โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ภูมิภาค

รองนายกฯ ประเสริฐ' ลงพื้นที่ 'สุโขทัย' ติดตามแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมใกล้ชิด สั้งการทุกหน่วยเร่งช่วยเหลือประชนชน - เร่งบริหารจัดการน้ำเชิงรุก

สวพ.FM91

อัพเดต 21 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 21 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รองนายกฯ ประเสริฐ' ลงพื้นที่ 'สุโขทัย' ติดตามแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมใกล้ชิด สั้งการทุกหน่วยเร่งช่วยเหลือประชนชน - เร่งบริหารจัดการน้ำเชิงรุก กำชับเตรียมพร้อมรับฝนระลอกใหม่ช่วงปลาย 'ส.ค. – ต.ค.' ยกระดับระบบการแจ้งเตือนภัยและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลทั่วถึงและทันเวลา

วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่อุทกภัยจังหวัดสุโขทัย โดยมี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) , นายสมรักษ์ ยกน้อยวงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย พร้อมด้วยผู้แทนจังหวัดแพร่ , ผู้แทนจังหวัดน่าน , ผู้แทนจังหวัดอุตรดิตถ์ ,ผู้แทนจังหวัดพิษณุโลก , ผู้แทนจังหวัดพิจิตร และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมสรุปสถานการณ์และแผนการแก้ไขปัญหาในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำยม-น่าน ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัย ตำบลบ้านกล้วย อำเภอเมืองสุโขทัย

โดยหลังการประชุม นายประเสริฐ และคณะได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาและเยี่ยมให้กำลังใจพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ณ ศาลเจ้าปุงเถ่ากุง-ม่า ตำบลปากแคว อำเภอเมืองสุโขทัย และบริเวณคลองตาเป้า หมู่ 3 ตำบลบ้านนา อำเภอศรีสำโรง พร้อมมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จากนั้นได้เดินทางไปติดตามการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำยม-น่าน ณ ประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ และประตูระบายน้ำคลองหกบาท อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย เพื่อรับฟังแผนการระบายน้ำและการผันน้ำระหว่างลุ่มน้ำ พร้อมเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ และสื่อสารแจ้งเตือนประชาชนอย่างทันเหตุการณ์

นายประเสริฐ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับผลกระทบจากพายุวิภา ซึ่งได้อ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชัน และต่อมาได้กลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณตอนบนของประเทศ ส่งผลให้หลายพื้นที่โดยเฉพาะในจังหวัดภาคเหนือตอนบนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ ทั้งนี้ พื้นที่ลุ่มน้ำยม-ลุ่มน้ำน่าน ได้รับผลกระทบ อย่างมาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ต้องรับน้ำจากพื้นที่ตอนบน ประกอบกับปัจจุบันยังไม่มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่รองรับ ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัยในพื้นที่เปราะบางของลุ่มน้ำยม รองนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงกลางฤดูฝน ซึ่งยังคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดฝนตกหนักและอุทกภัยเพิ่มขึ้นอีก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกหน่วยงานต้องเตรียมการรองรับสถานการณ์ให้เข้มข้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง เพื่อป้องกันและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่

"การลงพื้นที่วันนี้ก็เพื่อติดตามสถานการณ์ รับฟังข้อมูล และร่วมวางแผนเชิงรุกกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำยมและลุ่มน้ำน่านเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นที่น่าชื่นชมว่าทุกจังหวัดและหน่วยงานได้มีการเตรียมการรับมือไว้ล่วงหน้าเป็นอย่างดี เช่น การดำเนินการตามมาตรการรับมือฤดูฝนปี 2568 การตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำยม-น่าน การดำเนินการซักซ้อมและการเผชิญเหตุในระดับต่างๆ รวมถึงการแจ้งเตือนภัยผ่านระบบ Cell Broadcast" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี กล่าว

