นายกเหล่ากาชาดบุรีรัมย์นำเจ้าหน้าที่เยียวยาจิตใจผู้อพยพเน้นเด็กเล็กที่ผู้ปกครองยังอยู่ในความเครียดได้ผ่อนคลาย
นายกเหล่ากาชาดบุรีรัมย์นำเจ้าหน้าที่เข้าไปเยียวยาจิตใจผู้อพยพเพื่อให้กำลังใจชาวบ้านเน้นเด็กเล็กที่ผู้ปกครองซึ่งยังอยู่ในความเครียดได้ผ่อนคลายหลังจากดีใจได้ไม่กี่ชั่วโมงว่าจะมีการหยุดยิงแต่กลับมาได้ข่าวไม่แน่นอนว่าจะหยุดจริงหรือไม่
วันที่ 29 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ภายหลังจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี นำคณะผู้แทนรัฐบาลไทย เข้าร่วมการประชุมหารือแนวทางสันติภาพในภูมิภาค เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ร่วมกับฝ่ายกัมพูชา ที่นำโดย นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ตามคำเชิญจาก นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในเมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย ทั้ง 2 ฝ่าย เห็นพ้องร่วมกันยุติการยิง มีผลในเวลา 24.00 น.ของวันนี้ (28 ก.ค.)
ข่าวดังกล่าวได้เปิดเผยเมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 ก.ค.สร้างความตื่นเต้นและดีใจให้กับประชาชนที่มาอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวในจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีมากกว่า 10,000 คน เป็นอย่างมาก ถึงแม้ส่วนหนึ่งจะไม่มั่นใจว่าจะเกิดขึ้นจริงแค่ไหนเพราะไม่เชื่อว่าฝั่งเขมรจะทำตามสัญญาได้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา จนกระทั่งตอนเช้าของวันที่ 29 ก.ค.กลับมีกระแสข่าวสะพัดออกมาอีกว่า แต่ละจุดยังมีการยิงปะทะกันอยู่ สร้างความสลดใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก เพราะทิ้งบ้านเรือนมานาน 5 วัน หวังจะกลับไปดูบ้าน ดูสัตว์เลี้ยงที่ปล่อยทิ้งไว้ ทำให้บรรยากาศที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว เต็มไปด้วยความเหงา
ล่าสุดเภสัชกรหญิง ณัฐรดา ปิจนำ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยคณะกรรมการเหล่ากาชาด นายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เดินทางไปเยี่ยม และร่วมทำกิจกรรมร่วมกับเด็กๆที่ติดตามผู้ปกครองเข้าไปพักอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมี สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบุรีรัมย์ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดบุรีรัมย์ จัดเจ้าหน้าที่ ไปชวนเหล่าบรรดาเด็กๆทำกิจกรรมการเรียนรู้ วาดภาพระบายสี ห้องสมุดเคลื่อนที่ตลอดทั้งกิจกรรมสันทนาการ ลดอาการเครียด หวาดกลัว หวาดผวากับเหตุการณ์ประทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มีกระสุนปืนใหญ่ตกมาในพื้นที่บ้านเรือนประชาชน พื้นที่ อ.บ้านกรวด อ.ละหานทราย อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ส่งผลให้ประชาชนต้องอพยพย้ายหนีออกจากบ้านอย่างโกลาหลไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว โดยเฉพาะศูนย์พักพิงสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิตจังหวัดบุรีรัมย์ แห่งนี้มีผู้อพยพเข้าไปอยู่กว่า 15,000 คน มีเด็กอายุ 0-18 ปี อาศัยอยู่ในศูนย์ ประมาณ 3,000 คน
โดย เภสัชกรหญิง ณัฐรดา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ในการดูแลช่วยเหลือผู้อพยพ ได้จัดหาเครื่องอุปโภค บริโภค เวชภัณฑ์ นมสำหรับเด็กอ่อน ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ตลอดทั้งสิ่งของที่ใช้จำเป็นมอบช่วยให้ผู้ที่อพยพ จัดหาเตียงผู้ป่วยให้กับศูนย์พักพิงโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ตลอดทั้งงานรับบริจาคโลหิตสำรอง ส่วนในเรื่องของเด็กและเยาวชนที่ขาดโอกาสในการเรียนหนังสือ หรือ ปิดโรงเรียน ก็ดูแลเรื่องสันทนาการ ทำกิจกรรมผ่อนคลาย เพื่อไม่ให้ผู้ปกครองเด็กที่มีความทุกข์ทั้งบ้านเรือนและบุตรหลาน ทางเราต้องการลดอาการเครียด ซึมเศร้า หรือหวาดผวา ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดบุรีรัมย์ และหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อบรรเทาเรื่องจิตใจของผู้อพยพให้ดีขึ้น