จำได้ไหม? "แพร ชนันท์ภัสส์" จากนางเอกดาวรุ่งสู่เส้นทาง "ร่างทรง"
จากบทบาทนางเอกสุดฮอต สู่เส้นทางสายมูแบบเต็มตัว! หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า ‘แพร วรภร’ หรือ ‘ธิธาดา เลิศเกียรติไพบูลย์’ ที่ปัจจุบันเธอเปลี่ยนชื่อเป็น ‘ชนันท์ภัสส์’ ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น "ชนันท์ภัสส์" อดีตนางเอกคู่ขวัญ "กัญจน์ ภักดีวิจิตร" จากละครดัง "อังกอร์ 2" ที่เคยสร้างตำนาน "คู่จิ้นปิ้งไก่" ไว้ในใจแฟนๆ ตอนนี้เธอได้หายหน้าไปจากวงการบันเทิงอย่างสิ้นเชิง!
เมื่อค้นลึกลงไปถึงชีวิตปัจจุบันของเธอ กลับพบว่าสาวแพรได้ผันตัวเองไปสู่เส้นทางที่หลายคนคาดไม่ถึง! หลังจากการคบหาดูใจกับ "ตั้ม วิชญะ จารุจินดา" ในอดีต ปัจจบันเธอได้ทิ้งงานแสดงละครไว้เบื้องหลัง และหันมาศึกษาหาความรู้ด้าน การเป็นร่างทรง, การถอนคุณไสย, พิธีกรรมสักยันต์ รวมถึง การดูดวง อย่างจริงจัง!
จุดเริ่มต้นของ "ซิกซ์เซนส์" และแรงศรัทธาจากครอบครัว
อาจารย์แพร เผยว่า การตัดสินใจก้าวเข้าสู่สายนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่เป็นเพราะความศรัทธาในเรื่องสิ่งลี้ลับและเรื่องเหนือธรรมชาติที่มีมาตั้งแต่เด็ก ครอบครัวของเธอก็มีความเชื่อในเรื่องนี้อยู่แล้ว อีกทั้งตัวเธอเองก็มี "ซิกซ์เซนส์" ในระดับหนึ่ง และเชื่อในการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาโดยตลอด นอกจากนี้ เธอยังผ่านการ "ครอบครู" และ "ไหว้ครู" มาตั้งแต่ก่อนจะเข้าสู่วงการบันเทิงเสียอีก
จากประสบการณ์โดน "ของ" สู่การค้นหาเส้นทางธรรม
จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของอาจารย์แพร เกิดขึ้นในช่วงวัยรุ่น เมื่อเธอไปทำงานที่ต่างจังหวัดและกลับประสบเรื่องราวแปลกๆ ที่ไม่สามารถอธิบายได้ เช่น "โดนทำของ" หรือเจอสิ่งไม่ดีต่างๆ ทำให้เธอเริ่มหันหน้าเข้าหาธรรมะด้วยการ สวดมนต์ และ นั่งสมาธิ อย่างจริงจัง จากนั้น มีผู้แนะนำให้เธอไป "ปฏิบัติธรรม" ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้อาจารย์แพรได้สั่งสมความรู้และประสบการณ์ด้านนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เธอเริ่มศึกษาเรื่อง การดูดวง ทั้ง ไพ่ป๊อก และ ไพ่ยิปซี โดยได้เรียนรู้จากอาจารย์ที่เคยดูดวงให้เธอมาก่อน
สู่การเป็น "ร่างทรง" และนาม "ศิลาศรมเทพประทานพร"
ความสนใจของเธอไม่ได้หยุดอยู่แค่การดูดวง แต่อาจารย์แพรยังเริ่มศึกษาเรื่อง "ยันต์" และต่อยอดไปจนถึงการสร้างสรรค์ยันต์ในแบบฉบับของตนเอง กระทั่งวันหนึ่ง โอกาสก็พาให้เธอได้พบกับ "ปู่ฤาษีเนตรอัคคีมุนีเทวา" และได้รับความเมตตาให้เป็นลูกศิษย์ ซึ่งท่านได้ถ่ายทอดความรู้มากมาย และเป็นผู้ตั้งชื่อ "ศิลาศรมเทพประทานพร" ให้กับเธอ อาจารย์แพรมั่นใจว่า การเลือกทางเดินนี้ไม่ได้เกิดจากความงมงาย หรือหลงตัวเอง แต่เป็นผลจากการ เรียนรู้และสั่งสมประสบการณ์ มาอย่างยาวนาน และเธอพร้อมที่จะก้าวเดินบนเส้นทางใหม่นี้อย่างเต็มตัว