เรื่องใหญ่ รพ.แจงแล้ว ปมสาวป่วยมะเร็ง เปิดบช.ได้เงินกว่า 1.6 ล้าน
ดูเหมือนกรณีการเปิดรับบริจาคของสาวรายหนึ่ง จะกลายเป็นดราม่าต่อเนื่องในโลกออนไลน์ หลังเจ้าตัวโพสต์เล่าว่าตนเองป่วยเป็นมะเร็งเต้านมระยะที่ 3 ต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อรักษา โดยต้องให้ยาเคมีบำบัดและยามุ่งเป้ารวม 18 เข็ม เข็มละ 30,000 บาท รวมกว่า 520,000 บาท ซึ่งอยู่นอกเหนือสิทธิประกันสังคม อีกทั้งยังต้องใช้ยากระตุ้นเม็ดเลือดขาวครั้งละ 7,000 บาท ซึ่งไม่สามารถเบิกได้เช่นกัน
แต่ไม่นานหลังจากนั้น กลับมีการร้องเรียนไปยังเพจดังว่า หญิงสาวรายนี้กำลังถูกดำเนินคดีหมิ่นประมาท และอาจต้องใช้เงินเพื่อประกันตัว จึงเกิดข้อกังขาว่าการเปิดรับบริจาคดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการรักษาจริงหรือไม่
ต่อมาเจ้าตัวได้โชว์ยอดเงินในบัญชีที่เปิดรับบริจาค พบว่าเพียง วันเดียวเงินพุ่งกว่า 1.6 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ภายหลังยอดกลับเหลือเพียง 5 แสนกว่าบาท ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเงินหายไปกว่า 1.1 ล้านบาท และถูกตั้งคำถามว่านำไปใช้เพื่อการรักษาจริงหรือไม่
และสาวคนดังกล่าวได้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมว่า ยอด 1.6 ล้านบาทนั้นเป็นยอดบริจาคจริง และได้ปิดการรับบริจาคเรียบร้อยแล้ว โดยได้โอนเงินไปยังบัญชีของแม่ เพื่อแบ่งจัดการเป็นค่ารักษาพยาบาลของตนเอง รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ยังคงมีอยู่ในอนาคต พร้อมทั้งได้นำเงินบางส่วนไปบริจาคต่อให้กับมูลนิธิเพื่อส่งต่อบุญกุศล
เธอเปิดเผยใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมยืนยันว่าเป็นผู้ป่วยมะเร็งจริง รักษาด้วยเงินตัวเองมาตั้งเเต่มกราคมเเล้ว โดยใช้สิทธิ์ประกันสังคมได้ในเคมมีบำบัดน้ำเเดงไปเเล้ว 4 เข็ม ผมจึงร่วง ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่รพ. เอกชนในช่วงการรักษาแรกๆ และตอนนี้ก็ยังรักษาตัวอยู่ระหว่างการให้น้ำขาว+ ยามุ่งเป้า เเละยังมีค่ารักษาอื่นๆอีกมากมายที่ต้องจ่ายเองใน รพ.เอกชน และตอนนี้ได้มีการโอนเงินคืนสำหรับคนขอคืนทุกคน มีประวัติการรักษาสามรถเช็คได้
ล่าสุด วันที่ 16 สิงหาคม 2568 โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าว โดยระบุว่า กรณีมีผู้ใช้ Facebook โพสต์ภาพและข้อความการรักษาตัวที่โรงพยาบาล และขอรับบริจาคเงิน ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ ข้อเท็จจริง เรื่องการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิที่ถูกต้อง จึงเรียนชี้เเจงดังนี้
จากกระแสในสื่อสังคมออนไลน์ที่มีลักษณะของผู้ที่อ้างถึงว่าเป็นผู้ป่วยที่กำลังรักษาที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับมีการลงภาพถ่ายใบรับรองแพทย์ของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร และมีการขอรับบริจาคเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการรักษานั้น
ทางโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า ผู้ป่วยรายดังกล่าวได้เข้ารับการรักษา และได้รับยาตามแนวทางมาตรฐาน เป็นไปตามสิทธิการรักษาของผู้ป่วย โดยไม่ได้มีการเรียกเก็บค่ายา ค่ารักษา ที่เบิกได้ตามเกณฑ์ข้อบ่งชี้การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลของผู้ป่วยรายดังกล่าว
โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ขอยืนยันถึงความมุ่งมั่น ในการสร้างสังคมที่มีสุขภาพที่ดี การดูแลรักษาที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย และการปฏิบัติตามแนวทางของ การให้การรักษาตามสิทธิ์การรักษาที่พึงได้ในแต่ละสิทธิ์การรักษาของผู้ป่วยทุกท่าน