นายประเสริฐ กล่าวว่า ในช่วงเดือนสิงหาคม – ตุลาคมนี้ มีการคาดการณ์ว่าปริมาณฝนในหลายพื้นที่อาจสูงกว่าค่าเฉลี่ย ซึ่งมีโอกาสที่พื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางตอนล่างจะเกิดอุทกภัย น้ำหลาก และดินถล่มได้ จึงขอให้ทุกหน่วยบูรณาการงานกัน และเร่งดำเนินการมาตรการเชิงรุก เพื่อลดความเสี่ยงและความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยได้มอบหมายหน่วยงาน ดังนี้ ให้ สทนช. ร่วมกับ กรมชลประทาน (ชป.) และ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) บูรณาการการระบายน้ำจาก เขื่อนสิริกิติ์ และ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดนผ่านกลไกศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำยม-น่าน โดยให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำน้อยที่สุด และต้องคำนึงถึงความมั่นคงปลอดภัยของเขื่อน และให้มีปริมาณน้ำสำรองเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคและภาคการเกษตรในฤดูแล้งที่จะมาถึงด้วย และให้ ชป. เร่งระบายน้ำจากแม่น้ำยมไปสู่แม่น้ำน่าน พร้อมทั้งดำเนินการเสริมคันป้องกันน้ำชั่วคราวในจุดที่มีความเปราะบาง และติดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่ง สำหรับกรณีที่เครื่องสูบน้ำที่มีอยู่ไม่เพียงพอขอให้ประสานความร่วมมือกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และกรมทรัพยากรน้ำ เพื่อจัดสรรเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมให้เพียงพอต่อความจำเป็น

พร้อมทั้งมอบหมายให้ ชป. ร่วมกับจังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดพิษณุโลก และ จังหวัดสุโขทัย เตรียมความพร้อมการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่บางระกำโมเดล สำหรับใช้รับน้ำหลากจากช่วงกลางเดือนสิงหาคมจนถึงช่วงปลายเดือนตุลาคม 2568 โดยต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบอย่างต่อเนื่อง และให้ ปภ. ร่วมกับ จังหวัดในพื้นที่ลุ่มน้ำยมและลุ่มน้ำน่าน จัดทำแผนเผชิญเหตุ เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องมือ และระบบการช่วยเหลือฉุกเฉิน ให้สามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที และในกรณีที่ต้องมีการอพยพ ขอให้มีการจัดเตรียม ศูนย์พักพิงชั่วคราว ที่มีความพร้อมทั้งด้านสาธารณูปโภค อาหารและหน่วยแพทย์ ให้พร้อมในการดูแลผู้ประสบภัย

"สำหรับการแจ้งเตือนภัยนั้นขอให้จังหวัดในพื้นที่ลุ่มน้ำยมและลุ่มน้ำน่าน ร่วมกับกรมประชาสัมพันธ์ และ ปภ. ใช้ระบบการแจ้งเตือนภัยผ่านระบบ Cell Broadcast (CB) ควบคู่กับช่องทางอื่น ๆ ทุกช่องทางที่มีของภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และทันต่อสถานการณ์ จึงขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในความตั้งใจของรัฐบาล ที่มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างยิ่ง และมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการป้องกันและลดผลกระทบให้ได้มากที่สุด" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี กล่าวย้ำ

ด้าน ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำยม มีจำนวนแหล่งน้ำทั้งหมด 3,859 แห่ง ความจุรวม 533.03 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีปริมาตรน้ำรวม 317.65 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 60% ของความจุเก็บกัก ขณะที่ลุ่มน้ำน่าน มีจำนวนแหล่งน้ำทั้งหมด 4,337 แห่ง ความจุรวม 10,809.33 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีปริมาตรน้ำรวม 7,814.26 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น72% ของความจุเก็บกัก

ในภาพรวมยังคงมีพื้นที่รองรับปริมาณฝนที่จะตกมาได้อีก สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำยม-น่าน พบว่า จังหวัดน่านได้รับผลกระทบจากฝนตกสะสมสูงสุด มวลน้ำจากพื้นที่ตอนบนของจังหวัดน่านมีแนวโน้มจะไหลลงสู่เขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งเป็นเขื่อนหลักในการรองรับน้ำของลุ่มน้ำน่าน และมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการระบายลงสู่แม่น้ำน่านตอนล่างและลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยคาดว่าหากไม่มีฝนตกซ้ำในปริมาณมาก พื้นที่ประสบภัยในจังหวัดน่านจะสามารถกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ภายในสัปดาห์หน้า ขณะที่ ลุ่มน้ำยม จังหวัดแพร่ และสุโขทัยเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากมวลน้ำตอนบน ขณะนี้สถานการณ์โดยรวมเริ่มคลี่คลาย โดยระดับน้ำในแม่น้ำยมลดลงต่อเนื่อง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่เกษตร อย่างไรก็ตาม จังหวัดสุโขทัยยังมีแนวโน้มระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นในบางจุด ซึ่งได้มีการควบคุมมวลน้ำจากภาคเหนือลงสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา

