‘กระทิง เรืองโรจน์’ AI ไม่ได้มาแทนคน แต่คนจะเก่งขึ้นเพราะ AI
‘AI ต้องมาช่วยให้คนเก่งขึ้น ไม่ใช่มาแทนคน’ นี่คือแนวคิดและจุดยืนที่ชัดเจนของกสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นองค์กรที่พัฒนา AI อย่างจริงจัง แต่ KBTG กลับไม่ได้มอง AI แค่เป็น ‘เครื่องมือ’ แต่ผลักดันให้ AI กลายเป็น ‘เพื่อนร่วมงาน’ ของคนในองค์กรแทน
‘เรืองโรจน์ พูนผล’ ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เชื่อว่า ‘คน’ ยังเป็นหัวใจของการขับเคลื่อนองค์กร แต่ในขณะเดียวกัน AI ก็เป็นพลังสำคัญที่จะช่วยให้คนทำงานได้ดีขึ้น เร็วขึ้น ภายใต้แนวคิด Human-First x AI-First Transformation ที่ใช้ AI มาเสริมศักยภาพพนักงาน ไม่ใช่มาแย่งงาน
และสิ่งที่ KBTG กำลังเน้นในตอนนี้คือ Agentic AI หรือระบบ AI ที่ไม่ใช่แค่ทำงานเฉพาะอย่าง แต่สามารถประสานงานและสั่งงาน AI ตัวอื่นๆ ได้ เหมือนมีผู้ช่วยอัจฉริยะที่รู้จักงานทั้งระบบ ทั้งหมดนี้ KBTG ทำผ่านกลยุทธ์ที่เรียกว่า AI 5+1 ที่จะเน้นให้คนกับ AI ทำงานร่วมกันอย่างสมดุล ไม่ใช่การแทนที่กัน
[ วางรากฐานด้วยกลยุทธ์ AI 5+1 ]
ทาง KBTG ได้วางหมากรุกในการใช้ AI ผ่านกลยุทธ์ 5+1 ที่ครอบคลุมทั้งด้านธุรกิจ เทคโนโลยี และการพัฒนาคน ได้แก่
1.AI for Banking : ใช้ AI พัฒนาบริการและกระบวนการของธุรกิจธนาคาร
2.AI for IT Delivery & Operations : ใช้ AI ช่วยในการพัฒนาระบบและการดำเนินงานหลังบ้าน
3.AI & Data Platform : สร้างแพลตฟอร์มรองรับการใช้ AI และข้อมูล
4.Governance & Ecosystem : วางมาตรฐานและแนวทางการใช้ AI ให้ปลอดภัยและมีจริยธรรม
5.AI Tech Business : พัฒนา AI เป็นสินค้าและบริการต่อยอดทางธุรกิจ
และสำหรับในส่วนของ +1 ก็คือ People : การยกระดับความรู้ด้าน AI ให้กับพนักงาน เพื่อให้ทุกคนใช้ AI ได้อย่างมั่นใจและสร้างสรรค์
ดังนั้น กลยุทธ์ AI 5+1 จึงเป็นมากกว่าการใช้ AI แต่มันคือการเปลี่ยนทั้งวิธีคิด วิธีในการทำงาน และวิธีที่จะพัฒนาเพื่อสร้างให้องค์กรเติบโตในโลกยุคใหม่
[ จากแนวคิดสู่การใช้งานจริง ]
หลายๆ โครงการของ KBTG ได้เริ่มใช้ AI อย่างจริงจังและได้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็น
– AthenaMind : ระบบแชทบอทช่วยตอบคำถามเรื่อง HR, กฎหมาย, ความปลอดภัย ฯลฯ ตลอด 24 ชั่วโมง
– AI Coding Assistant : ช่วยวิศวกรเขียนโค้ดได้เร็วขึ้น ปัจจุบันมีคนใช้มากกว่า 600 คน ช่วยเขียนไปแล้วกว่า 10 ล้านบรรทัด คิดเป็น 10% ของโค้ดทั้งหมด และลดต้นทุนได้ 32 ล้านบาท
– Chai LAI (ไฉไล) : ระบบช่วยทดสอบซอฟต์แวร์ด้วย AI Testing Agent ตัวแรกของ KBTG ปัจจุบันมีการใช้ AI ช่วยเขียนสคริปต์ทดสอบระบบแล้วกว่า 500 สคริปต์
– Sai JAI (ใส่ใจ) : เฟรมเวิร์คตรวจสอบว่า AI ที่พัฒนาขึ้นมีคุณภาพและทำตามมาตรฐาน เพื่อกำกับให้การพัฒนาเป็นไปตามนโยบายสากล
ทั้งหมดนี้พิสูจน์ได้ว่า การใช้ AI อย่างเข้าใจและมีเป้าหมายที่ชัดเจนไม่เพียงเพิ่มประสิทธิภาพ ลดเวลา ลดต้นทุน แต่ยังช่วยให้คนทำงานได้ดีขึ้น และเปิดทางสู่การสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
[ เป้าหมายครึ่งปีหลัง 2568 ]
ในส่วนของช่วงครึ่งปีที่เหลือทาง KBTG ยังมีเป้าหมายสำคัญ 4 ด้านหลักๆ ได้แก่
-การทรานส์ฟอร์มฝ่ายธุรกิจธนาคารและปฏิบัติการด้วย AI โดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน (Productivity) และใช้เทคโนโลยีช่วยสร้างผลตอบแทนให้ได้มากยิ่งขึ้น
-การทรานส์ฟอร์มกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์จากต้นน้ำถึงปลายน้ำด้วย Agentic AI ที่พัฒนาขึ้นโดย KBTG เอง
-การพัฒนาและขยายผล AI Agent เฉพาะทางสำหรับชนิดงานที่ต่างกัน เพื่อตอบโจทย์อย่างตรงจุด
-การสร้างความเข้าใจและส่งเสริมให้พนักงานประยุกต์ใช้ AI ในการทำงานอย่างมั่นใจ
ดังนั้น มันไม่ใช่แค่การมี AI ที่ฉลาดแต่มันคือการทำงานที่ฉลาดขึ้นจากการมอง AI ให้เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คนทำงานได้ดีขึ้น มีเวลาโฟกัสกับสิ่งสำคัญมากขึ้น และได้เติบโตไปพร้อมกับองค์กร
เพราะสุดท้ายเป้าหมายของ KBTG ไม่ใช่แค่สร้าง AI ที่เก่งเท่านั้น แต่คือการสร้างองค์กรที่ทั้งคน และ AI เติบโตไปด้วยกันได้อย่างยั่งยืน