"พระนิทัศน์" มั่นใจมีข้อมูลเอาผิดเจ้าอาวาส ท้าหาก "เงิน-ทอง" หายจริงจะยอมสึก
"พระนิทัศน์" ท้าหาก "เงิน-ทองคำ" เจ้าอาวาสวัดม่วงหายจริง จะยอมสึกกลับบ้าน จ่อเข้าให้ข้อมูล"บิ๊กเต่า" มั่นใจมีข้อมูลเอาผิดดิ้นไม่หลุด
วันที่ 5 ก.ค. 2568 พระนิทัศน์ ประเสริฐ อดีตพระคนสนิทเจ้าอาวาสวัดม่วง เผยว่า การที่ตนออกมาวิจารณ์เจ้าอาวาสเรื่องนี้ ไม่เคยรู้สึกกังวลว่าจะถูกขับไล่ให้พ้นวัด ตนบวชมา 25 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ตนถูกเจ้าอาวาสวัดม่วงคัดชื่อออกจากวัด ถ้ากังวลก็คงหนีไปตั้งแต่ 5 ปีแรกแล้ว ก็อยู่มาเพื่อรอวันนี้ที่จะได้ออกพูด
หลังจากที่ตนออกมาพูดเรื่องเจ้าอาวาส ก็มีพระรูปอื่นที่อยากออกมาพูดโทรมาพูดคุย เพราะเห็นว่าตนกล้าออกมาพูดความจริง ภายในอาทิตย์หน้านี้ ตนจะต้องเข้าไปให้ข้อมูลกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ที่ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)
ส่วนข้อมูลที่จะนำไปทางเจ้าหน้าที่ บก.ปปป. ยังไม่ขอเปิดเผย แต่ยืนยันว่าเอาผิดเจ้าอาวาสได้และดิ้นไม่หลุด ซึ่งพระนิทัศน์อ้างว่าก่อนหน้านี้หลายปีก่อน เคยมีตำรวจกองปราบมาล้อมจับเจ้าอาวาสที่กุฏิ เรื่องคดีรับซื้อของโจร โดยเจ้าหน้าที่สืบสวนจนตามมาจับถึงวัด แต่เรื่องอายุความไม่ทราบว่าหมดไปแล้วหรือไม่ แต่ทางสงฆ์ถือว่ารับไม่ได้ แต่ยังมีการเข้าไปรับตำแหน่งนั้นมองว่าไม่ถูกต้อง
ส่วนเรื่องทองคำและเงินที่หาย ตนมองว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าเป็นโจรจริงต้องทิ้งร่องรอย แต่นี่กลับไม่พบร่องรอยงัดแงะ หรือเจ้าอาวาสอาจจะเอาไปใช้เองแล้วลืมก็เป็นได้ หรือไม่ก็แกล้งลืม พระนิทัศน์ กล่าว
เมื่อถามว่า หากทองกับเงินหายไปจริง พระนิทัศน์สงสัยใครหรือไม่ พระนิทัศน์ กล่าวว่า ไม่มีทาง ให้โจรมาเป็นกองทัพก็เอาไปไม่ได้ ถ้าถูกขโมยจริงก็ไปเอาหลักฐานมา ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิดมีการนำกระดาษมาปิด ที่เจ้าอาวาสอ้างว่าไปต่างประเทศ แต่ช่วง 4-5 ปีหลังตัวเจ้าอาวาสไม่ได้เดินทางไปไหนเลย แต่เมื่อหากไปต่างประเทศจริง ทำไมถึงไม่เอากระดาษออกจากกล้องวงจรปิด เวลาจะนอนก็ค่อยปิด แต่กลับอ้างว่ากลัวผ้าหลุด
ตนกับเจ้าอาวาสไม่มีข้อผูกมัดหรือบุญคุณต่อกัน เพราะเจ้าอาวาสตัดชื่อตนออกจากวัดไปเมื่อ 20 ปีก่อน แต่กลับมาบ่นเรื่องตนไม่ยอมลงไปกิจของวัด ซึ่งตามกฎในการลงสวดพระปาฏิโมกข์ จะมีการเช็กชื่อพระทุกองค์ หากไม่มีชื่อก็ไม่สามารถร่วมสวดได้ หากตนเข้าไปสวดก็จะถูกไล่เหมือนหมา
