เครือข่ายงดเหล้าชมแม่ใจเด็ดเลิกน้ำเมาเพื่อลูก
เมื่อวันที่ 11 ส.ค. นายธีระ วัชรปราณี ผอ.เครือข่ายงดเหล้า เปิดเผยว่า เครือข่ายงดเหล้า และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ทำโครงการโพธิสัตว์น้อยลูกขอพ่อแม่เลิกเหล้า เป็นกิจกรรมในการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาในปีนี้ เป็นปีที่ 16 โดยความร่วมมือกับสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ซึ่งมีโรงเรียนเข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 1,750 แห่งทั่วประเทศ ดำเนินกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค. ถึงวันออกพรรษา 7 ต.ค. 2568 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีโรงเรียนเข้าร่วม 1,238 แห่ง มีนักเรียนเขียนจดหมายโดยส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมเพราะเห็นว่าโครงการมีกิจกรรมที่น่าสนใจ สอดคล้องกับปัญหาของโรงเรียนโดยเฉพาะผู้ปกครองที่ดื่มสุราแล้วมีการใช้ความรุนแรงส่งผลต่อการเรียนรู้ของนักเรียนอย่างชัดเจน บางโรงเรียนแจ้งว่าในชุมชนเต็มไปด้วยอบายมุขทำให้สังคมแย่มาก โครงการนี้น่าจะช่วยได้เป็นรูปธรรมโดยแก้ปัญหาที่ครอบครัวใช้ความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูก
น.ส.อภิศา มะหะมาน ผู้รับผิดชอบโครงการ กล่าวว่า โรงเรียนได้มีการนำคู่มือแบบง่าย ที่ทางโครงการออกแบบไว้ไปใช้เป็นสื่อในการเรียนการสอนตามแนวทาง Active Learning โดยมีจุดเด่นคือ นักเรียนรุ่นพี่สอนนักเรียนรุ่นน้องทำกิจกรรม 10 อย่าง ที่ช่วยทำให้มีความรับผิดชอบและกล้าแสดงออก ได้แก่ พี่สอนน้องท่องความดี, พี่สอนน้องเรียนคณิตคิดค่าเหล้า, พี่สอนน้องเอาตับแช่เหล้า, พี่สอนน้องเขียนจดหมายสื่อรักขอพ่อแม่เลิกเหล้า, พี่สอนน้องสอนออมสินสื่อรักพิทักษ์ครอบครัว และพี่สอนน้องทำแปลงผักสื่อรัก เป็นต้น โดยมีครูเป็นพี่เลี้ยง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ค่อยมีจากต้นสังกัดที่มีคู่มือและสื่อการสอนมาพร้อม ทั้งนี้เมื่อปี 2567 ซึ่งมีผู้ปกครองร่วมงดเหล้า 14,590 คน ครูและผู้บริหารร่วมลดละเลิกกว่า 4,866 คน นักเรียนเข้าร่วม 25,811 คน ส่วนปีนี้คาดว่า จะมีการดำเนินงานที่เพิ่มมากขึ้น มีครอบครัวที่มีความสุขมีสติมากขึ้นพร้อมสู้กับภัยวิกฤติสังคมได้ดีมากขึ้น
"โครงการโพธิสัตว์น้อยลูกขอพ่อแม่เลิกเหล้า ได้ออกแบบกระบวนการเป็นทั้งในเชิงป้องกัน (ลูก) หรือสร้างภูมิคุ้มกัน และแก้ไข (พ่อ แม่ผู้ปกครอง ครู) ควบคู่กันไป โดยใช้สัมพันธ์แห่งรักระหว่างครอบครัว รุ่นพี่ รุ่นน้องในโรงเรียน การสร้างภูมิคุ้มกันเด็กเยาวชน ที่ได้ผลคือการให้เด็กเยาวชนได้ลงมือปฏิบัติ และเรียนรู้จากการลงมือทำมากกว่าจะสั่งสอน ตามหลักจิตวิทยาเด็กเยาวชนในแต่ละช่วงวัยมีวิธีการสัมพันธ์กับคนรอบข้างที่แตกต่างไป โดยสรุป คือ ในวัยเด็กประถมศึกษา เด็กจะสนใจในประเด็นง่ายๆ สิ่งไหนถูก สิ่งไหนผิด และจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู ทำให้การเรียนการสอนครู ผู้ปกครองมีบทบาทมาก รวมทั้ง ผู้ใหญ่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีกับเด็ก คือ ต้องไม่พูดอย่างทำอย่าง" น.ส.อภิศา กล่าว.