ทรัมป์สั่งปลด ‘ลิซา คุก’ พ้นผู้ว่าการเฟด ปมถูกกล่าวหาโกงสินเชื่อ
× กรุณาติดต่อทีมงานเพื่อดาวน์โหลดคลิป
วอชิงตัน, 26 ส.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันจันทร์ (25 ส.ค.) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สั่งปลดลิซา คุก ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ออกจากตำแหน่งผ่านจดหมายที่ส่งถึงคุกและเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียล ทรูธ เนื่องด้วยข้อกล่าวหาว่าเธอเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงสินเชื่อที่อยู่อาศัย
จดหมายดังกล่าวระบุว่าตามอำนาจของเขาภายใต้มาตรา 2 ของรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ และกฎหมายธนาคารกลาง ปี 1913 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม คุกถูกปลดออกจากตำแหน่งคณะกรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยมีผลทันที
ทรัมป์ชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ รับผิดชอบการกำหนดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงกำกับดูแลทุนสำรองและธนาคารสมาชิก จึงต้องทำให้ประชาชนเชื่อมั่นในความซื่อสัตย์ของการกำหนดนโยบายและดูแลธนาคารกลางได้ แต่พฤติกรรมที่เข้าข่ายอาชญากรรมทางการเงินของคุก ทำให้ประชาชนและเขาไม่มีความเชื่อมั่น
เมื่อวันพุธ (20 ส.ค.) บิล พัลเต ผู้อำนวยการหน่วยงานการเงินที่อยู่อาศัยของรัฐบาลกลาง ได้กล่าวหาคุกต่อสาธารณชนว่าฉ้อโกงสินเชื่อที่อยู่อาศัย และส่งเรื่องไปยังกระทรวงยุติธรรมเพื่อดำเนินคดีอาญา
ด้านทรัมป์เรียกร้องคุกลาออกเพื่อตอบโต้ข้อกล่าวอ้างของพัลเต ตามด้วยแถลงการณ์ของคุกซึ่งย้ำว่าเธอไม่สมควรถูกกลั่นแกล้งจนต้องลาออกจากตำแหน่ง เพียงเพราะคำถามบางประการที่ถูกหยิบยกขึ้นมาบนสื่อสังคมออนไลน์
อนึ่ง รัฐสภาสหรัฐฯ ได้จำกัดอำนาจประธานาธิบดีในการปลดผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ เพียงฝ่ายเดียวในกฎหมายธนาคารกลางสหรัฐฯ ปี 1913 ซึ่งกำหนดว่าประธานาธิบดีสามารถกระทำเช่นนั้นได้ “ด้วยเหตุผลอันควร” แต่กฎหมายไม่ได้ระบุชัดเจนว่าอะไรถือเป็น “เหตุผลอันควร”
สื่อมวลชนสหรัฐฯ มองว่าดังนั้นการปลดคุกโดยทรัมป์อาจก่อให้เกิดการต่อสู้ทางกฎหมาย ซึ่งมีแนวโน้มนำสู่ข้อพิพาททางกฎหมายที่อาจถึงขั้นขึ้นศาลสูงสุด โดยการดำเนินการครั้งนี้ยังเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลทรัมป์
รายงานระบุว่าคุกได้รับการเสนอชื่อโดยอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในปี 2022 หากเธอถูกปลด ทรัมป์จะสามารถเสนอชื่อผู้เข้ามาแทนที่ของเธอและปรับโครงสร้างคณะกรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ ในอีกหลายปีข้างหน้าได้