ถามต่อว่า ทางเจ้าอาวาสต้องการให้วัดนี้เป็นวัดหลวงจริงหรือไม่ พระนิทัศน์ กล่าวว่า เขาทำทุกทางเพราะเขาอยากได้ตำแหน่ง จะได้ไม่ต้องไปไหว้ใคร ซึ่งถ้าเป็นพระแก่พรรษา แต่เจอพระรูปอื่นที่มีตำแหน่งสูงกว่าก็ต้องเข้าไปกราบ จึงพยายามทำให้ตัวเองมียศ ขณะที่เจ้าอาวาสชอบรถโบราณ และสะสมขอซื้อจากบ้านญาติโยม จำนวนหลายคัน และมีบางคันให้กับโทรทัศน์เช่าไปถ่ายหนัง
ส่วนกรณีตำรวจ สน.เพชรเกษม เรียกให้ นายศักดา เลิศฤทธิ์สมบูรณ์ ไวยาวัจกรวัดม่วง ไปสอบปากคำเพิ่มเติมเมื่อคืนที่ผ่านมานั้น พระนิทัศน์ กล่าวว่า นายศักดา ไวยาวัจกร เป็นลูกน้องของเจ้าอาวาส และเป็นลูกศิษย์เก่า รวมถึงภรรยาของนายศักดา เจ้าอาวาสก็เป็นคนหาให้ด้วย แต่นายศักดา ได้เป็นไวยาวัจกรเมื่อปีที่แล้ว
ทั้งนี้ หากเรื่องทองและเงินดังกล่าวหายไปจริง ตนก็พร้อมรับผิดชอบคำพูด โดยจะยอมลาสิกขา (สึก) กลับบ้านทันที และเตรียมซื้อชุดเสื้อผ้าไว้รอแล้ว
ขณะที่บริเวณกุฏิเจ้าอาวาสวัดม่วง พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม ได้เดินทางเข้าไปสอบปากคำ พระราชวัชรพัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดม่วง เพิ่มเติม โดยให้ข้อมูลว่า เป็นการสอบปากคำในส่วนประเด็นเฉพาะเรื่องคดีเงิน-ทองหาย ที่ สน.เพชรเกษม รับผิดชอบเท่านั้น รวมถึงตัวไวยาวัจกรก็มีการสอบปากคำไปแล้ว ซึ่งเป็นปกติหากมีประเด็นที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก็จะเรียกทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูลทั้งหมด
เมื่อถามว่า ทางเจ้าอาวาสมีความเครียดหรือไม่ พ.ต.อ.ปราโมทย์ กล่าวว่า เจ้าอาวาสมีอาการเครียดหลังเกิดเรื่อง เพราะเงิน-ทองหายไป โดยเจ้าอาวาสขอความร่วมมือสื่อมวลชนออกจากพื้นที่กุฏิ หากไม่ออกก็จะไม่ยอมให้การกับเจ้าหน้าที่ด้วย ทั้งนี้ยืนยันว่าจะทำคดีให้ดีที่สุดอย่างเต็มที่.
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : "พระนิทัศน์" มั่นใจมีข้อมูลเอาผิดเจ้าอาวาส ท้าหาก "เงิน-ทอง" หายจริงจะยอมสึก
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
- "พระนิทัศน์" ยืนยันไม่ได้ใส่ร้าย "เจ้าอาวาสวัดม่วง" หวังให้คนตาสว่างไม่ถูกหลอก
- พระคนสนิท แฉเจ้าอาวาสวัดม่วง เชื่อ 10 ล้านไม่ได้หาย ยันจะอยู่วัดต่อ
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath