โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาชญากรรม

กลับเขมรบ้านเกิดแล้วอดอยาก ขนครอบครัวย่องเข้าไทยหางานทำ

Amarin TV

เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ทหารพรานสกัดจับ 2 ครอบครัวแรงงานเขมร บอกกลับกัมพูชาบ้านเกิดแล้วอดอยาก ลักลอบเข้าไทย หวังทำงานกับนายจ้างเดิม

ทหารพรานสกัดจับ 2 ครอบครัวแรงงานเขมร บอกกลับกัมพูชาบ้านเกิดแล้วอดอยาก ลักลอบเข้าไทย หวังทำงานกับนายจ้างเดิม

วันที่ 12 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 68 กองกำลังบูรพา โดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่12 (ฉก.ทพ.12) สนธิกำลังกับหน่วยทหารในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สามารถสกัดจับแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา จำนวน 2 ครอบครัว รวม 9 คนที่ลักลอบเข้ามาในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ทั้งหมดให้ข้อมูลตรงกันว่า หนีความอดอยาก และสภาพเศรษฐกิจฝืดเคืองในบ้านเกิด เพื่อกลับมาทำงานในไทยกับนายจ้างเดิม

โดยเมื่อเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อยทพ.1206 ร่วมกับทหารจาก ร.2พัน1รอ. ออกลาดตระเวนพื้นที่ริมถนนหลวงหมายเลข3383 พบรถยนต์ต้องสงสัยจอดรอริมทาง และมีบุคคล 4 คน เดินออกจากไร่อ้อยตรงมาที่รถ เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบและควบคุมตัว

จากการตรวจสอบพบผู้ขับรถเป็นคนไทย คือนายธงชัย พร้อมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา 4 คนได้แก่ นายเมียน ราวี อายุ 19 ปี นางเมือน พันนา อายุ 21 ปี นายเมียน ราอวน อายุ 15 ปี ด.ญ.กังฟง อายุ 7 ปี

นายธงชัยให้การว่า ได้รับการว่าจ้างจากหลานเขยให้มารับแรงงานกัมพูชากลุ่มนี้เพื่อนำส่งต่อไปยังพื้นที่ตอนในของประเทศ โดยคิดค่าจ้าง 300 บาทต่อคน

ด้านแรงงานกัมพูชา เล่าว่า ก่อนหน้านี้เคยทำงานค้าขายในตลาดอินโดจีน อ.อรัญประเทศ แต่เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาได้เดินทางกลับประเทศ เนื่องจากไม่มีรายได้และประสบปัญหาความอดอยาก จึงตัดสินใจติดต่อผู้นำพาผ่านเพื่อน โดยตกลงจ่ายค่าเดินทางคนละ 4,000 บาท เด็กคนละ 1,000 บาท รวมเป็นเงิน 13,000 บาท ก่อนถูกจับกุม

ต่อมาเวลา 22.00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทหารพรานร้อยทพ.1202 ออกลาดตระเวนในพื้นที่บ้านภูน้ำเกลี้ยง ต.ป่าไร่ พบกลุ่มบุคคล 5 คนเดินเท้า พร้อมสัมภาระผ่านช่องทางธรรมชาติใกล้ชายแดน จึงเข้าตรวจสอบและจับกุมแรงงานทั้งหมดเป็นชาวกัมพูชา ไม่มีผู้นำพา ประกอบด้วย นายกรจันทา อายุ 42 ปี (สามี) นางพอลทิดา อายุ 46 ปี (ภรรยา) และลูกสาว อายุ 13 ปี ลูกชาย อายุ 8 ปี นายอังดำ อายุ 22 ปี (ร่วมเดินทางมาระหว่างทาง)

จากการสอบถามทั้งหมดให้การตรงกันว่า เคยทำงานคัดแยกรองเท้าในตลาดโรงเกลือ แต่ถูกส่งกลับประเทศเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เมื่อกลับไปกัมพูชาพบว่าไม่มีงานทำ ขาดรายได้จึงตัดสินใจลักลอบข้ามแดนกลับเข้ามา เพื่อทำงานกับนายจ้างเดิมในไทย

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวแรงงานกัมพูชากลุ่มแรกส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองน้ำใส และกลุ่มที่สองส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก เพื่อดำเนินคดีในข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ส่วนคนไทยผู้ทำหน้าที่นำพาแรงงานจะถูกดำเนินคดีด้วย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Amarin TV

ส่งมอบความสุขจากแนวหลังสู่แนวหน้า ฉายหนังให้ทหารดูฟรี

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สหรัฐฯ VS จีน จากภาษีเดือดสู่การพักรบ ขยาย 90 วัน ชี้ชะตาสงครามการค้า

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เปิดภาพที่เกิดเหตุ ทหารพรานเหยียบกับระเบิดบริเวณ ปราสาทตาเมือนธม

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เทรนด์ Treatonomics พุ่ง! คนเทงบซื้อของ-ปสก.ฮีลใจ สู้เศรษฐกิจฝืด

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความอาชญากรรมอื่น ๆ

รวบ 2 ครอบครัวเขมรหนีความอดอยาก ลักลอบเข้าเมือง หวังกลับมาทำงานในไทย

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

สลด! ลุงเพื่อนบ้านล่วงละเมิดเด็ก 4-6 ขวบ แม่เด็กช้ำใจแจ้งความตำรวจเมิน ผู้ก่อเหตุหนีลอยนวล

เดลินิวส์

กู้ภัยรุดช่วยหนุ่มเครียดเรื่องงานจนคิดสั้น

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

สลด! อดีตคู่ม้าทรง ดวลมีดเดือด เมียโดนแทงสวนดับคาที่ ด้านผัวรอมอบตัว

สยามนิวส์

ส่งมอบความสุขจากแนวหลังสู่แนวหน้า ฉายหนังให้ทหารดูฟรี

Amarin TV

ทบ.ชี้กัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดคุกคามต่อเนื่อง โฆษก ทบ.เผยหากสถานการณ์บีบบังคับ กองทัพอาจจำเป็นต้องใช้สิทธิ์ป้องกันตนเอง

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

ผบช.น.นำ รอง ผบช.น.ทำบุญถวายพระราชกุศลและถวายพระพร วันแม่แห่งชาติ 2568

MATICHON ONLINE

ตำรวจเตรียมสอบ "พระอลงกต" ปมให้ผู้อื่นครองทรัพย์สินแทนวัด มองความผิดยังคลุมเคลือ

ข่าวช่อง8

ข่าวและบทความยอดนิยม

กลาโหม แจงปมร้อน ยัน "บิ๊กเล็ก" ไม่ได้ใช้เวทีจีบีซีปกป้องผู้นำกัมพูชา

Amarin TV

โฆษกกองทัพบก ซัด กัมพูชาโกหกไม่เลิก หลอกทูตทหาร ไทยยิงบ้านคนเขมร

Amarin TV

ด่วน! ทหารพรานเหยียบระเบิดขาขาด 1 นาย ขณะลาดตระเวนปราสาทตาเมือนธม

Amarin TV
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...