แชมป์เท่านั้น!
ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับการแข่งขันฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 51 ซึ่งล่าสุดสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ประกาศเลือกจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีสนามกีฬากลางจังหวัดกาญจนบุรี (กลีบบัว) ความจุ 7,800 ที่นั่ง เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 51 ประจำปี 2568 ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงปฏิทิน ฟีฟ่า เดย์ ระหว่างวันที่ 1-9 กันยายน 2568
โดยการแข่งขันฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 51 นี้ เป็นการแข่งขันแบบทัวร์นาเมนต์ 4 ทีม แข่งขันทีมละ 2 นัด ในรูปแบบน็อคเอาท์ รอบรองชนะเลิศ และ รอบชิงชนะเลิศ โดยทุกนัดจะเป็นการแข่งขันในระดับ International ‘A’ Match นำผลการแข่งขันไปคำนวณในการจัดฟีฟ่าแรงกิ้ง มี 4 ชาติ เข้าร่วมแข่งขัน ประกอบด้วย "แชมป์เก่า" ทีมชาติไทย อันดับ 102 ของโลก, ทีมชาติอิรัก อันดับ 58 ของโลก , ทีมชาติฮ่องกง อันดับ 147 ของโลก และ ทีมชาติฟิจิ อันดับ 150 ของโลก ส่วนการประกบคู่แข่งขันนั้น ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย จะมีการจับสลากเพื่อแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
ทั้งนี้ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ได้คุยกับ "ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน" อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในฐานะที่ปรึกษาประธานฝ่ายเทคนิค ถึงเป้าหมายใหญ่ของทีมชาติไทยในแมทซ์นี้
โดย "ดร.ชาญวิทย์" กล่าวว่า ทางสมาคมฯตั้งเป้าที่จะคว้าแชมป์คิงส์ คัพ ครั้งที่ 51 เพราะหากทีมชาติไทยชนะคู่แข่งได้ ก็จะส่งผลดีต่ออันดับฟีฟ่าแรงกิ้ง ที่ในขณะนี้ ทีมชาติไทย ตกมาอยู่อันดับที่ 102 ของโลก จากก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายน 2568 อยู่อันดับ 99 ของโลก และย้ำว่า การแข่งขันคิงส์ คัพ ครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งแมทซ์ที่มีความสำคัญต่อทีมชาติไทย เพราะจะได้เตรียมทีมก่อนที่จะลุยอาเซียนคัพ
สำหรับฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานถ้วยรางวัล "คิงส์คัพ" สำหรับการแข่งขันฯ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานถ้วยรางวัล "คิงส์ คัพ" ในการแข่งขันฯ ครั้งที่ 48 ประจำปี 2565 เป็นต้นมา โดยปัจจุบันจึงนับว่าถ้วยพระราชทานนี้ มีความเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย และเก่าแก่เป็นอันดับ 2 ของทวีปเอเชีย
และจากข้อมูลของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ระบุว่า จังหวัดกาญจนบุรี ถือเป็นครั้งแรก ที่ได้สิทธ์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน และถือเป็นการกระจายกระแสฟุตบอลสู่แฟนบอล ในจังหวัดหัวเมืองของประเทศไทยให้เกิดความนิยมมากขึ้น เช่นเดียวนโยบายของสมาคมฯ ที่ต้องการยกระดับ ปรับปรุง สาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สนามแข่งขัน สนามซ้อม ให้กับสนามกีฬาจังหวัด ซึ่งส่งผลต่ออนาคตที่ประเทศไทยจะมีสนามที่ได้มาตรฐานนานาชาติ ตามที่สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ระบุไว้มากขึ้นอีกด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews