โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

“เผ่าภูมิ” เตรียมชงกฎหมาย "หวยเกษียณ" เข้าสภาฯ 23 ก.ค.นี้

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“เผ่าภูมิ” เดินสาย “หวยเกษียณ-หัวลำโพง” ชูแนวคิด ซื้อหวย-เงินไม่หาย-กลายเป็นเงินออม เผย 23 ก.ค.นี้ ดันกฎหมายเข้าสภาวาระ 2-3

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธี งาน “10 ปี กอช. ศุกร์ได้ลุ้น สุขได้ออม กับหวยเกษียณ” พร้อมด้วยหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่มาร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารออมสิน, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.), ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.), ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย, ทัณฑสถานหญิงกลาง, ทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา, บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.), กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.), TrueMoney, AIS และ ShopeePay เตรียมพร้อมให้คนไทยก้าวสู่สังคมสูงวัยอย่างมั่นคง

นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า กระทรวงการคลังมีนโยบายสนับสนุนการออมที่เข้าถึงได้สำหรับทุกกลุ่มอาชีพ ซึ่ง “สลาก กอช.” หรือ “หวยเกษียณ” จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยผลักดันให้สามารถเพิ่มเงินออมของประชาชนทุกคน ภายใต้แนวคิด “ซื้อหวย-เงินไม่หาย-กลายเป็นเงินออม” ปัจจุบันร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯในวาระ 2 และ 3 ในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ เพื่อให้ กอช. สามารถออกและจำหน่าย “หวยเกษียณ” เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนออมเงิน ผ่านการลุ้นรางวัล และสร้างระบบการออมที่ยั่งยืนรองรับสังคมผู้สูงอายุของไทย”

สำหรับ “หวยเกษียณ” เป็นสลากขูดดิจิทัล ราคาฉบับละ 50 บาท เปิดจำหน่ายให้ผู้มีสัญชาติไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป สามารถซื้อได้สูงสุดเดือนละ 3,000 บาท (60 ฉบับ) ผ่านแอปพลิเคชัน “กอช.” โดยออกรางวัลทุกวันศุกร์ เวลา 17.00 น. ประกอบด้วย รางวัลที่ 1 มูลค่า 1 ล้านบาท (5 รางวัล) รางวัลที่ 2 มูลค่า 1,000 บาท (10,000 รางวัล) ทั้งนี้ ผู้ที่ถูกรางวัลจะได้รับเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ทันที ส่วนเงินซื้อหวยเกษียณทุกบาทจะถูกเก็บเป็นออมของผู้ซื้อในบัญชีส่วนตัว

ผู้ซื้อหวยเกษียณจะได้รับเงินออม พร้อมผลประโยชน์เป็นก้อนในครั้งเดียว 4 กรณีดังนี้

  • อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์
  • อายุมากกว่า 60 ปี จะได้รับเงินคืนทั้งหมด เมื่อครบ 5 ปี นับแต่วันที่ซื้อสลาก และสามารถซื้อต่อไปได้คราวละ 5 ปี
  • ทุพพลภาพ, เสียสัญชาติไทย และ
  • เสียชีวิต โดยจะคืนเงินทั้งหมดให้แก่บุคคลที่ระบุไว้ หรือทายาท

ด้าน นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กล่าวถึงบทบาทและผลการดำเนินงานตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาว่า กอช. ได้ทำหน้าที่เป็นกลไกการออมเพื่อสังคมให้แก่แรงงานนอกระบบ รวมถึงนักเรียน นักศึกษา และกลุ่มประชาชนทั่วไป อายุตั้งแต่ 15 – 60 ปี ที่ไม่มีสวัสดิการบำเหน็จบำนาญจากรัฐ เพื่อสร้างหลักประกันรายได้ยามชราภาพ

กอช. เปิดดำเนินงานเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2558 มีสมาชิกเริ่มต้นเพียง 300,000 คน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กอช. ได้ขยายช่องทางการออมที่สะดวกทันสมัย และสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน

โดยจุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในปี 2565 กอช. ขับเคลื่อน “วาระการออมแห่งชาติ” ผลักดันการปรับปรุงกฎหมายเพิ่มเพดานการออมจากปีละ 13,200 บาท เป็นสูงสุด 30,000 บาท และเพิ่มเงินสมทบจากรัฐจากไม่เกิน 1,200 บาท เป็น 1,800 บาทต่อปี เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนออมได้มากขึ้นและได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นทำให้ปัจจุบัน กอช. มีสมาชิกกว่า 2.7 ล้านคน และมีทรัพย์สินกองทุนรวมกว่า 15,152 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568)

