หัวใจแม่ยิ่งใหญ่ 20 ปี ไม่เคยท้อ ดูแลลูกชายป่วยติดเตียง
ที่จ.อุดรธานี วันแม่วันนี้มีเรื่องราวเศร้าปนด้วยหัวใจแม่สุดยิ่งใหญ่ หัวใจแม่ยิ่งใหญ่ 20 ปีไม่เคยท้อ Single Mum คอยดูแลปรนนิบัติลูกชายป่วยติดเตียง ลูกเคยบอกให้ผมไปเถอะแต่หัวใจแม่สัญญาขอดูแลลูกชายตลอดไป แม่เล่าน้ำตาคลอ เคยมีครอบครัวที่สมบูรณ์มีอดีตสามีเป็นถึงนายกเทศมนตรีแถวชานเมืองกรุงเทพฯ แต่อดีตสามีไปติดหญิงนักร้องคาเฟ่จนโงหัวไม่ขึ้นทิ้งลูกทิ้งเมียไม่ใยดี หัวอกแม่ไม่เคยคิดจะทิ้งลูก แม้ลูกชายเคยบอกถอดเครื่องช่วยหายใจให้ผมไปเถอะแต่แม่ไม่ยอมพร้อมดูแลลูกชายตลอดไป
วันmuj 12 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จ.อุดรธานี มีเรื่องราวราวของแม่ที่หัวใจแกร่ง คอยดูแลลูกชายที่ป่วยติดเตียงมาเกือบ 20 ปี แม่ลั่นพร้อมจะดูแลลูกตลอดไป เคยทักไปถามสามีเก่าแต่ไร้การตอบกลับไม่สนใจใยดีลูกด้วย หลังไปติดหญิงคนใหม่ เคยทักจะดูแลลูกชายไหมแต่ถูกปฏิเสธต้องสู้แบบเดียวดายเป็น Singgle Mum ดูแลลูกมากว่า 20 ปี โดยเรื่องราวนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นางเจนมิสร หรือเจน อายุ 51 ปี ชาว จ.อุดรธานี กำลังดูแลลูกชายที่ป่วยติดเตียงไม่ห่างกาย มือลูกชายก็กุมมือไว้แน่น
นางเจนมิสร หรือ “เจน” เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ย้อนกลับไปมากว่า 20 ปี ตนได้รู้จักกับผู้ชายคนหนึ่งกระทั่งแต่งงานและสร้างครอบครัว เขามีตำแหน่งทางการเมืองเป็นถึงนายกเทศมนตรีเมืองแห่งหนึ่งแถวชานเมืองกรุงเทพฯ มีลูกชายหนึ่งคนชื่อ “แมทริกซ์” เมื่อลูกอายุได้เพียง 2 ปี ก็พบว่าสามีมีความสัมพันธ์กับนักร้องคาเฟ่ ในช่วงแรกพยายามปรับความเข้าใจเพื่อรักษาครอบครัว แต่สถานการณ์กลับเลวร้ายลง สามีเปิดร้านขายโทรศัพท์ให้ผู้หญิงอยู่ตรงข้ามบ้าน เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกทรมานและตกอยู่ในภาวะกดดันอย่างหนัก ในที่สุดต้องตัดสินใจหย่าร้าง “ตอนอยู่กับเขา ฉันก็ทำแต่สิ่งดี ๆ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตระกูลเขา”
หลังหย่าร้างก็ยังคงอาศัยอยู่ในจังหวัดเดิม ยังคงและเลี้ยงดูลูกชายเพียงลำพังเป็นเวลากว่า 2 ปี ตลอดช่วงเวลานั้นเป็นความลำบากอย่างยิ่ง เพราะลูกไม่ใช่เด็กปกติ มีอาการเจ็บป่วยบ่อยและยากต่อการดูแล ตอนแรกตนคิดว่าลูกเพียงแค่ป่วยเป็นทอนซิลอักเสบจึงรักษาตามอาการ แม้พ่อของลูกและครอบครัวฝ่ายนั้นจะรับรู้ถึงปัญหาก็ไม่เคยยื่นมือช่วยเหลือหรือดูแล กระทั่งเมื่อลูกอายุได้ 4 ปี ตนจึงพาลูกไปที่จ.เลยเพื่อให้พ่อแม่ช่วยดูแล เพราะตนเองต้องทำงานหาเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษา เงินที่หามาได้ก็หมดไปกับการดูแลรักษาลูก
