เปิดแผน “จักรพงษ์ภูวนาถ” รุกเร็ว-จบไว ไม้เด็ดทุบ "กัมพูชา" ให้หมอบ
24 กรกฎาคม 2568 ป้องกันประเทศจากภัยคุกคามฝ่ายตรงข้าม ด้านโฆษก ทบ. ชี้ชัดเจนแล้ว กัมพูชาเป็นฝ่ายบีบบังคับไทย เราคงไม่ปล่อยให้ใครเอาเปรียบ ลั่นขณะนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ ขอคนไทย เชื่อมั่นศักยภาพกองทัพไทย ย้ำขวัญกำลังใจทหารไทยพร้อมสู้
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงแผนจักรพงษ์ภูวนารถ ที่เราเปิดปฏิบัติการ ว่า คือแผนป้องกันประเทศ ที่กำหนดหน้าที่ของแต่ละหน่วย และกำลังทางทหาร และให้เตรียมความพร้อมเมื่อมีคำสั่ง เป็นแผนที่ได้ถูกกลั่นกรอง โดยประเมินจากสถานการณ์ และสภาพแวดล้อมในกิจการป้องกันประเทศในกรอบของกองทัพบก
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมา ในศึกเขาพระวิหาร ใช้แผนนี้ ปัจจุบันขีดความสามารถกำลังรบเราเป็นอย่างไร
โฆษก ทบ. บอกว่า พัฒนามาตามลำดับ และพิจารณาให้เหมาะสมกับภัยคุกคาม และขีดความสามารถของฝ่ายตรงข้าม ป้องกันภัยคุกคามจากฝ่ายตรงข้าม
ส่วนแผนหลักๆ เป็นการป้องกัน หรือ รุกคืบ
โฆษก ทบ. กล่าวว่า อาจจะพูดไม่ได้ แต่โดยปกติสิ่งแรกต้องครอบคลุมอธิปไตยของเราก่อน พูดง่ายๆ แผนนี้ เป็นแผนที่ทุกหน่วยจะรู้อยู่แล้วว่าตัวเองต้องทำอะไร เพราะหน่วยประกอบกำลังในแผนนี้ค่อนข้างมาก เพราะฉะนั้นจะต้องมีความชัดเจน
ส่วนขวัญกำลังใจทหาร หลังกำลังพลถูกกับระเบิดในดินแดนไทย ขณะนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่สูง ทุกคนพร้อมที่จะทำหน้าที่ และการทำหน้าที่ของทหารอยู่บนพื้นฐานความเสี่ยงอยู่แล้ว ยอมรับว่าวิธีการลักษณะแบบนี้กระทบบ้าง แต่เชื่อว่าไม่ได้ทำให้เราสูญเสียหรือหวั่นไหว กลับเป็นพลังเสริมที่ทำให้เรามีความแข็งแกร่ง เราคงไม่ได้อยู่ในลักษณะที่ให้ใครเอาเปรียบ ในลักษณะนี้ ก็เหมือนกับว่ามาลอบทำร้าย
ที่ผ่านมาเราเคารพในกฎ กติการะหว่างประเทศมาโดยตลอด แต่ขณะนี้มีความชัดเจนว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายที่บีบบังคับเรา จากนี้ เราอาจจำเป็น ต้องทำในสิ่งที่เราพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด ด้วยกลไกระหว่างประเทศ แต่ขณะนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้แล้ว
ภายใต้สถานการณ์ที่กดดันในขณะนี้ ตนคิดว่าเรายังคงยืนหยัดต่อสู้ ภายใต้กฎกติกาและหลักสากล ขอให้พี่น้องคนไทย เชื่อมั่นในศักยภาพของกองทัพไทย ยามนี้คงต้องร่วมกันส่งกำลังใจให้กับพี่น้องทหารในแนวหน้าของพวกเรา
มาตรา 39 แห่ง พระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 กำหนดไว้ว่า:
“ให้กองทัพไทยจัดตั้งศูนย์บัญชาการทางทหารในแต่ละระดับขึ้นตั้งแต่ยามปกติเพื่อใช้ในการติดตามสถานการณ์ และเป็นศูนย์ควบคุม อำนวยการ และสั่งการการปฏิบัติ”
“ให้ศูนย์บัญชาการทางทหารในกองบัญชาการกองทัพไทย มีหน้าที่ควบคุม อำนวยการและสั่งการศูนย์บัญชาการทางทหารในแต่ละระดับตามวรรคหนึ่ง หรือกองกำลังเฉพาะกิจร่วมที่จัดตั้งขึ้นตามแผนป้องกันประเทศ แล้วแต่กรณี”