“กอช. ยังขยายโครงการสร้างวินัยการออมให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย อาทิ นักเรียน นิสิต นักศึกษา ผ่านความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการและมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ตลอดจนขยายเครือข่ายการออมสู่แรงงานนอกระบบ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มเปราะบาง และผู้ต้องขังในโครงการ “สร้างชีวิตใหม่” เพื่อให้คนไทยทุกกลุ่มเข้าถึงโอกาสการออมอย่างแท้จริง และยังได้ขับเคลื่อนงานผ่านกระทรวงมหาดไทย ที่ว่าการอำเภอ และสำนักงานคลังจังหวัดทั่วประเทศ และยังสร้างตัวแทน กอช. ประจำหมู่บ้าน ได้ครอบคลุมทั่วประเทศ

นอกจากนี้ เรายังได้ขยายช่องทางการรับสมัครและส่งเงินออม ผ่านธนาคารกรุงไทย, ออมสิน, ธอส., ธกส., ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และเคาน์เตอร์เซอร์วิส เดินหน้ายกระดับการให้บริการ เพิ่มช่องทางการออมที่สะดวก รวดเร็ว เพื่อให้เข้าถึงประชาชนทุกคน โดยสามารถสมัครสมาชิกและส่งเงินออมผ่านแอปพลิเคชัน “กอช.” และพันธมิตรดิจิทัลชั้นนำอย่าง ทรูมันนี่, MyAIS และ ShopeePay ตอบโจทย์วิถีชีวิตยุคใหม่ที่ทุกการออมทำได้แค่ปลายนิ้วสัมผัส” นางสาวจารุลักษณ์ กล่าว
สำหรับในวาระครบรอบ 10 ปีนี้ นางสาวจารุลักษณ์ กล่าวว่า กอช. ยังเปิดตัว “สลาก กอช.” หรือ “หวยเกษียณ” ซึ่งเป็นนวัตกรรมการออมรูปแบบใหม่ โดยรัฐบาลมุ่งหวังให้ “หวยเกษียณ” เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการขยายโอกาสการออมให้กับคนไทยทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม กอช. จะเดินหน้ายกระดับบริการต่อเนื่อง เพื่อสร้างระบบการออมที่ยั่งยืนและครอบคลุมทุกกลุ่มประชาชน สร้างอนาคตที่มั่นคงให้คนไทย ก้าวข้ามความเสี่ยงของสังคมสูงวัยอย่างมั่นใจ

ขณะที่ ดร.วโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวถึงการเข้าสู่สังคมสูงวัยและความมั่นคงทางรายได้หลังเกษียณของประเทศไทยว่า จากข้อมูลของธนาคารโลก ระบุว่า รายได้หลังเกษียณที่เพียงพอควรอยู่ที่อย่างน้อย 50–60% ของรายได้ก่อนเกษียณ
แต่แรงงานในระบบของไทยมีรายได้หลังเกษียณเฉลี่ยเพียง 41% ขณะที่แรงงานนอกระบบมีรายได้หลังเกษียณต่ำกว่า 5% และมีรายได้ไม่แน่นอน จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ภาครัฐต้องหามาตรการเพิ่มแรงจูงใจในการออม เพื่อสร้างความมั่นคงทางรายได้ในยามเกษียณให้กับประชาชนทุกกลุ่ม

“การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุจะส่งผลต่อโครงสร้างรายได้ รายจ่ายของภาครัฐ และอาจกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เนื่องจากการลดลงของสัดส่วนประชากรวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังที่สำคัญทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลลดลง

ขณะที่รัฐต้องใช้งบประมาณในการดูแลสวัสดิการด้านบำเหน็จบำนาญผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ทั้งเบี้ยยังชีพ เบี้ยหวัด บำเหน็จบำนาญ และเงินสมทบกองทุนการออมเพื่อการเกษียณต่างๆ โดยในปี 2567 ภาครัฐใช้งบประมาณด้านสวัสดิการบำเหน็จบำนาญผู้สูงอายุรวม 500.7 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจากปี 2557 ที่ใช้งบประมาณ 253.4 ล้านบาท หรือประมาณ 10% ของงบประมาณ” ดร.วโรทัย กล่าว

