ไล่ล่าระทึกมือฉกรถหลวงพ่อถึงขั้นปีนต้นไม้หนีในพื้นที่บุรีรัมย์
วันที่ 21 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากกรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวน เข้าไปขโมยรถยนต์กระบะแคป ยี่ห้อมาสด้า สีดำ หมายเลขเบียน ผย 3455 นครราชสีมา ของ เจ้าอาวาสวัดบ้านโคกใหญ่ หมู่ที่ 1 ต.คูเมือง อ. คูเมือง จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนวันที่ 18 ก.ค.68 ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ตำรวจสภ. คูเมือง ยอมรับว่าหาตัวคนร้ายได้ยากเนื่องจากไม่ปรากฏใบหน้าของผู้ก่อเหตุเพราะอยู่ในรถ ถึงแม้จะปรากฏภาพวงจรปิดการขับหลบหนีก็ตาม สิ่งที่ตำรวจแจ้งข้อมูลข่าวสารไปยังตำรวจทุกสังกัดและประชาชนทั่วไปคือสภาพรถและทะเบียนรถ
ล่าสุด พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ยุทธพงศ์ รอดนวล ผกก.สืบสวน ภจว.บุรีรัมย์ ,พ.ต.อ.สมชัย โสภณปัญญาภรณ์ ผกก.คูเมือง ,พ.ต.ท. ราชศักดิ์ เชียรรัมย์ สารวัตร(สืบสวน) สภ. คูเมือง เร่งรัดตามตัวผู้ก่อเหตุ กระทั่งชุดสืบสวนพบรถต้องสงสัยคันดังกล่าวขับขี่เข้ามาในหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงพยายามเรียกตรวจสอบ
แต่ปรากฏว่ารถคันดังกล่าวได้ ขับรถแหกฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่และชาวบ้านหลบหนีไป ถนนในป่าอ้อย บ้านสามศิลา ม.16 ต. หินเหล็กไฟ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ชุดจับกุมจึงขับรถไล่ตามกระชั้นชิด ระยะทางกว่า 20 กม.จนกระทั่งคนร้ายจนมุม จับกุมตัวได้ 1 คน ทราบชื่อคือ นายวีระวุฒิ อายุ 20 ปี อยู่บ้าน หมู่ที่18 ต.พรสำราญ อ คูเมือง จ.บุรีรัมย์
แต่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุม อีก 2 คนได้ นายชานนท์ หรือนนท์ อายุ 27 ปี อยู่บ้าน ม.4 ต.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ หัวหน้าแก๊ง และ นางสาวจุฑารัตน์ (แฟนนายนนท์) อายุ 26 ปี อยู่บ้าน ม.16 ต.พรสำราญ อ.คูเมือง เนื่องจากทั้งสองได้วิ่งหนี แลัว หลบซ่อนตัวอยู่ในพงป่าอ้อย ตอนรถพลิกคว่ำ จนกระทั่งตำรวจสังเกตเห็นหญิงชายสองคนปีนอยู่บนต้นข่อย จึงเรียกให้ลงมาจนกระทั่งทราบว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุขโมยรถของหลวงพ่อดังกล่าว
จากการสอบถามนายชานนท์ หรือนนท์ ผู้ก่อเหตุ รับสารภาพว่า วันก่อเหตุเดินเข้าไปในวัด เห็นรถกระบะจอดไว้ เลยเปิดว่าจะค้นดูของมีค่า แต่เห็นกุญแจรถเสียบคาไว้ จึงขโมยเอารถไปเลย ไม่ได้วางแผนมาก่อน หลังจากขโมยเสร็จก็ขับมุ่งหน้าไป กทม. เพื่อหลบหนี ส่วนเงินในรถประมาณ 30,000 บาท ใช้ซื้อของ เสื้อผ้า และเติมน้ำมัน ระหว่างขับหนีจนหมดเกลี้ยง
โดย นายชานนท์เล่าอีกว่า จากนั้นได้ขี่รถดังกล่าวย้อนลับมาที่บ้าน หวังจะกลับมาเอาเสื้อผ้า และไปเที่ยวหาแฟนที่บ้าน แต่ชาวบ้านและตำรวจตามมาเจอจนขับหนีจนรถเสียหลักชนต้นไม้พลิกคว่ำ ตนเองได้พาภรรยาปีนขึ้นต้นข่อยเพื่อซ่อนตัวในป่าอ้อย แต่ไม่รอดสายตาของตำรวจ
ด้านพระเจ้าของรถ ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนที่ขโมยได้ จึงเดินทางมาดูรถ ที่ สภ.คูเมือง พร้อมกล่าวว่า ส่วนตัวให้อภัยคนก่อเหตุ ส่วนเรื่องกฏหมายก็ให้ดำเนินการไปตามกระบวนการ
เบื้องต้นตำรวจ ตั้งข้อหานายนนท์ ในข้อหาลักทรัพย์ ในเวลากลางคืน และเสพยาเสพติด ประเภท 1 (ยาบ้า) จากการตรวจสอบนายนนท์ รับสารภาพว่าเคยก่อเหตุ ลักรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ อีกด้วย