โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

แห่ช็อปแบรนด์เนม 2 แสนล้าน สินค้าใหม่-มือ 2 ขยายสาขา

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ตลาดสินค้าแบรนด์เนมเมืองไทย พบภาวะเศรษฐกิจไม่กระทบยอดเติบโตทั้งของใหม่และมือสอง เซ็นทรัลภูเก็ตขยายโซนลักเซอรี่ แบรนด์ระดับโลกจองพื้นที่เพียบ ด้านกล้องพรีเมี่ยม “ไลก้า” ผนึกบิ๊กคาเมร่าเปิดสาขาที่พารากอน ตลาดมือสอง 40,000 ล้านบาท แรงไม่หยุด คาดร้านจากญี่ปุ่นจ่อเปิดในไทยเพิ่ม ส่วนสินค้าใหม่ 2 แสนล้านบาทคึกคัก

สินค้าแบรนด์เนมปังไม่หยุด

“ประชาชาติธุรกิจ” สำรวจตลาดสินค้าหรู หรือแบรนด์เนม ท่ามกลางภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังไม่สดใสนัก แต่พบว่าเป็นสินค้าที่แทบไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นตลาดสินค้าใหม่ หรือมือสอง สะท้อนจากการเปิดร้านค้า หรือหาพันธมิตรทางธุรกิจ มาเปิดตัวในประเทศไทย

ช่วงปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มเซ็นทรัลทุ่มเม็ดเงิน 3,000 ล้านบาท ขยายโซนสินค้าลักเซอรี่ของเซ็นทรัลภูเก็ตเพิ่มอีก 20,000 ตร.ม. หวังเป็นเดสติเนชั่นของนักช็อปกำลังซื้อสูงจากทั่วโลก โดย ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด เซ็นทรัลพัฒนา ระบุว่า เซ็นทรัล ภูเก็ต เป็นฟันเฟืองสำคัญในการยกระดับภูเก็ตสู่ Luxury & Lifestyle Destination และศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับพรีเมี่ยมของเอเชีย ดึงดูดแบรนด์หรูจากทั่วโลก

โดยขณะนี้มีแบรนด์หรูเข้ามาจับจองพื้นที่แล้ว อาทิ BVLGARI, PRADA, Alo, COS ที่เปิดสาขาแรกนอกกรุงเทพฯ และ Orlebar Brown สาขาแรกในไทย

บิ๊กคาเมร่าจับมือไลก้า

ขณะเดียวกัน “ไลก้า” แบรนด์อุปกรณ์ถ่ายภาพระดับพรีเมี่ยม จับมือบิ๊กคาเมร่า เปิดสาขาคอนเซ็ปต์ใหม่ในประเทศไทย ที่สยามพารากอนเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 นายธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สาเหตุที่บริษัทตัดสินใจลงทุน 50 ล้านบาท เปิดร้านไลก้าในครั้งนี้ เนื่องจากผู้บริโภคชาวไทยโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นระดับกลาง-บน มีดีมานด์กล้อง-เลนส์ระดับพรีเมี่ยมเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เห็นได้จากยอดขายกล้อง อาทิ ไลก้า คิว และไลก้า ดีลักซ์ ราคา 6 หมื่น-2.6 แสนบาท เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนและต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

ขณะที่ “สุนิล คาวล์” กรรมการผู้จัดการ ไลก้า คาเมร่า เอเชียแปซิฟิก เสริมว่า มูลค่าการจับจ่ายในสาขาใหม่นี้จะอยู่ที่เฉลี่ย 4,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.45 แสนบาทต่อใบเสร็จ

ความเคลื่อนไหวนี้ต่อเนื่องจากช่วงปลายปี 2567 แบรนด์ลักเซอรี่ระดับโลกต่างตบเท้าเข้ามาเปิดคาเฟ่ แฟลกชิปสโตร์ ที่ประเทศไทยเป็นแห่งแรก ๆ ในเอเชียอย่าง DIOR Gold House และ LV The Place Bangkok สะท้อนถึงศักยภาพและดีมานด์สินค้าลักเซอรี่ในประเทศไทย

ตลาดมือสองเป็นที่ต้องการสูง

ความคึกคักนี้ไม่จำกัดเพียงสินค้ามือหนึ่ง แต่ยังรวมไปถึงตลาดสินค้าแบรนด์เนมมือสองด้วย เมื่อผู้เล่นทั้งไทยและต่างชาติ พากันเดินหน้าเปิดธุรกิจในไทยกันอย่างคึกคัก หวังชิงดีมานด์และสร้างการเติบโต

