ภัยแล้งคุกคาม “ฮังการี” พื้นที่เกษตรแทบไม่เหลือน้ำ โลกร้อนบีบเกษตรกรเลิกอาชีพตัวเอง
พื้นที่ทางตอนกลางไปจนถึงตอนใต้ของฮังการีเป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่สำคัญของประเทศ แต่ปัจจุบันกำลังประสบปัญหาภัยแล้งรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งผลผลิตทางการเกษตรและระดับน้ำใต้ดินลดต่ำลงจนเกือบเข้าขั้นวิกฤต ซึ่งเป็นผลจากวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อน เกษตรกรบางรายถึงกับวางแผนเลิกอาชีพและอาจบางส่วนอาจต้องย้ายถิ่นที่อยู่อาศัยเพื่อความอยู่รอดหากปัญหาภัยแล้งยังคนมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น
พื้นที่ราบที่มีแม่น้ำแม่น้ำติซอและแม่น้ำดานูบไหลผ่าน ถือเป็นแหล่งผลิตข้าวโพด ธัญพืช และเมล็ดทานตะวันสำคัญของประเทศ แต่ปัจจุบันเริ่มถูกคุกคามด้วยอุณหภูมิที่สูงขึ้นและฝนตกไม่เพียงพอ กรมอุตุนิยมวิทยาฮังการีเผยว่า ดินในพื้นที่ตอนกลางแห้งขั้นวิกฤตแม้ว่าจะมีฝนตกลงมาก็ตาม แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการเพาะปลูก แม้กระทั่งผลผลิตในช่วงฤดูร้อนก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
วิกฤตภัยแล้งไม่ได้คุกคามกับพืชผลทางการเกษตรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงฟาร์มผึ้งในพื้นที่ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยปกติแล้วเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งจะย้ายรังผึ้งกลับฟาร์มหลังสิ้นสุดฤดูผลิตน้ำผึ้งในช่วงเดือนกรกฎาคมเพื่อเตรียมพร้อมผึ้งให้พร้อมก่อนเข้าสู่ฤดูหนาวในช่วงปลายปี แต่สำหรับในปีนี้เกษตรกรบางรายต้องเร่งขนย้ายรังผึ้งกลางดึกไปไว้ในพื้นที่ที่อยู่ห่างจากเดิมกว่า 80 กิโลเมตร เพื่อให้ผึ้งสามารถหาเกสรดอกไม้ได้เพียงพอ เมื่อปี 2024 ฟาร์มแห่งหนึ่งสูญเสียจำนวนผึ้งมากถึง 30% เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดจนส่งผลต่อการผลิบานของดอกไม้ ผึ้งจำนวนมากขาดแคลนอาหารและล้มตายในที่สุด แม้ว่าในครอบครัวจะมีการสืบทอดกิจการฟาร์มผึ้งมาจากรุ่นสู่รุ่น แต่เกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งบางคนเริ่มมีความคิดที่จะขายฟาร์มทิ้ง และย้ายไปอยู่พื้นที่อื่นเพื่อหลีกหนีปัญหาภัยแล้งที่รุนแรงขึ้นทุกปี ขณะที่ฟาร์มปศุสัตว์หลายแห่งเริ่มลดจำนวนสัตว์ ทั้งวัวและแกะลงเนื่องจากประสบปัญหาขาดทุนและแบกรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว
ปัญหาภัยแล้งเนื่องจากวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อนที่รุนแรงขึ้นไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอีกต่อไป ข้อมูลจากทางการของฮังการีระบุว่า เพียงแค่ปี 2022 ภัยแล้งคุกคามภาคการเกษตรได้รับความเสียหายกว่า 2.86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รัฐบาลฮังการีได้เดินหน้าแก้ปัญหาด้วยโครงการทำความสะอาดแหล่งน้ำและคลองเพื่อกักเก็บน้ำในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม นี่อาจะเป็นเพียงแค่การแก้ปัญหาในระยะสั้น หากยังไม่มีการฟื้นฟูแหล่งน้ำและบริหารจัดการน้ำอย่างจริงจัง ภัยแล้งอาจขยายวงกว้างและส่งผลกระทบจนอาจไม่สามารถทำการเกษตรได้อีกต่อไปในอนาคตข้างหน้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง