัดทำ “แผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2569 - 2573)” ซึ่งจะเป็นกรอบยุทธศาสตร์หลักในการกำหนดทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมประกันภัยของประเทศไทยในช่วง 5 ปีข้างหน้า ภายใต้บริบทของเศรษฐกิจที่ผันผวน เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นของประชาชนต่อระบบการบริหารความเสี่ยง
นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. มอบนโยบายให้จัดทำแผนฉบับใหม่โดยยึดหลัก “การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน” เพื่อให้เป็นแผนที่สะท้อนความต้องการของผู้มีส่วนได้เสียอย่างแท้จริง ทั้งภาคธุรกิจ ผู้บริโภค และภาครัฐ พร้อมกำหนดให้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านเวที Focus Group และเวทีประชาพิจารณ์ (Public Hearing) อย่างรอบด้าน ก่อนนำเสนอต่อคณะกรรมการ คปภ. เพื่อพิจารณาเห็นชอบ
ล่าสุด นางสาวชญานิน เกิดผลงาม รองเลขาธิการ ด้านกลยุทธ์และเทคโนโลยี เป็นประธานการประชุมหารือกับภาคธุรกิจประกันชีวิตและประกันวินาศภัยในรูปแบบ Focus Group เพื่อระดมความคิดเห็นเชิงลึกต่อร่างกรอบแนวทางของแผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 5 โดยมีผู้แทนจากสมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันวินาศภัยไทย บริษัทประกันภัยชั้นนำ และตัวแทนหน่วยงานภาคเอกชนเข้าร่วมอย่างคับคั่ง การหารือครั้งนี้ครอบคลุม 4 แนวทางสำคัญ ได้แก่
การสร้างความตระหนักรู้และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ผ่านการสื่อสาร การส่งเสริมความรู้ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เข้าใจง่าย
การเสริมสร้างเสถียรภาพและศักยภาพในการปรับตัวของบริษัทประกันภัย เพื่อรองรับความเสี่ยงใหม่ ๆ เช่น ภัยไซเบอร์ ภัยพิบัติจากสภาพอากาศ และการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี
การผลักดันให้ภาคประกันภัยมีบทบาทสนับสนุนเศรษฐกิจและสังคมไทย เช่น การประกันภัยภาคเกษตร การประกันรายได้แรงงาน และการส่งเสริมให้ประชาชนมีหลักประกันด้านสุขภาพ
การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของระบบประกันภัย ทั้งด้านกฎหมาย ฐานข้อมูล ระบบกำกับ และเทคโนโลยี เพื่อให้ทันสมัย โปร่งใส และเป็นธรรม
สำหรับขั้นตอนต่อไป สำนักงาน คปภ. จะรวบรวมผลจากการระดมความคิดเห็น และประมวลข้อมูลเชิงประจักษ์เพื่อจัดทำ Problem Statement และยกร่างแผนอย่างเป็นระบบ พร้อมเปิดเวทีประชาพิจารณ์ในช่วงเดือนกันยายน 2568 เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะจากสาธารณชน ก่อนเสนอต่อคณะกรรมการ คปภ. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบภายในปลายปีนี้
รองเลขาธิการฯ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดช่วงที่ผ่านมา สำนักงาน คปภ. ได้จัดทำแผนพัฒนาการประกันภัยมาแล้ว 4 ฉบับ โดยเฉพาะแผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2564 - 2568) ที่ได้วางรากฐานสำคัญให้ภาคธุรกิจประกันภัยปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ การบริหารความเสี่ยง และขยายหลักประกันไปสู่ประชาชนกลุ่มเปราะบางสำหรับแผนฉบับใหม่ สำนักงาน คปภ. ประเมินว่า ปัจจัยสำคัญที่อุตสาหกรรมประกันภัยต้องเผชิญในอนาคต ได้แก่ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ การเข้าสู่สังคมสูงวัยระดับสุดยอด (Super Aged Society) กระแสความยั่งยืน (ESG) ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เช่น AI, Big Data, Open Data และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการบริการที่รวดเร็ว โปร่งใส และยืดหยุ่น เช่น ประกันภัยแบบ Usage-based และช่องทางดิจิทัลที่เข้าถึงง่าย
ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. ตั้งเป้าให้แผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 5 เป็นกลไกสำคัญในการยกระดับระบบประกันภัยไทยให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก ด้วยมาตรฐานการกำกับดูแลที่เข้มแข็ง การส่งเสริมนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค และการพัฒนาธุรกิจที่มีความยืดหยุ่น ทันสมัย และรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมทั้งทำหน้าที่เป็นหลักประกันความมั่นคงของประชาชนอย่างแท้จริงในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติ โรคระบาด ความผันผวนทางเศรษฐกิจ หรือแม้แต่ความเสี่ยงจากภูมิรัฐศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้าได้อย่างมั่นคง ยั่งยืน และมีภูมิคุ้มกันต่อความไม่แน่นอนในอนาคต