ดร.วโรทัย กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการคลังในระยะยาว ภาครัฐจึงสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการออมเงินด้วยตนเองผ่าน “หวยเกษียณ” ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นคงด้านรายได้หลังเกษียณ และลดภาระงบประมาณของรัฐ โดยโครงการหวยเกษียณ ใช้งบประมาณเงินรางวัลปีละ 780 ล้านบาท จะช่วยเพิ่มเงินออมเพื่อการเกษียณให้กับประเทศปีละ 13,000 ล้านบาท หรือทุก 1 ล้านบาทที่รัฐใช้เป็นเงินรางวัล จะช่วยเพิ่มเงินออมเพื่อการเกษียณได้ถึง 16.6 ล้านบาท

โดยเงินจำนวนนี้จะไม่เพียงแต่อยู่ในบัญชีเงินออม แต่จะถูกนำไปลงทุนต่อในตลาดทุน ทำให้มีเงินไหลเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทำให้มีเงินหมุนเวียนในภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการลงทุนใหม่ๆ ในประเทศ นำไปสู่การจ้างงาน และการกระจายรายได้สู่ประชาชน สุดท้ายแล้วไม่เพียงแต่ประชาชนได้ประโยชน์จากเงินออมของตัวเอง แต่ประเทศก็จะได้ประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืนไปพร้อมกัน

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “เผ่าภูมิ” เตรียมชงกฎหมาย “หวยเกษียณ” เข้าสภาฯ 23 ก.ค.นี้

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ประชาชาติธุรกิจ

ไฟเขียว “ดาวเทียมต่างชาติ” เขย่า ‘ไทยคม’ ?

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สมาคมค้าปลีกชี้ทางรอดเศรษฐกิจ ปั้นสวรรค์นักช็อป-ยกเพดานช้อปดีมีคืน

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รพ.พระราม 9 ทุ่ม 700 ล้านเร่งเครื่องดันรายได้โตตามเป้า

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ครึ่งแรกปี'68 กองถ่ายต่างชาติเข้าไทย สร้างรายได้ 2.8 พันล้านบาท

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

วิดีโอ

วันเกิดปีนี้ หนุ่ม กรรชัย โผล่วัดโพธิ์! แฟนๆ จับตาไม่ธรรมดา แค่ทำบุญหรือมีอะไรซ่อนอยู่?

BRIGHTTV.CO.TH

งูบุกรุก! พบเห็นโทร.1677 อาสาร่วมด้วยช่วยกันพร้อมช่วยเหลือ

INN News

รวบ 2 มือปืน ยิงอริดับคาสนามฟุตบอลหญ้าเทียม หนีกบดานบุรีรัมย์ สารภาพโดนท้าทาย

Khaosod

แจ้งจับอดีตรอง ผบ.ตร. สวมจีวรบุกอาคารขโมยสมุดเช็ค เอกสาร 2 บ.ดังย่านสีลม

Manager Online

'ทักษิณ' มั่นใจพระดีมีอยู่ 99% ขอคนไทยยังคงศรัทธาพระพุทธศาสนา

ฐานเศรษฐกิจ

คณะกรรมการซอฟต์เพาเวอร์มวยไทย จับมือมูลนิธิรวมพลคนสมุย เยี่ยมค่ายมวยในเรือนจำสมุย พร้อมมอบ “รถโมบายฟิตเนส” สนับสนุนโอกาสสร้างอาชีพผู้ต้องขัง

สำนักข่าวไทย Online
วิดีโอ

ผบ.ทบ.กำชับดูแลกำลังพลได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดอย่างดีที่สุด เผยผลพิสูจน์ชัดเป็นทุ่นระเบิดใหม่

สวพ.FM91

มทภ.2 ยัน ปมทุ่นระเบิดตอบโต้ได้ทันที ถือเป็นยุทธวิธี ไม่ต้องรอรัฐบาล

PPTV HD 36

ข่าวและบทความยอดนิยม

ทักษิณ พร้อม รมต.ทำบุญวัดบ้านไร่ เททองหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อคูณ

ประชาชาติธุรกิจ

สิ่งที่ต้องรู้ นักท่องเที่ยวไปสหรัฐอาจต้องจ่ายค่าธรรมเนียมมากกว่า 8 พันบาท

ประชาชาติธุรกิจ

‘ซีพีเอฟ’ สปีดธุรกิจร้านอาหาร เสิร์ฟ ‘ซูชิสด’ ในเซเว่น-แม็คโคร-โลตัส

ประชาชาติธุรกิจ
ดูเพิ่ม
Loading...