ต่อมาได้รู้จักกับชายคนหนึ่งซึ่งดูแลเธอและลูกอย่างดี จนตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน เขาแนะนำว่าโรคที่ลูกเป็นสามารถผ่าตัดได้ และอาสาออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด หลังการผ่าตัดจึงพบว่า นอกจากทอนซิลอักเสบแล้ว ลูกยังป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงตามมา แพทย์อธิบายว่าผู้ป่วยโรคนี้จะค่อย ๆ ลามจากขาไปหลัง แขน คอ และเมื่อถึงกล้ามเนื้อหัวใจก็จะเสียชีวิต จากสถิติผู้ป่วยมักมีชีวิตไม่เกิน 19 ปี ทันทีที่รู้เจนถึงกับหลั่งน้ำตา แต่สามีใหม่คอยให้กำลังใจและช่วยดูแลค่าใช้จ่าย ทำให้เธอสู้ต่อจนปัจจุบันลูกชายมีอายุ 23 ปี เกินกว่าที่หมอคาดการณ์ แม้อาการลามมาถึงกล้ามเนื้อคอแล้วก็ตาม
ช่วงที่น้องแมทริกซ์ อายุ 16 ปี เพื่อนรุ่นพี่ได้พาพ่อแท้ ๆ มาเยี่ยม เจนไม่เคยกีดกันแต่กลับยินดีที่เขาอยากมาหาลูก เมื่อมาถึงก็ไม่ได้แสดงเจตนาจะช่วยเหลือดูแลใด ๆ ระหว่างไปส่งที่สนามบิน สามีใหม่ถามเขาว่า “ในฐานะพ่อแท้ ๆ วันนี้คุณคิดว่าจะทำอะไรให้ลูกได้บ้าง ส่วนผมรักเขาเหมือนลูกจริง ๆ” พ่อแท้ ๆ ตอบเพียงว่า “ขอบคุณ คุณเป็นพ่อที่ดีมากดูแลแทนผมได้อย่างสมบูรณ์ แมทริกซ์เหมือนลูกแท้ ๆ ของคุณ” จากนั้นเขาก็ขึ้นเครื่องกลับ และไม่เคยติดต่อมาอีกเลยจนถึงวันนี้ผ่านมา 8 ปีแล้ว
ที่เล่าเรื่องนี้ผ่านสื่อมวลชนไม่ได้ต้องการให้พ่อแท้ ๆ มารับผิดชอบ หรือหวังเงินทองใด ๆ เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติแค่ต้องการให้เป็นอุทาหรณ์และตัวอย่างสำหรับคุณแม่คนอื่น ๆ ที่อาจเผชิญเหตุการณ์แบบเดียวกันให้มีกำลังใจสู้ต่อไป เพราะสำหรับฉันลูกคือสิ่งสำคัญที่สุด แม้ลูกชายจะเคยบอกแม่ว่า ปล่อยให้ผมตายไปเถอะ ไม่อยากให้แม่ทรมานดูแลผมอีก แต่หัวอกคนเป็นแม่แม้ลูกจะเป็นอย่างไรพร้อมดูแลเคียงข้างลูกชาย ฉันสู้มาแล้วกว่า 20 ปี และหากไม่มีลูกคนนี้ ฉันคงไม่สามารถผ่านมาได้ นางเจนมิสร หรือ “เจน” กล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำตา
ส่วนน้องแมทริกซ์ บอกว่า ตอนนี้จำหน้าพ่อแท้ๆไม่ได้เลยเพราะเคยเห็นเขาแค่ครั้งเดียวเมื่อ 8 ปีที่แล้วที่เขามาเยี่ยมแต่ถ้ามีโอกาสเจออีกครั้งก็อยากจะถามว่ายังนึกถึงและยังรักลูกคนนี้ไหม ทำไมถึงไม่ยอมมาช่วยเหลืออะไรเลยและปล่อยให้ผม เป็นแบบนี้หรือเป็นเพราะผมพิการอยู่ในสภาพแบบนี้พ่อถึงไม่รักและไม่นับผมเป็นลูกซึ่งหลังจากที่น้องแมทริกซ์ ได้พูดประโยคนี้ออกมาทำให้หัวอกคนเป็นแม่ถึงกับนร้องไห้และโผเข้าไปโอบกอดน้องแมทริกซ์และปลอบใจลูกของตน โดยบอกว่า ไม่เป็นไรลูกยังไงแม่ก็รักและจะอยู่กับลูกตลอดจะไม่มีวันทิ้งลูกเด็ดขาดไม่ว่าลูกจะเป็นยังไงก็ตามแม้พ่อแท้ๆจะไม่รักไม่สนใจใยดีแต่แม่คนนี้รักลูกเสมอ
ผมอยากจะบอกกับแม่ว่า จากวันนี้เราจะมีความสุขและลืมเรื่องความทุกข์ทุกอย่าง เราจะไม่ต้องนึกถึงอดีตและเรื่องแย่ ๆ ที่สำคัญถ้าวันนี้แมทริกซ์ไม่มีแม่แมทริกซ์ไม่รู้จะเป็นอย่างไร สุขสันต์วันแม่ครับ แมทริกซ์รักแม่ครับ!!!เรื่องราววันแม่มีทั้งเศร้าปนความรักของแม่ที่ยิ่งใหญ่