โดยขณะนี้อยู่ในช่วงปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ และควบคุมระดับน้ำเหนือเขื่อนนเรศวร เพื่อเร่งระบายน้ำจากแม่น้ำยมเข้าสู่แม่น้ำน่าน และควบคุมระดับน้ำไม่ให้ล้นตลิ่งในตัวเมืองสุโขทัย รวมทั้งเสริมแนวป้องกันน้ำในเขตเศรษฐกิจและพื้นที่เสี่ยงซ้ำซาก และเปิดบานประตูระบายน้ำทุกจุดเต็มศักยภาพ รวมถึงการเตรียมพื้นที่รองรับน้ำใน พื้นที่ลุ่มต่ำ บางระกำโมเดล ที่สามารถหน่วงน้ำได้ถึง 400 ล้าน ลบ.ม. หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวแล้วเสร็จภายในกลางเดือนสิงหาคม เพื่อเตรียมรองรับปริมาณฝนหรือพายุที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอีกในช่วงปลายฤดูฝน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สวพ.FM91

งานยกป้ายจราจร ถนนรัตนาธิเบศร์ ฝั่งขาออก ก่อนถึงสะพานข้ามแแยกบางพลู ปิดการจราจร ในช่องทางหลัก

38 นาทีที่แล้ว

กระทรวงวัฒนธรรม ต้อนรับเยาวชนไทยคืนถิ่น โครงการดีๆ เปิดโอกาสเด็กไทยในต่างแดน หวนคืนความเป็นไทยช่วงปิดเทอม

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

พม.-พอช. จัดนิทรรศการและหมู่บ้านวัฒนธรรมชุมชน 5 ภาค หนุนพลังองค์กรชุมชนร่วมเปลี่ยนประเทศ ลดความเหลื่อมล้ำระยะยาว

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ลงพื้นที่แนวชายแดน มอบขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่-ส่งทีมแพทย์ “POLICE MERT” ดูแลประชาชน

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความภูมิภาคอื่นๆ

สำนักงานชลประทานที่ 3 ยกระดับความปลอดภัยเขื่อนตรวจรับและฝึกอบรมระบบตรวจวัดห้วยน้ำจวง

สยามรัฐ

รวบ 3 หนุ่มสาวไทย-ลาวขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติพร้อมยาบ้า 193,000 เม็ดลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน

สยามรัฐ

'ข้าวเม่าพอกเงินล้าน'วัดหาดมูลกระบือของอร่อยคู่งานแข่งเรือเมืองชาละวัน

สยามรัฐ

สำนักงานอัยการจังหวัดหัวหินเปิดห้องศูนย์อำนวยการคุ้มครองเด็กในคดีอาญา

สยามรัฐ

เยี่ยมครอบครัวจ่าหนุ่มคนอุดรโดนระเบิดรอดปาฏิหาริย์เชื่อปู่ศรีสุทโธ-หลวงพ่อสมพรห้อยคอ

สยามรัฐ

นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ลงพื้นที่แนวชายแดน มอบขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่-ส่งทีมแพทย์ “POLICE MERT” ดูแลประชาชน

สวพ.FM91

สชป.7 ลงพื้นที่นครพนม ตรวจแม่น้ำโขง–พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม พร้อมรับมือฤดูฝน 68

สยามรัฐ

บึงบอระเพ็ดพลิกโฉม! ต้นแบบจัดการน้ำ-นาข้าวรักษ์โลก แก้ขัดแย้งหน่วยงาน ปั้นชุมชนอยู่ร่วมป่าอย่างยั่งยืน

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...