“ฮายาโตะ โมเทกิ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวิลด์ สห (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหาร RAGTAG เชนร้านสินค้าแบรนด์เนมมือสองสัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งมี 24 สาขาทั่วญี่ปุ่น ฉายภาพว่า ธุรกิจสินค้าแบรนด์เนมมือสองเป็นธุรกิจมาแรง ไม่เพียงในไทย แต่รวมไปถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทั่วโลก เนื่องจากกระแสความยั่งยืน หรือ Sustainability ที่แพร่หลายทั้งในยุโรปและเอเชีย ปลุกให้คนรุ่นใหม่ในแต่ละประเทศเปิดรับ และต้องการใช้สินค้ามือสองมากกว่าคนรุ่นก่อนหน้า

สอดคล้องกับในไทยที่มีดีมานด์สินค้าแบรนด์เนมมือสองจากกลุ่มวัยรุ่น-วัยทำงาน ที่ต้องการใช้-แต่งกายด้วยเสื้อผ้าดีไซเนอร์แบรนด์ของแท้ในราคาเข้าถึงง่าย โดยไม่จำเป็นต้องเป็นสินค้ามือหนึ่ง ทั้งนี้ สะท้อนจากข้อมูลลูกค้าในสาขาที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจำนวนลูกค้าชาวไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงฮ่องกง ไต้หวันเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในระดับเลข 2 หลัก เช่นเดียวกับปริมาณสินค้าที่ซื้อ

“RAGTAG-สหกรุ๊ป” แตกสาขา

ขณะเดียวกัน ผลตอบรับของพ็อปอัพสโตร์ที่เคยเปิดที่เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งมีผู้สนใจจำนวนมาก จึงตัดสินใจร่วมทุนกับบริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เพื่อนำแบรนด์ RAGTAG (เเร็กแท็ก) มาเปิดสาขาในประเทศไทย เป็นประเทศแรกนอกญี่ปุ่น

หลังจากนี้จะอาศัยความร่วมมือกับเครือสหกรุ๊ป ช่วยหาและคัดเลือกทำเลขยายสาขา เน้นในกรุงเทพฯและย่านชานเมือง ทั้งในศูนย์การค้า และร้านค้าติดถนน พร้อมเตรียมเปิดตัวช่องทางอีคอมเมิร์ซของแบรนด์ หรือ ragtagthailand.com อย่างเป็นทางการภายในสิ้นปี 2568 นี้ หลังปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนทดลองใช้งาน ส่วนในระยะยาวจะขยายสาขารุกไปในประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มด้วย

แบรนด์ญี่ปุ่นจ่อรุกเพิ่ม

“ฮายาโตะ โมเทกิ” ยังเผยว่า หลังจากนี้มีความเป็นไปได้สูงที่เชนร้านสินค้าแบรนด์เนมมือสองสัญชาติญี่ปุ่นรายอื่น ๆ จะข้ามน้ำข้ามทะเลมาปักธงสาขาในไทยด้วยเช่นกัน เนื่องจากปัจจุบันตลาดสินค้าแบรนด์เนมมือสองในไทยยังสามารถรองรับผู้เล่นเพิ่มได้อีกมาก แม้ปัจจุบันจะมีผู้เล่นทั้งไทยและญี่ปุ่นอยู่แล้วก็ตาม และธุรกิจนี้ผู้เล่นมักสานความร่วมมือระหว่างกันมากกว่าจะเกิดการแข่งขัน เช่น ร่วมกันรับซื้อสินค้าจากผู้ขายในกรณีที่สินค้ามีหลากหลายหมวด หรือแนะนำลูกค้าให้แก่กันตามความถนัดของผู้เล่นแต่ละราย

ผู้เล่นไทยสู่ซัพพลายเออร์

“ธานี สามสีเจริญลาภ” ซีเอฟโอฝ่ายการเงินและบัญชีของแบคนิฟิค แบรนด์เนม หนึ่งในเชนร้านสินค้าแบรนด์เนมมือสองรายใหญ่ของไทย กล่าวว่า ความต้องการสร้างภาพลักษณ์ ด้วยการครอบครอง-ใช้สินค้าลักเซอรี่ของผู้บริโภครุ่นใหม่ และระดับราคาแบรนด์เนมมือสองที่ต่ำกว่าสินค้ามือหนึ่งถึง 30-70% เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโตของตลาด ส่งผลให้เมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา สินค้าแบรนด์เนมมือสองในไทยมีมูลค่าการซื้อขายรวมประมาณ 40,000 ล้านบาท คิดเป็น 10-20% ของตลาดสินค้ามือหนึ่งที่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 200,000 ล้านบาท รวมถึงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง

พร้อมกันนี้ยังเกิดวงจรดีมานด์-ซัพพลายสินค้าแบรนด์เนมมือหนึ่งและมือสองที่คึกคัก จากทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและผู้บริโภคชาวไทยหลากหลายกลุ่ม ตั้งแต่เศรษฐี นักธุรกิจ นักลงทุน อินฟลูเอนเซอร์ ไปจนถึงวัยรุ่น-วัยทำงานชนชั้นกลาง และเศรษฐีใหม่ ที่ต้องการใช้สินค้าหรูโดยเริ่มจากการใช้แบรนด์เนมมือสอง ด้วยความต้องการสินค้าที่สูงนี้ บริษัทจึงเตรียมขยายธุรกิจจากการรับซื้อขายไปเป็นซัพพลายเออร์สินค้าแบรนด์เนมมือสอง ให้กับผู้ประกอบการทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการต่อยอดโนว์ฮาว เช่น กระบวนการตรวจพิสูจน์สินค้า และสต๊อกสินค้าจำนวนกว่า 10,000 รายการ ตามเป้าหมายที่จะขึ้นเป็นผู้เล่นเบอร์ 1 ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

มีสินเชื่อให้บริการครบวงจร

ด้าน “ปพน มนัสภากร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้ก่อตั้งบริษัท แบรนด์เนม มันนี่ จำกัด กล่าวว่า บริษัทเปิดโมเดลธุรกิจใหม่ ในฐานะผู้ให้สินเชื่อสำหรับซื้อแบรนด์เนมมือสอง ทั้งสินเชื่อเช่าซื้อ ซึ่งสามารถผ่อนไปใช้ไป สำหรับซื้อสินค้ามือหนึ่งและมือสอง ตอบโจทย์ผู้ที่มีรายได้ประจำ แต่อาจไม่มีเงินก้อน และสินเชื่อแบบรับสินค้าเมื่อผ่อนครบ

มุ่งตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ไม่ต้องการมีภาระผูกพันทางการเงินระยะยาว และไม่ต้องการยุ่งยากในการตรวจเช็กเครดิต ไปจนถึงบริการขายฝาก ซึ่งรับขายฝากนาฬิกา กระเป๋า และจิวเวลรี่แบรนด์เนม คล้ายการจำนำ

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : แห่ช็อปแบรนด์เนม 2 แสนล้าน สินค้าใหม่-มือ 2 ขยายสาขา

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ประชาชาติธุรกิจ

ราคาน้ำมันพรุ่งนี้ (24 ก.ค. 68) เบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ลด 40 สต. มีผลตี 5

38 นาทีที่แล้ว

บอร์ด กกท. เห็นชอบ "โป๊กเกอร์" เป็นกีฬา ต้องไม่เกี่ยวการพนัน

59 นาทีที่แล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศเตือน พายุวิภา ฉบับที่ 16 ฝนตกหนัก-ลมแรง

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เซ็นทรัลพัฒนา เจาะนักท่องเที่ยวไฮเอนด์ตะวันออกกลาง ดันไทยสู่ Global Elite Destination

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

โบรกเกอร์มีมติเลือก "ธนพิศาล"-"ไพบูลย์" นั่งบอร์ดตลท. มีผล 5 ส.ค.68

ทันหุ้น

สพข.4 จัดหลักสูตร ‘นักพัฒนาดิน’ ขยายผลงานพัฒนาที่ดิน สร้างเครือข่ายองค์ความรู้

The Bangkok Insight

พรุ่งนี้ค่อยเติม! แจ้งปรับลดราคาน้ำมันเบนซิน-โซฮอล์ 40 สต./ลิตร ดีเซลคงเดิม

The Bangkok Insight

ข่าวดี พรุ่งนี้ ปตท.-บางจากลดราคาเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ลง 0.40 บาท/ลิตร

ทันหุ้น

ให้คำปรึกษาเรื่องดิน! สพด.ศรีสะเกษ ร่วมงาน ‘โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่’

The Bangkok Insight

PDPC จับมือภาครัฐ-เอกชนปิดช่องโหว่สแกนม่านตา-ลุยตรวจสอบแพลตฟอร์มดิจิทัล

ทันหุ้น

Microsoft เผย กลุ่มจีน Storm-2603 โจมตี SharePoint เจาะระบบนิวเคลียร์สหรัฐ

กรุงเทพธุรกิจ

วาฬ XRP เคลื่อนไหว โอน XRP มูลค่า $700 ล้าน จุดกระแสฮือฮา

ทันหุ้น

ข่าวและบทความยอดนิยม

ราคาน้ำมันดิบ (23 ก.ค.) ปรับลด หลังตลาดกังวลสงครามการค้าสหรัฐ-ยุโรป

ประชาชาติธุรกิจ

เปิดเงื่อนไขงบประมาณ-ฐานะคลัง เงินชดเชย ปมเสี่ยงรถไฟฟ้า 20 บาท

ประชาชาติธุรกิจ

ราคาทองวันนี้ (23 ก.ค. 68) พุ่งขึ้น 350 บาท ทองรูปพรรณ 52,900 บาท

ประชาชาติธุรกิจ
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...