หมอยง ผ่าปมเหตุเด็ก ม.5 ทำร้ายครูสาว ทางแก้รักษาคนกลุ่มนี้
จากกรณีที่นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ก่อเหตุทำร้ายครูสาวกลางห้องเรียน เนื่องจากไม่พอใจที่ได้คะแนนสอบเพียง 18 เต็ม 20 จนได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะมีรายงานว่า นักเรียนรายดังกล่าวได้ลาออกจากโรงเรียนแล้ว แต่กระแสสังคมยังคงตั้งคำถามถึงการเลี้ยงดูและสุขภาพจิตของเด็ก
ล่าสุด วันที่ 13 สิงหาคม 2568 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิตสำนักวิทยาศาสตร์ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กให้ความเห็นว่า
ผมในฐานะกุมารแพทย์ ที่ได้ดูแลเด็กมากกว่า 40 ปี และได้ดูแลลูกและหลาน เคยได้ดูแลเด็ก เรียนเก่งหรืออัจฉริยะ แต่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ โดยทุกคนจะต้องเข้าใจว่ามีความผิดปกติ ขึ้นอยู่กับจะวินิจฉัยเป็นอะไร เช่น ADHA (Attention-Deficit/Hyperactivity Disorder) ขาดสมาธิ ควบคุมตัวเองไม่ได้ กลุ่มนี้จะไม่อยู่นิ่ง เกิดอารมณ์หุนหันพลันแล่นได้
อีกกลุ่มหนึ่งคือ autism กลุ่มนี้บางคนเป็นอัจฉริยะ เป็นเลิศ แต่ ปัญหาการปรับตัวทางสังคมและการยับยั้ง), ความผิดปกติของการทำงานของ executive function กลุ่มที่สำคัญอีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มที่เรียกว่าระเบิดอารมณ์ (IED = Intermittent Explosive Disorder) นั่นก็เป็นอีกความเป็นไปได้ครับ แต่ IED จะต่างจาก ADHD ตรงที่จุดเด่นคือ การระเบิดอารมณ์รุนแรงซ้ำ ๆ แบบไม่สมส่วนกับสาเหตุ เช่น โกรธหรือก้าวร้าวอย่างรุนแรงในเวลาไม่กี่วินาที ขว้างปาสิ่งของ ตะโกน ด่าทอ หรือทำร้ายผู้อื่น/สิ่งของ หลังเหตุการณ์มักรู้สึกเสียใจหรืออับอาย
- เด็กเรียนเก่ง แต่อารมณ์ควบคุมไม่ได้ อาจมีสาเหตุหลายสาเหตุร่วมๆกัน จึงจำเป็น จะต้องได้รับการวินิจฉัย ใน ADHA หรือ สมาธิหลุด ความผิดปกติเกิดจาก dopamine และ norepinephrine ใน prefrontal cortex ส่วน IED จะเกิดจากชีวเคมีที่ผิดปกติคือ การควบคุมอารมณ์ผิดปกติใน amygdala, prefrontal cortex, serotonin
แนวทางการรักษาจำเป็นต้องพบจิตแพทย์ เพื่อให้การวินิจฉัยให้ถูกต้องเพราะในปัจจุบันมียาปรับสมดุลของชีวะเคมีในสมองที่ดี เช่นถ้าเป็น ADHA, IED นอกจากจะรักษาทางจิตบำบัดแล้ว ยาก็ยังมีส่วนช่วยปรับพฤติกรรมให้ดีขึ้น ขณะนี้ยังได้เห็น เด็กตั้งแต่เกิด มีความเป็นอัจฉริยะและมี Autism ที่เรียนเก่งและประสบความสำเร็จในชีวิต ถ้าได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี และทุกคนเข้าใจ
ขอบคุคณ Yong Poovorawan