เกาะติดพลังงานใกล้ชิดน้ำมัน-ก๊าซฯ สำรองเพียงพอ
นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยถึงสถานการณ์พลังงานของประเทศว่า กรมฯติดตามทุกเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผลกระทบจากสงครามอิหร่าน-อิสราเอล หากมีการปิดช่องแคบฮอร์มุซ จะมีผลต่อการขนส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) ซึ่งขณะนี้ถือว่าสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลงบ้าง
สำหรับมาตรการที่กรมฯได้เตรียมไว้ ยืนยันว่าไทยมีปริมาณสำรองพลังงานไว้ใช้ 60 วัน แยกเป็นการสำรองน้ำมันตามกฎหมาย 25 วัน รวมกับการสำรองส่วนเกิน Working Stock อีก 14 วัน ที่เหลืออยู่ระหว่างการขนส่งน้ำมันจากฮอร์มุซมาไทย 21 วัน รวมทั้งหมด 60 วัน ส่วนการจัดหา LNG จากการ์ตา ปกติจะนำเข้ามา 1-2 ลำ/เดือนหรือประมาณ 1.4 แสนตัน ก็มีปริมาณเพียงพอ
สำหรับกรณีปมความขัดแย้งไทย-กัมพูชา โดยปกติมีการส่งอกน้ำมันและก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) รวมวันละ 6 ล้านลิตร ซึ่งถ้าเทียบกับปริมาณการใช้น้ำมันของไทยวันละ 160-170 ล้านลิตร คิดเป็นอัตราเพียง 5 % เท่านั้น
นอกจากนี้จากการสอบถามผู้ค้าน้ำมันอย่างบริษัทปตท.น้ำมันและการค้าปลีกจำกัด (มหาชน) หรือ OR ก็ยังมีการเปิดปั๊มน้ำมันในกัมพูชาตามปกติ เพียงแต่ไม่ได้รับซื้อน้ำมันจากไทย โดยจัดหาน้ำมันจากแหล่งอื่นๆแทน เช่น เวียดนามและสิงคโปร์
“ขณะนี้ทางกรมฯยังติดตามสถานการณ์พลังงานอย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมมาตรการไว้รองรับทุกเหตุการณ์ ซึ่งในเดือนก.ค.นี้จากการประเมินยังไม่มีอะไรน่ากังวล โดยในช่วง60 วัน ไทยมีน้ำมันและก๊าซฯใช้อย่างเพียงพอ แต่หากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาก็มีมาตรการรองรับทั้ง การรณรงค์ประหยัดพลังงาน Work from Home เป็นต้น”