โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ตลาดหุ้นเวียดนามกับไทย...ใครเหนือกว่า!

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 22 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

*** แม้ความกังวลในเรื่องศักยภาพการแข่งขันของไทย เมื่อเทียบกับเวียดนาม จะลดน้อยลง ภายหลังสหรัฐอเมริกาประกาศอัตราภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ที่จะเรียกเก็บจากไทยในอัตรา 19% ที่ไทยได้เปรียบเวียดนามเพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับส่วนที่จะเรียกเก็บจากเวียดนามในอัตรา 20% แม้ไม่อาจชี้ชัดได้ว่า ภาษีศุลกากรฯ นี้จะช่วยให้ต้นทุนของสินค้าไทยต่ำกว่าสินค้าของเวียดนามหรือไม่ แต่อย่างน้อยที่สุดความกังวลที่ว่า ไทยกำลังถูกเวียดนามทิ้งห่างในทุกมิติทางเศรษฐกิจก็ลดน้อยลงตามไปด้วย

ว่าแต่ถ้าหากจับเอาตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศมาเปรียบเทียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของตลาดหุ้น จะพบว่า ทั้งตลาดหุ้นไทย และเวียดนาม ถือว่าสูสีกันพอสมควร!!!

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยซึ่งตั้งแต่ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2505 ปัจจุบันมีอายุ 50 ปี มีดัชนีหุ้นเคลื่อนไหวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 1250-1270 จุด มีบริษัทจดทะเบียนอยู่ในตลาดรวม 858 บริษัท แบ่งออกเป็น SET จำนวน 634 บริษัท และ MAI จำนวน 224 บริษัท และมีมูลค่าทางการตลาดรวมเท่ากับ 465 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีจำนวนนักลงทุนทุกประเภทบัญชี (ภายในประเทศและต่างชาติ) จำนวนประมาณ 6.5 ล้านบัญชี

ส่วนทางตลาดหุ้นเวียดนาม ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2548 ปัจจุบันมีอายุ 20 ปี มีดัชนีหุ้นเคลื่อนไหวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 1550-1580 จุด มีบริษัทจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ จำนวน 393 บริษัท และตลาดหลักทรัพย์ฮานอย 345 บริษัท มีมูลค่าทางการตลาดรวมเท่ากับ 300 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีจำนวนนักลงทุนทุกประเภทบัญชี (ภายในประเทศและต่างชาติ) จำนวนประมาณ 10 ล้านบัญชี

ทั้งนี้ จากข้อมูลจะพบว่า แม้ตลาดหุ้นเวียดนาม จะเป็นตลาดหุ้นที่เพิ่งเกิดขึ้นได้เพียง 20 ปี แม้ว่ามูลค่าทางการตลาดอาจน้อยกว่าตลาดหุ้นไทยอยู่บ้าง แต่ด้วยจำนวนบัญชีของนักลงทุนที่มีมากกว่าบัญชีของนักลงทุนไทยเกือบ 50% รวมไปถึงรัฐบาลที่มีเสถียรภาพมากกว่าเมื่อเทียบกับรัฐบาลของไทย จึงทำให้ในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมาดัชนีหุ้นเวียดนาม เคลื่อนที่ได้อย่างมีเสถียรภาพ จนสามารถก้าวแซงหน้าดัชนีหุ้นไทยซึ่งในช่วง 2 ปีนี้ปรับลงมาตลอด

อย่างไรก็ตาม เวียดนามดูเหมือนกำลังเผชิญปัญหา “สินเชื่อมาร์จินพุ่งสูง” คล้ายกับที่ไทยเจอมาเหมือหลายปีก่อน โดยในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา สินเชื่อมาร์จิน (Margin Loan) หรือการกู้เงินมาลงทุนในหุ้น พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.09 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งก็อาจทำให้เกิดปัญหาเช่นเดียวกันกับตลาดหุ้นไทยก็เป็นได้

ก็อย่างที่เจ๊เมาธ์บอกไปแล้วว่า โดยข้อมูลในเบื้องต้น จะพบว่า ทั้งตลาดหุ้นไทย และ เวียดนาม แม้จะมีทั้งจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างแต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่สูสี ขณะเดียวกัน แม้ว่าดัชนีหุ้นไทยอาจตามหลังอยู่บ้าง แต่ก็เป็นไปได้มากที่จะกลับไปอยู่ในจุดที่เท่าเทียม หรืออาจจะเหนือกว่าก็เป็นได้…หากไม่เกิดเหตุสุดวิสัยจนสะดุดขาตัวเองไปอีกรอบซะก่อน

เจ๊เมาธ์ก็ได้แต่หวังว่า คนรุ่นใหม่ผู้คุมกติกาหุ้นไทย (Regulators) รวมไปถึงว่า ที่ผู้ว่า ธปท.คนใหม่ จะทำได้มากกว่าที่ผ่านมา เจ๊เมาธ์ให้กำลังใจค่ะ

*** ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า นพ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ จะเป็น 1 ใน 3 ร่วมกับ น.ส.ปิยาพัชร และ น.ส.นาวินี อุดมรัตน์ ของรายชื่อบุคคลที่ถูกสำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวโทษในข้อหาใช้ข้อมูลภายในของกองทุนรวมไปดักซื้อขายหลักทรัพย์ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว และเข้าข่ายฟอกเงิน

ที่ไม่น่าแปลกใจก็คือ น.ส.ปิยาพัชร ซึ่งเป็นพนักงานของบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งนำข้อมูลคำสั่งซื้อขายของกองทุนไปเปิดเผยให้ นพ.วิสุทธิ์ ซึ่งใช้บัญชีส่วนตัวเข้าซื้อ หรือ ขายหุ้นล่วงหน้า ในขณะที่ น.ส.นาวินี มีส่วนเกี่ยวข้องในการรับโอนเงิน เพราะทั้งสองต่างก็ทำหน้าที่ในส่วนที่เป็นเรื่องของผลประโยชน์ส่วนตนแม้จะเข้าข่ายของการทุจริต…

แต่กรณีของนพ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ กลับแตกต่างออกไป…

อย่างแรก แม้ นพ.วิสุทธิ์ จะเคยเป็นศาสตราจารย์ด้านสูตินรีเวชแห่งคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นหนึ่งในแพทย์ผู้บุกเบิกการทำเด็กหลอดแก้วระดับแนวหน้าของเอเชีย มีทั้งชื่อเสียง และมีฐานะดี และมีหน้าตาในแวดวงวิชาการ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาแทบจะไม่เคยมีชื่อในแวดวงของนักลงทุนในตลาดหุ้นแต่อย่างใด

อย่างที่สอง คือ ชื่อของ นพ.วิสุทธิ์ ถูกสังคมจดจำในฐานะจำเลยคดีฆ่าหั่นศพ แพทย์หญิงผัสพร ภรรยา และถูกศาลตัดสินประหารชีวิตเมื่อปี 2544 จนถูกตัดสินประหารชีวิต ก่อนที่จะได้รับการลดหย่อน และพ้นโทษออกมาในปี 2557 ต่อมาบวชเป็นพระ ซึ่งในตอนนั้นเล่าลือว่าเป็นผู้ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด ให้ข้อคิดแก่ญาติโยม และเขียนหนังสือเกี่ยวกับการฝึกสมาธิฝึกจิต และแน่นอนว่าเป็นผู้ที่สังคมมมองว่าเป็น “ผู้สำนึกผิด” จากสิ่งที่เคยพลาดมา

ที่น่าสนใจคือ คดีนี้ ก.ล.ต.ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อ บก.ปอศ. และส่งเรื่องให้ ปปง. เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป โดยความผิดที่กล่าวหานั้นมีทั้งโทษจำคุก ปรับ และการยึดทรัพย์ที่ได้จากการกระทำความผิด ต้องติดตามดูสุดท้ายปลายทางคดีนี้จะเป็นเช่นไร นะเจ้าค่ะ

คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ โดย…เจ๊เมาธ์ ฐานเศรษฐกิจออนไลน์

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

Lamborghini Urus SE รับภาษีสรรพสามิตใหม่ ราคาลง 3.45 ล้านบาท

22 นาทีที่แล้ว

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้8ส.ค. “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย”ที่ระดับ 32.28 บาทต่อดอลลาร์

42 นาทีที่แล้ว

ชาวเน็ตไทยไม่แพ้ชาติใดโลก ครองแชมป์ TikTok เอเชีย โอกาส-โจทย์ท้าทายนักการตลาด

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทรัมป์เดินเกมหนัก โจมตีพลังงานลม-แสงอาทิตย์ กระทบโครงการทั่วสหรัฐฯ

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่นๆ

Morning Report 2025-08-08

StockRadars

MSCI ประกาศหุ้นเข้า - ออกรอบใหม่มีผล 26 ส.ค.นี้ พบ 2 หุ้น ถูกนำออกจากกลุ่ม Global Standard

efinanceThai

“ดาวโจนส์” ปิดลบ 224 จุด แรงถล่มขายหุ้น Eli Lilly ฉุดตลาด

ข่าวหุ้นธุรกิจ

สรุปข่าวต่างประเทศ ประจำวันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม 2568

efinanceThai

ราคาน้ำมันดิบจ่อร่วงลงหนักในสัปดาห์นี้ ตลาดจับตาน้ำมันรัสเซีย

กรุงเทพธุรกิจ

“กรุงศรี” แนะเก็บ 2 หุ้นค้าปลีก! รับเศรษฐกิจฟื้น-ฟันด์โฟลว์ไหลเข้า พ่วง Laggard

ข่าวหุ้นธุรกิจ

ดาวโจนส์ – S&P500 ปิดลบ หุ้น Eli Lilly ดิ่งฉุดดัชนี, แนสแดคทำนิวไฮ

efinanceThai

ชาวเน็ตไทยไม่แพ้ชาติใดโลก ครองแชมป์ TikTok เอเชีย โอกาส-โจทย์ท้าทายนักการตลาด

ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...