ศาลไต่สวน แพทย์ รพ.ตร. คดีชั้น 14 ยันผ่าตัดเอง ชี้ ทักษิณ มีอาการแทรกซ้อน ต้องอยู่ รพ.ต่อ
ศาลไต่สวน กลุ่มแพทย์ รพ.ตร. คดีชั้น 14 ยันผ่าตัดเอง ระบุ ทักษิณ มีอาการแทรกซ้อน ต้องอยู่ รพ.ต่อ หลังจากนี้ไต่สวนแพทยสภา 25 ก.ค. ส่วนวันสุดท้ายเรียก วิษณุ เข้ามาเบิกความ
เมื่อวันที่ 18 ก.ค.68 ที่ศาลฎีกา ศาลนัดไต่สวนคดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568 กรณีตรวจสอบข้อเท็จจริงการบังคับโทษคดีถึงที่สุด นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 5 ก่อนหน้านี้ศาลนัดไต่สวน นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ กลุ่มแพทย์ประจำสถานพยาบาลราชทัณฑ์ 5 ปาก และกลุ่มพัศดีเวรประจำวัน เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ผู้บริหารกรมราชทัณฑ์
โดยวันนี้เป็นการไต่สวนกลุ่มแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจ จำนวน 6 ปากได้แก่ 1.พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วย ผบ.ตร. 2.พล.ต.ท.นพ.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ 3.พล.ต.ต.สามารถ ม่วงศิริ รองแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ 4.พล.ต.ต.ศุภฤกษ์ พัฒนปรีชากุล นายแพทย์ (สบ7) 5.พ.ต.อ.ชนะ จงโชคดี นายแพทย์ (สบ5) และ 6.พล.ต.ท.สุรพล เกษประยูร แพทย์ที่ปรึกษา
ช่วงเช้าศาลไต่สวนพยาน 3 ปาก เป็นอดีตแพทย์ใหญ่ของโรงพยาบาลตำรวจ แพทย์ใหญ่ของโรงพยาบาลตำรวจคนปัจจุบัน และแพทย์ผู้รักษานายทักษิณ ที่เข้าเวรช่วงเที่ยงคืนวันที่ 23 ส.ค.2566
ต่อมาเวลา 13.30 น. ศาลเริ่มเบิกความพยานรายที่ 4 เป็นแพทย์ผู้ช่วยการผ่าตัดอาการบาดเจ็บของจำเลย และควบคุมดูแลการพักรักษาหลังการผ่าตัด โดยจำเลยได้รับบาดเจ็บเอ็นหัวไหล่ขวาขาด ระหว่างพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ
สอบถามเกี่ยวกับประเด็นใบรับรองของแพทย์ เนื่องจากตามหลักฐานที่ศาลมี พยานรายดังกล่าวเป็นผู้ลงชื่อกำกับใบรับรองแพทย์ของจำเลย ซึ่งพยานให้การต่อศาลยืนยันใน 2 ส่วนคือ ใบรับรองแพทย์เป็นการใส่รายละเอียดการป่วยโดยทั่วไปของจำเลยตามจริงเท่านั้น รวมทั้งไม่ทราบว่าใบรับรองแพทย์ดังกล่าวที่มีลายเซ็นตนเองนำไปใช้เพื่อการใด
พยานรายที่ 5 นายแพทย์อายุรกรรมเชี่ยวชาญด้านหัวใจ โรงพยาบาลตำรวจ เบิกความต่อศาลว่าทำการดูแล และให้คำปรึกษาจำเลยที่เกี่ยวข้องกับโรคประจำตัวเดิม ที่มีประวัติการรักษาจากต่างประเทศ และดูแลอาการเจ็บป่วยที่เป็นสาเหตุของการส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลตำรวจในวันที่ 23 ส.ค.2566 และให้คำปรึกษาอีกครั้งถึงความเสี่ยงระดับกลางของจำเลยที่อาจส่งผลต่อโรคประจำตัวในตอนที่เข้ารับการผ่าตัดอาการบาดเจ็บ พร้อมทั้งให้ความเห็นต่อศาลถึงความจำเป็นในการพักรักษาตัวต่อที่ร พ.ตำรวจ และให้ข้อสังเกตต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคของจำเลยต่อศาล
พยานรายที่ 6 เบิกความยืนยันว่าการตรวจรักษานายทักษิณ ตั้งแต่การผ่าตัดอาการบาดเจ็บเอง ซึ่งมีภาวะที่หากไม่มีอาการแทรกซ้อนก็จะส่งตัวกลับโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้หลังจาก 7 วัน แต่ตัวนายทักษิณ เป็นผู้มี่มีอาการแทรกซ้อน จึงมีเหตุต้องให้รักษาตัวต่อที่โรงพยาบาล นอกจากนี้พยานรายที่ 6 ได้ยื่นเอกสารการรักษาตัวของนายทักษิณ
โดยศาลมีคำสั่งเลื่อนไปไต่สวนพยานบุคคลต่อในวันที่ 25 ก.ค.ตามที่นัดไว้เดิม โดยเป็นการนำแพทย์จากแพทยสภา เข้ามาเบิกความ 3 ปาก และอนุญาตให้จำเลยนำศาสตราจารย์กิตติคุณ นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี เข้าไต่สวนในวันที่ 30 ก.ค.นี้
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ศาลไต่สวน แพทย์ รพ.ตร. คดีชั้น 14 ยันผ่าตัดเอง ชี้ ทักษิณ มีอาการแทรกซ้อน ต้องอยู่ รพ.ต่อ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th