โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

แรงงาน GenZ ส่อวิกฤต เริ่มขาดแคลนหันทำอาชีพอิสระ เมินทำงานประจำ

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 20 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยสถานการณ์แรงงานระบุว่า ไตรมาส 2 ปี 2568 มีผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงานทั้งสิ้น 40.12 ล้านคน ในจำนวนนี้มีผู้ที่มีงานทำ 39.51 ล้านคน และมีผู้ว่างงาน 0.37 ล้านคน คิดเป็นอัตราการว่างงาน 0.9% นอกจากนี้ยังมีผู้ที่รอฤดูกาลอีก 0.24 ล้านคน ส่วนผู้ที่อยู่นอกกำลังแรงงานมีจำนวน 19.31 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็ก/ผู้สูงอายุ/ผู้ป่วย หรือผู้พิการที่ทำงานไม่ได้ และผู้ที่ทำงานบ้านหรือกำลังเรียนหนังสือ

ทั้งนี้ ในจำนวนผู้ว่างงาน 3.7 แสนคน พบว่า เป็นผู้ที่เคยทำงานมาก่อน มีจำนวน 1.38 แสนคน ซึ่งส่วนใหญ่เคยทำงานในภาคบริการและการค้า (0.92 แสนคน หรือ 66.8 %) รองลงมาคือภาคการผลิต (0.33 แสนคน หรือ 24.1% ) และภาคการเกษตร (0.13 แสนคน หรือ 9.1 %) ผู้ที่ไม่เคยทำงานมาก่อน มีจำนวน 2.28 แสนคน

โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยเยาวชนอายุ 15-24 ปี ( 75.8% ) ซึ่งเป็นกลุ่มที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาและเข้าสู่ตลาดแรงงานเป็นครั้งแรก และวัยผู้ใหญ่อายุ 25 ปีขึ้นไป (24.2 %)

จากข้อมูลดังกล่าว โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่ไม่เคยทำงานมาก่อน มีจำนวน 2.28 แสนคน ที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยเยาวชนอายุ 15-24 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาและเข้าสู่ตลาดแรงงานเป็นครั้งแรก กำลังจะสะท้อนให้เห็นให้เห็นถึงทัศนคติของ Gen Z ที่ไม่ยึดติดกับการเป็นลูกจ้างประจำเหมือนคนรุ่นก่อน

แต่หันไปประกอบอาชีพอิสระ หรือสร้างธุรกิจของตัวเอง เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานกำลังเปลี่ยนแปลงไป และนำไปสู่ปัญหาการขาดแคลนแรงงานมากขึ้น โดยเฉพาะในภาคการผลิต และภาคเกษตรกรรม

Gen Z เข้าสู่ตลาดแรงงานช้าลง

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า Gen Z ถือกลุ่มประชากรที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อตลาดแรงงานในอนาคต ที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญ เนื่องจากบางส่วนเลือกจะไม่เรียนต่อ จากความกังวลต่อระบบการศึกษา อาทิ คุณภาพการศึกษา ค่าใช้จ่ายในการเรียน ตลอดจนคิดว่า ระบบการเรียนไม่มีความยืดหยุ่น โดยพบว่า ในปี 2557 กลุ่ม Gen Z เข้าสู่ตลาดแรงงานช้าลง มีการว่างงานมากกว่า 1 ปีอยู่ที่ 1.2 % และเพิ่มเป็น 13.6 % ในปี 2567 สูงกว่าทุกช่วงอายุก่อนหน้า

อีกทั้ง ยังมีอัตราการว่างงานในกลุ่มผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อนสูงสุดที่ 48.5 % ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการให้ความสำคัญกับการค้นหาตัวเอง(Gap Year) มีความเป็นผู้ประกอบการในตัวเองสูง โดยหันไปทำธุรกิจส่วนตัวเพิ่มขึ้น จากช่วงก่อน COVID-19 โดยในปี 2563 Gen Z เลือกทำงานเป็นผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัวโดยไม่มีลูกจ้าง ในสัดส่วนเฉลี่ยที่ประมาณ 0.4 % ต่อปี เพิ่มเป็น 1.8 % ถึงช่วงปัจจุบัน

ทั้งนี้ แนวคิดในการจัดสรรเวลาและชีวิต ให้เกิดความสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว(Work-Life Balance) เป็นปัจจัยหลักที่ Gen Z ให้ความสำคัญที่สุด โดยพร้อมที่จะเปลี่ยนงานหากพบว่า บริษัท ไม่ตอบสนองความต้องการ

