เกาะติดม็อบ "ฮุนเซน" ข่มขวัญหลาน หวัง "ประยุทธ์" เปลี่ยนการเมือง
พักแฉ "ฮุนเซน" เกาะติดม็อบรวมดาวไล่ แพทองธาร หวังไทยเปลี่ยนนายกฯ นักวิชาการกัมพูชาชี้ พล.อ.ประยุทธ์ คือ ทางออก
กระแสม็อบจุดติด จาก "รวมพลังแผ่นดิน" ข่มขวัญฮุนเซน ต้านภัยผู้รุกรานกลายเป็นการชุมนุมไล่อิ๊งค์ ไล่พรรคร่วมรัฐบาลโดยปริยาย
วันเสาร์ที่ 28 มิ.ย. 2568 สมเด็จฮุน เซน ในฐานะประธานพรรคประชาชนกัมพูชา(CPP) พร้อมบรรดาแกนนำพรรค CPP ได้เข้าร่วมพิธีทำบุญและเฉลิมฉลอง เนื่องในโอกาสสถาปนาพรรคครบรอบ 74 ปี
สมเด็จฮุน เซน ได้กล่าวปราศรัยต่อหน้าสมาชิกพรรคหลายพันคน ณ ด้านหน้าอาคารที่ทำการพรรค CPP โดยเนื้อหาเน้นหนักเรื่องประวัติการต่อสู้ของพรรค ไม่มีการแฉเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวกับคนในเมืองไทย
ด้านสำนักข่าวในเครือข่ายของ ฮุน มานา ลูกสาวฮุนเซน อาทิ Fresh News ,Kampuchea Thmey Daily และ BTV Cambodia ได้เกาะติดการชุมนุมกลุ่มรวมพลังแผ่นดินที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิอย่างใกล้ชิด
สาเหตุที่สมเด็จฮุน เซน ต้องเกาะติดม็อบรวมพลังแผ่นดิน เพราะวันก่อนได้ทำตัวเป็นกูรูการเมืองวิเคราะห์ว่า การเมืองไทยจะมีเปลี่ยนตัวนายกฯภายใน 3 เดือน
ในวันที่สมเด็จฮุน เซน ไปพูดกับนักการเมืองท้องถิ่น จ.พระวิหาร อดีตนายกฯกัมพูชาได้ส่งสัญญาณถึงคนไทยว่า กัมพูชาไม่สามารถร่วมทำงานกับรัฐบาลปัจจุบันได้ และกำลังรอทำงานร่วมกับนายกรัฐมนตรีคนใหม่
ดังที่รู้กัน สมเด็จฮุน เซน เป็นคนที่รู้ลึกการเมืองไทย และติดตามข่าวสารฝั่งไทยตลอดเวลา จึงพอประเมินสถานการณ์ได้ว่า แพทองธาร ชินวัตร น่าจะนั่งอยู่ในตำแหน่งนายกฯไปได้ไม่นาน
ทักษิณไร้อำนาจแท้จริง
มีการวิเคราะห์ปมแตกหักระหว่าง "ตระกูลฮุน" กับ "ตระกูลชินวัตร" กันมากมายในฝั่งไทย ลองไปอ่านความเห็นจากชาวกัมพูชาผ่านบีบีซีไทย
วิชานา นักวิเคราะห์จากกัมพูชาประเมินว่า ชั่วโมงนี้ ฮุนเซน-ทักษิณ มีความแตกต่างกันมาก
"ท่านฮุนเซน มีอำนาจอย่างมาก เนื่องจากปกครองกัมพูชามานานกว่า 30 ปี ตอนนี้เขาดำรงตำแหน่งเป็นประธานวุฒิสภา และเป็นผู้นำพรรคการเมืองที่ครองเสียงข้างมากของประเทศ…ขณะที่ทักษิณไม่ใช่แบบนั้น เขาถูกทำให้ออกจากการเมืองไปนานแล้ว และกลับมาครั้งนี้เขามาอำนาจทางอ้อม ไม่มีอำนาจเท่าเดิม"
นักวิเคราะห์กัมพูชาคนนี้มองไม่ต่างจากนักวิชาการไทยบางคน ที่เห็นว่า ทักษิณใต้เงารัฐพันลึก มีอำนาจต่อรองทางการเมืองน้อยลงกว่าในอดีต
วิชานา ชี้ว่า การที่นายกฯแพทองธารโต้ว่า ฮุน มาเนต และ สมเด็จฮุน เซน ไม่เป็นมืออาชีพนั้น ถือเป็นเรื่องใหญ่อย่างมาก และเรียกผู้นำของกัมพูชาอย่างสมเด็จฮุน เซนว่า “อังเคิล” นี่คือปมแตกหัก
โสภาร เอียร์ นักวิชาการมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแอริโซนาสหรัฐอเมริกา บอกกับบีบีซีไทยว่า การที่ ฮุนเซน ประกาศตัดสัมพันธ์ตระกูลชินวัตร ให้สาธารณชนรับรู้ครั้งนี้ ถือเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของ ฮุนเซน ในการใช้การเผชิญหน้าทางการเมืองอย่างมีกลยุทธ์
ประยุทธ์คือผู้นำที่ดี
การเผชิญหน้าอย่างมีกลยุทธ์ของสมเด็จฮุน เซน สังเกตได้จากการเดี่ยวไมค์โครโฟนที่ จ.พระวิหาร โดยสมเด็จฮุน เซน เสนอว่า ประเทศไทยควรทำงานกับกัมพูชาเหมือนยุคสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น นายกรัฐมนตรี
"ยุคนั้นความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชาและไทยเปรียบเสมือนการเดินบนพรมแดง ไม่มีการขัดแย้งหรือโต้แย้งใดๆทั้งสิ้น"
ทำนองเดียวกัน บีบีซีได้ถามวิชานา นักวิเคราะห์ชาวกัมพูชาว่า ในเวลานี้ สถานการณ์ตึงเครียดกัมพูชา-ไทย จะมีช่องทางคลี่คลายความขัดแย้งนี้อย่างไร
"ผมคิดว่าประเทศไทยควรได้นายกรัฐมนตรีที่ดีกว่านี้" พร้อมกับกล่าวถึง พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีความเห็นสอดคล้องกับสมเด็จฮุน เซน ว่า "ในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่ง ไม่มีความขัดแย้งบริเวณชายแดนระหว่างสองประเทศ และภูมิภาคนี้มีสันติสุขกว่าในตอนนี้"
เหตุผลที่มองว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นตัวเลือกที่ดี นักวิเคราะห์ชาวกัมพูชาอธิบายว่า นายพลผู้นี้สามารถควบคุมกองทัพไทยได้ ขณะที่ในตอนนี้พิสูจน์แล้วว่า ตระกูลชินวัตรทำไม่ได้ และไม่มีอิทธิพลมากพอ จะกำหนดทิศทางการตัดสินใจของกองทัพ