‘โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน’ รู้ทันสัญญาณเตือน ป้องกันก่อนเกิดอัมพาต
แพทย์หญิง พิมลพรรณ วิเสสสาระกูล
แพทย์ผู้ชำนาญการด้านอายุรแพทย์ระบบประสาทและสมอง
โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน (Stroke) คือ ภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยง เนื่องจากการอุดตันของหลอดเลือด ส่งผลให้สมองบางส่วนขาดออกซิเจนและสารอาหารอย่างเฉียบพลัน ทำให้เซลล์สมองเสียหายหรือทำงานผิดปกติ โรคหลอดเลือดสมองอุดตันถือเป็นหนึ่งในโรคอันตรายที่เกิดขึ้นฉับพลัน เป็นสาเหตุหลักของโรคอัมพฤกษ์และอัมพาต มักพบร่วมกับโรคอื่น เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือในผู้ที่มีประวัติครอบครัวเคยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง
เนื่องจากเป็นโรคที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน ผู้ป่วยจึงควรหมั่นสังเกตอาการและความผิดปกติที่เกิดขึ้น จากสัญญาณดังนี้
- ตาพร่า มองภาพไม่ชัด
- ปวดศีรษะ บางรายอาจปวดรุนแรง
- เดินเซ ทรงตัวไม่ดี
- แขนขาอ่อนแรง
- หน้าเบี้ยวครึ่งซีก ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด
- คิดช้าลงหรือฟังไม่เข้าใจ ตอบสนองช้า
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
- ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
- ผู้ป่วยโรคหัวใจ
- ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
- ผู้มีไขมันในเลือดสูง
- การดื่มแอลกอฮอล์
- สูบบุหรี่
การรักษาโรค
ผู้ป่วยควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที ภายใน 3 ชั่วโมงเมื่อเกิดอาการ ข้างต้นโดยการรักษาเบื้องต้น จะต้องทำให้เลือดและออกซิเจนกลับมาเลี้ยงสมองให้เร็วที่สุด ด้วยยาละลายลิ่มเลือด (Thrombolysis)
สำหรับผู้ป่วยที่มาช้ากว่า 3 ชั่วโมงแต่ไม่เกิน 24 ชั่วโมง และแพทย์วินิจฉัยแล้วว่าเซลล์สมองยังไม่ตายจากการอุดตันของลิ่มเลือด ต้องใช้การใส่สายสวนหลอดเลือดสมอง
การป้องกันและลดความเสี่ยงการเกิด Stroke
- ควบคุมปัจจัยเสี่ยง เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- เลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
หลอดเลือดอุดตันสมองเป็นโรคร้ายแรงที่เกิดขึ้นได้ฉับพลัน และอาจร้ายแรงถึงชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที และมีแนวโน้มพบในคนอายุน้อยมากขึ้น ผู้ป่วยควรตรวจสุขภาพและดูแลร่างกายเป็นประจำเพื่อลดความเสี่ยง
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม/นัดหมาย
ศูนย์สมองและระบบประสาท (Neurological Center) ชั้น 2
โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล (WMC)
โทร.02-836-9999 กด 2 หรือ ต่อ *2921