ในขณะที่ รายงานของ Work Trend Index 2024 พบว่า Gen Z มีความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีช่วยในการทำงาน โดยมีการนำ AI มาใช้ในงานถึง 85 % สูงกว่าช่วงอายุอื่นและค่าเฉลี่ยทั่วโลก ซึ่งอยู่ที่ 75% และมีแนวโน้มที่จะขาด Soft Skills ที่จำเป็นต่อการทำงาน โดยเฉพาะทักษะ ด้านการสื่อสาร

สศช.ระบุอีกว่า จากทัศนคติและพฤติกรรมของ Gen Z ดังกล่าว กำลังนำไปสู่ความกังวลของผู้ประกอบการในการรับเด็กจบใหม่เข้าทำงานเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะทัศนคติและพฤติกรรมบางประการที่อาจไม่คุ้มต่อการจ้างงาน อาทิการลาออกหรือ เปลี่ยนงานบ่อย การเข้าสู่ตลาดแรงงานช้าที่ทำให้มีประสบการณ์ในการงานน้อย จะส่งผลต่อความเสี่ยงที่เด็ก Gen Z จะว่างงานเพิ่มขึ้น

โดย ในปี 2567 Gen Z มีอัตราการว่างงาน อยู่ที่ 3.8% สูงกว่าทุกช่วงอายุ และเมื่อพิจารณาตามระดับการศึกษา ยังพบว่ากลุ่มอุดมศึกษาเป็นกลุ่มที่มีอัตราการว่างงานสูงที่สุดที่ 2.0 % ทั้งนี้ แม้ว่ากลุ่ม Gen Z จะมีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถใช้เทคโนโลยีในงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการพึ่งพา AI มากเกินไป ที่อาจทำให้ระบบการเรียนรู้ของผู้ใช้ถดถอย ตลอดจนขาดทักษะการใช้งาน AI เชิงลึก และขาดการคิดเชิงวิพากษ์ต่อผลลัพธ์จาก AI ที่เหมาะสม

แรงงานกลุ่ม เริ่มหายาก

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย ให้ความเห็นว่า ปัจจุบันไทยกำลังประสบปัญหาแรงงานกลุ่ม Gen Z เนื่องจากเด็กรุ่นใหม่ที่จบออกมาไม่เข้าสู่ตลาดแรงงาน แต่จะประกอบอาชีพอิสระ หรือฟรีแลนซ์เป็นจำนวนมาก เช่น เป็นยูทูปเบอร์ เจ้าของร้านค้าออนไลน์ นักพัฒนาเกม เป็นต้น ทำให้เวลานี้ผู้ประกอบการที่ต้องการหาคนที่ตรงกับงานยาก แม้จะจ้างเป็นพนักงานฟูลไทม์ก็ยังไม่มา

“ในข้อเท็จจริงผู้ประกอบการต้องการคนรุ่นใหม่ร่วมงาน แต่เวลานี้หายาก เพราะเด็กรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดแรงงานน้อย และหันไปทำอาชีพอิสระจำนวนมาก ในอดีตเราจะเป็นคนเลือกเขา แต่เวลานี้กลับกัน “เขาเป็นคนเลือกเรา” นายธนิต กล่าว

ภาคผลิตต้องการแรงงานมีทักษะ

นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) สะท้อนว่า การบริหารจัดการแรงงานควรปรับเปลี่ยนไปตามบริบทของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป การตัดสินใจจ้างงานขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละองค์กร โดยการจ้างงานของเครือสหพัฒน์จะเป็นไปตามช่วงเวลา หากมีงานมากก็จะมีการจ้างคนเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จำนวนพนักงานจะมีการปรับขึ้นลงตามภาระงานที่เกิดขึ้น โดยไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องใหญ่

นอกจากนี้ ยังมองว่า เรื่องของอายุไม่ใช่ปัจจัยหลักในการพิจารณาการจ้างงาน หากพนักงานมีทักษะและความสามารถที่เหมาะสมกับงาน ก็สามารถทำงานได้ยาวนานถึงอายุ 80 ปี ในทางกลับกัน หากขาดความรู้และทักษะ แม้อายุเพียง 20 ปี ก็อาจไม่มีใครรับเข้าทำงาน เพราะทักษะที่จำเป็นในการทำงานก็ขึ้นอยู่กับลักษณะงานและองค์กรที่แตกต่างกันไป

ทั้งนี้ เครือสหพัฒน์ยังคงมีสัดส่วนพนักงานที่หลากหลาย ทั้งคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่า ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อที่ว่า ความสามารถและทักษะเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการทำงานในยุคปัจจุบัน

นายสรเทพ โรจน์พจนารัช เจ้าของร้านสตีฟ คาเฟ่ ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร และที่ปรึกษากิติมศักดิ์ สมาคมโฮสเทล ประเทศไทย กล่าวว่า กลุ่ม Gen Z ไม่ค่อยสนใจที่จะทำงานประจำหรือทำงานที่มีเวลาทำงานที่ตายตัว เช่น 10 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม หรือ 10 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม ซึ่งมักจะหางานที่มีความยืดหยุ่น เช่น งานพาร์ทไทม์

ทั้งนี้ แม้ว่าในภาครัฐและธุรกิจร้านอาหาร หรือโรงแรม จะมีความต้องการแรงงานในกลุ่ม Gen Z ค่อนข้างมาก แต่แรงงานใหม่ที่จบจากสถาบันการศึกษา มักขาดทักษะที่จำเป็นในการทำงาน เช่น ขาดทักษะภาษาอังกฤษ และขาดความสามารถในการทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีความกดดันสูง ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องการแรงงานที่มีทักษะเฉพาะเช่น การทำเครื่องดื่ม หรือการบริการลูกค้า ซึ่งแรงงานไทยในปัจจุบันยังขาดทักษะเหล่านี้ จึงทำให้ธุรกิจต้องพึ่งพาแรงงานต่างด้าวในหลายภาคส่วน

มองการหาเงินเป็นความสำเร็จ

นายมิลินทร์ วีระรัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ตั้งงี่สุน ซูเปอร์สโตร์ จำกัด ผู้ประกอบการค้าปลีก-ค้าส่ง รายใหญ่ในภาคอีสาน กล่าวว่า ปัจจุบันในภาคธุรกิจหรืออุตสาหกรรมต่างๆ ล้วนต้องการแรงงานคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ที่เก่งเกี่ยวกับโลกออนไลน์ ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นกิจวัตร มีความเป็นครีเอเตอร์สูง เป็นกำลังสำคัญขับเคลื่อนบริษัทให้เท่าทันโลกยุคใหม่ แต่กลุ่ม Gen Z กลับไม่ได้มีแนวคิดการทำงานเหมือนกลุ่มคนยุคเก่าอย่างกลุ่ม Baby Boomers หรือ Gen X

อย่างไรก็ตาม กลุ่ม Gen Z ไม่มีความคิดทุ่มเททำงานเพื่อองค์กร และบางคนเติบโตมาด้วยความคิดที่ไม่ต้องการเรียนหรืออยากเรียนหนังสือด้วยซ้ำ การเรียนไม่ใช่ประเด็นเพราะใช้บรรทัดฐานเรื่องการหาเงินเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จ โดยเฉพาะการหาเงินบนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตามหากหาเงินได้มากคือประสบความสำเร็จ ดังนั้น กลุ่ม Gen Z จึงถือว่าจำเป็น นับเป็นคลื่นลูกใหม่มาแรง แต่แนวคิดที่เปลี่ยนไปรุนแรงกว่า

เลือกงานที่อิสระเป็นตัวตั้ง

นางสาวภัทราวดี ธีเลอร์ อาจารย์ประจำ สาขาวารสารศาสตร์คอนเวอร์เจ้นท์ และสื่อดิจิทัลสร้างสรรค์ คณะนิเทศศาสตร์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (พีไอเอ็ม) สะท้อนให้เห็นว่า Gen Z เลือกงานจากความชอบส่วนตัวและค่านิยม มากกว่าการยึดติดกับความมั่นคงแบบรุ่นก่อน งานฟรีแลนซ์หรือการทำงานอิสระเป็นที่นิยมเพราะมีความยืดหยุ่นและไม่จำเจ

ดังนั้น ตลาดแรงงานควรออกแบบรูปแบบงานที่ตอบโจทย์ทั้งความมั่นคงและความยืดหยุ่น เช่น Hybrid Work หรือการจ้างงานเป็นโปรเจกต์ ควบคู่กับการ Upskill และ Reskill พนักงานรุ่นใหม่ เพื่อเพิ่มศักยภาพในด้านที่ยังขาด และทำให้สามารถทำงานร่วมกับคนต่าง Gen ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และองค์กรควรโปร่งใสในนโยบายและการสื่อสาร เปิดพื้นที่ให้เจน Gen Z แสดงออกความคิดเห็น ยืดหยุ่นด้านเวลาและสถานที่ทำงาน เพิ่มสวัสดิการที่สอดคล้องกับความต้องการ เช่น การดูแลสุขภาพจิต และสร้างบรรยากาศการทำงานที่ลดช่องว่างระหว่างรุ่น เพื่อสร้างความร่วมมือและความเข้าใจที่ดี

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...