“บิ๊กอรรถ” ยันไม่มีข้อมูล 7 นักการเมืองใกล้ชิดรัฐบาลเอี่ยวเว็บพนันฯ
ผบช.สอท. ยืนยันไม่มีข้อมูล 7 นักการเมือง ใกล้ชิดรัฐบาลเอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ โต้ “ฮุนเซน” ระบุไทยเป็นแหล่งสแกมเมอร์เซ็นเตอร์ ชี้สถิติโลก 80 % อยู่ที่กัมพูชา
วันนี้(27 มิ.ย. 67) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยถึง กรณีที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีมันชื่อพรรคประชาชน โพสต์ข้อความระบุว่ามี 7 นักการเมืองใกล้ชิดรัฐบาลไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์และการฟอกเงินในประเทศกัมพูชาว่า กรณีดังกล่าวหากตำรวจไซเบอร์ มีหลักฐานที่ชัดเจนทางเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายทุกอย่าง
ซึ่งที่บอกว่าตํารวจไซเบอร์มีข้อมูลนั้น แบ่งได้ 2 กรณีคือ รู้จากการสืบสวนสอบสวนหรือได้ข้อมูลจากสายข่าวและการมีหลักฐานที่นำเข้าไปประกอบในสำนวนก่อนส่งอัยการนั้นจะต้องมีหลักฐานที่มีข้อเท็จจริงดังนั้น รายชื่อที่ นายวิโรจน์ พูดว่าทางตำรวจไซเบอร์รู้แล้วว่าเป็นใครนั้น พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยืนยันว่า ยังไม่ทราบว่าพูดถึงบุคคลใดและไม่รู้ว่ามีนักการเมืองท่านใดเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่ที่ผ่านมาก็มีคดี สจ.กอล์ฟ ซึ่งถือว่าเป็นนักการเมืองที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ที่อยู่ประเทศกัมพูชาปัจจุบันก็ถูกดําเนินคดีอยู่
ส่วนกรณีที่ ฮุนเซน เปิดเผยว่า ประเทศไทยเป็นแหล่งสแกมเซ็นเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในการสร้างปัญหาให้กับคนทั่วโลกนั้น พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่า จากสถิติองค์กรสากลโลกตรงกับข้อมูลสถิติของประเทศไทยว่าแหล่งสแกมเซ็นเตอร์ 80% อยู่ที่ประเทศกัมพูชา และอีก 20% อยู่ที่ประเทศพม่า รวมไปถึงสถิติการร้องเรียนที่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายจำนวนมาก ซึ่งการที่ฮุนเซนออกมาเพยแพร่แบบนี้ จะต้องเข้าไปดูว่าทางตํารวจไซเบอร์ยะสามารถดำเนินคดีอะไรได้บ้าง เนื่องจากเป็นกล่าวหาและให้ข้อมูลเท็จผ่านทางสื่อออนไลน์
ส่วนมาตรการที่ทางรัฐบาลไทยได้ดำเนินการในทุกวิถีทางตัดไฟ เน็ต น้ำมัน นั้น ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้รับผลกระทบประมาณ 30% นั้น ปัจจุบันพบว่ามาตรการดังกล่าวส่งผลให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปรับวิธีการถ่ายโอนเงินจากระบบออนไลน์กลับมาใช้รูปแบบเดิม โดยใช้บัญชีม้ากดเงินในประเทศไทยก่อนนำส่งไปยังคนกลางและส่งไปให้ตัวการใหญ่ของแก๊งจีนเทา เนื่องจากมาตรการของไทยที่ปรับมารับมือกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้นสร้างความลำบากให้กับพวกนี้เป็นอย่างมาก
การเปลี่ยนแปลงมาตราการในครั้งนี้ เห็นผลได้อย่างชัดเจน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมขบวนการเหล่านี้ได้มากขึ้น ทำให้สามารถนำทรัพย์สินกลับมาคืนสู่ประชาชนได้ไม่มากก็น้อย
ส่วนกรณีตึก 18 ชั้น และ 25 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชานั้น พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ตอนนี้มีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งทางตำรวจไซเบอร์ได้พยายามรวบรวมข้อมูลหลักฐานทั้งหมดเท่าที่ทำได้ และบูรณาการร่วมกับจเรตำรวจแห่งชาติ ในการกำชับให้ตำรวจในพื้นที่ ช่วยเป็นหูเป็นตา จนรู้ว่าแหล่งสแกมเมอร์เซ็นเตอร์มียู่รอบประเทศไทยและอยู่ตรงไหนบ้าง ซึ่งตำรวจไซเบอร์พยายามเจาะข้อมูลต่างๆเพื่อสืบทราบหาบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมไปถึงทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews