ตม.ดอนเมือง รวบคาด่านตรวจ หนุ่มเวียดนามปลอมรอยตราประทับเลี่ยง overstay
ตม.ดอนเมือง รวบคาด่านตรวจ หนุ่มเวียดนามปลอมรอยตราประทับเลี่ยง overstay
(30 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานดอนเมือง (ตม.ทอ.ดอนเมือง) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2, พ.ต.อ.อติศักดิ์ ปัญญา ผกก.ด่าน ตม.ทอ.ดอนเมือง สั่งการให้ ว่าที่ พ.ต.ท.รัฐพล สุวรรณรัฐ สว.ด่าน ตม.ทอ.ดอนเมือง พร้อมเจ้าหน้าที่สืบสวนชุด 2 ดำเนินการตรวจสอบกรณีได้รับการประสานจากงานตรวจคนเข้าเมืองขาออกระหว่างประเทศ ว่าได้ตรวจพบบุคคลใช้รอยตราประทับขออยู่ต่อในราชอาณาจักรปลอม ขณะกำลังจะเดินทางออกนอกประเทศไปยังกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ด้วยเที่ยวบิน FD642 ของสายการบินแอร์เอเชีย
ผู้ต้องหารายดังกล่าวคือ เป็นผู้ชาย สัญชาติเวียดนาม อายุ 24 ปี ถือหนังสือเดินทางเวียดนาม โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวได้บริเวณโถงผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ อาคาร 1 ชั้น 3 ท่าอากาศยานดอนเมือง พร้อมของกลาง ได้แก่ หนังสือเดินทางเล่มดังกล่าว และโทรศัพท์มือถือ APPLE รุ่น iPhone 11 Pro Max สีดำ จำนวน 1 เครื่อง
จากการตรวจสอบในระบบสารสนเทศของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพบว่า ชายคนดังกล่าว เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 ส.ค.67 ด้วยวีซ่าท่องเที่ยว (ประเภท ผ.60-ม.17) ซึ่งอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ถึงวันที่ 24 ต.ค.67 ไม่พบข้อมูลการเดินทางออก แต่ภายในหนังสือเดินทางกลับปรากฏรอยตราประทับคำร้องเปลี่ยนประเภทวีซ่าเป็น NON-LA โดยระบุว่าได้รับอนุญาตให้อยู่ได้ถึงวันที่ 31 มี.ค.68 ซึ่งอ้างอิงตามมติ ครม. ลงวันที่ 24 ธ.ค.67 และประกาศกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 31 ม.ค.68 พร้อมแนบใบเสร็จค่าธรรมเนียมจำนวน 500 บาท ลงชื่อเจ้าหน้าที่ ร.ต.อ.ยงยุทธ ยอดคำจินดา จาก ตม.จว.ตราด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ประสาน ว่าที่ พ.ต.ท.ฉัฐเมศร์ จารุเรืองพงศ์ สว.ตม.จว.ตราด เพื่อตรวจสอบ พบว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารปลอม และไม่มีรายชื่อเจ้าหน้าที่ตามที่ปรากฏ รวมถึงได้ส่งตัวอย่างตราประทับปลอมไปเปรียบเทียบกับของจริงเพื่อใช้ประกอบหลักฐาน หากพบว่าเป็นตราปลอม จะถือว่าพำนักเกินกำหนดอนุญาต เป็นเวลา 249 วัน
จากการสอบสวนเบื้องต้น ชายคนดังกล่าว ให้การว่าได้เข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี 2567 โดยได้รับการชักชวนจากเพื่อนชาวเวียดนามให้มาทำงานในร้านอาหาร (ไม่ทราบชื่อร้านและสถานที่ตั้ง) ต่อมานายจ้างได้จัดการเรื่องเปลี่ยนวีซ่าให้ แต่ไม่ทราบรายละเอียดการดำเนินการ
ระหว่างการควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ใช้ล่ามแปลภาษาเวียดนาม เพื่อสื่อสารให้ผู้ต้องหารับทราบสิทธิและข้อกล่าวหา ซึ่งผู้ต้องหาให้การภาคเสธตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงนำตัว ชายคนดังกล่าว ส่งพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นับเป็นเหตุการณ์ที่พบชาวต่างชาติปลอมตราประทับเพื่อเลี่ยงความผิด overstay ซึ่งหากอยู่เกินกำหนดมากกว่า 90 วัน จะถูกขึ้น blacklist ห้ามเข้าไทย ตั้งแต่ 1-10 ปี ตามแต่กรณี