จีนทุ่มงบอนุรักษ์ ‘ต้นไม้โบราณ’ ทั่วประเทศ ยกให้เป็น ‘โบราณวัตถุที่มีชีวิต’
× กรุณาติดต่อทีมงานเพื่อดาวน์โหลดคลิป
ไท่หยวน, 24 ส.ค. (ซินหัว) — ภายในวัดกวนอู (Temple of Guan Yu) ของเมืองอวิ้นเฉิง ในมณฑลซานซีทางตอนเหนือของจีน มีต้นสนไซเปรสและต้นหวย (Chinese scholar tree) สูงตระหง่านหลายต้นที่ยืนหยัดข้ามผ่านกาลเวลามานานหลายร้อยปี
ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงกรกฎาคมปี 2025 ผู้เชี่ยวชาญจีนได้เข้าทำการดูแลฟื้นฟูต้นไม้โบราณของวัดกว่า 20 ต้น โดยมีการตรวจสอบเพื่อกำจัดแมลงศัตรูพืช ทำความสะอาดโพรงไม้ และอุดบริเวณที่ผุพังด้วยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งหมดนี้ก็เพื่อช่วยให้ต้นไม้ยักษ์ใหญ่เหล่านี้ยังคงยืนต้นได้อย่างแข็งแกร่งต่อไป
กัวโป จากสำนักงานอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของวัดกล่าวว่า อายุที่ยาวนาน ปัญหาแมลงศัตรูพืช และสภาพอากาศที่รุนแรง ทำให้ต้นไม้โบราณบางต้นในวัดเริ่มส่งสัญญาณเสื่อมโทรม การปกป้อง “โบราณวัตถุที่มีชีวิต” อันล้ำค่าเหล่านี้ จึงต้องอาศัยการดูแลทางวิทยาศาสตร์และการฟื้นฟูอย่างมืออาชีพ
กัวเผยว่าวัดแห่งนี้และโบราณสถานใกล้เคียงอีกสองแห่ง ล้วนสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับ “กวนอู” ขุนพลในยุคสามก๊ก (ปี 220-280) ผู้ได้รับการยกย่องให้เป็นเทพเจ้าของจีน โดยโบราณสถานทั้งสามแห่งเป็นที่ตั้งของต้นไม้โบราณและต้นไม้สำคัญรวม 159 ต้น ซึ่งต้นที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุราว 1,800 ปี
เพื่อปกป้องต้นไม้เหล่านี้ ผู้ดูแลในพื้นที่ได้ดำเนินการขึ้นทะเบียนและติดป้ายระบุข้อมูลของต้นไม้แต่ละต้น รวมทั้งใช้มาตรการป้องกันที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ เช่น การเสริมความแข็งแรงของลำต้น และการใส่ปุ๋ยบำรุงราก
งานอนุรักษ์เหล่านี้สะท้อนว่าจีนกำลังเดินหน้าโครงการการอนุรักษ์ต้นไม้โบราณและต้นไม้สำคัญในทั่วประเทศให้ดียิ่งขึ้น โดยต้นไม้โบราณ (ancient trees) หมายถึงต้นไม้ที่มีอายุมากกว่า 100 ปีขึ้นไป ส่วนต้นไม้สำคัญ (notable trees) หมายถึงต้นไม้ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม หรือนิเวศวิทยา
ผลการสำรวจระดับชาติที่จัดทำขึ้นช่วงปี 2015-2021 ชี้ว่าจีนมีต้นไม้โบราณและต้นไม้สำคัญทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 5.08 ล้านต้น
เดือนมกราคมของปีนี้ จีนได้ออกกฎระเบียบระดับชาติฉบับแรก เพื่อคุ้มครองต้นไม้โบราณและต้นไม้สำคัญโดยเฉพาะ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม กฎระเบียบเหล่านี้ได้สร้างกรอบทางกฎหมายสำหรับการสำรวจทรัพยากร การอนุรักษ์ การเก็บรักษาเชิงวัฒนธรรม รวมถึงบทลงโทษสำหรับผู้ที่สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินทางธรรมชาติเหล่านี้ ซึ่งเป็นการอุดช่องโหว่ในกฎหมายที่มีอยู่เดิม นอกจากนี้ยังส่งเสริมการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการอนุรักษ์ต้นไม้โบราณด้วย
ปัจจุบันหน่วยงานท้องถิ่นและสถาบันทั่วจีน ต่างกำลังมองหาแนวทางใหม่ๆ เพื่อปรับปรุงการปกป้องต้นไม้เหล่านี้ ยกตัวอย่างเช่น ผู้เชี่ยวชาญจีนได้พัฒนาเทคโนโลยีแบบจดสิทธิบัตรเพื่อแก้ไขปัญหาดินอัดแน่นและภาวะขาดสมดุลของน้ำในพิพิธภัณฑ์จิ้นฉือ (Jinci Museum) นครไท่หยวน เมืองเอกของมณฑลซานซี ซึ่งช่วยขยายพื้นที่การเจริญเติบโตของรากต้นไม้ในพิพิธภัณฑ์ได้ถึงร้อยละ 40 นอกจากนี้ พิพิธภัณฑ์ฯ ยังร่วมมือกับมหาวิทยาลัยการเกษตรในท้องถิ่นเพื่อจัดตั้งห้องปฏิบัติการสำหรับการวิจัยร่วมกันด้วย
นวัตกรรมทางการเงินก็มีส่วนสนับสนุนเช่นกัน โดยในมณฑลกุ้ยโจวทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน หน่วยงานภาครัฐได้ทำประกันให้กับต้นไม้โบราณและต้นไม้สำคัญ 137,500 ต้น ซึ่งมีวงเงินคุ้มครองรวมกว่า 3.72 พันล้านหยวน (ราว 1.67 หมื่นล้านบาท)
ที่น่าสนใจคือการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ “อุปถัมภ์ต้นไม้” (tree adoption) โดยตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลายเขตในนครเซี่ยงไฮ้และสวนสาธารณะหลายแห่งของเมือง ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถ “อุปถัมภ์” ต้นไม้โบราณได้โดยการบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนการดูแลรักษา
บางภูมิภาคของจีนยังได้นำประวัติศาสตร์และการท่องเที่ยวมาใช้สร้างความตระหนักรู้ของสาธารณชนเกี่ยวกับการอนุรักษ์ต้นไม้โบราณ เช่น เมืองอวิ้นเฉิง ที่กำลังพัฒนาอุทยานต้นไม้โบราณที่จัดแสดงต้นไม้อายุหลักร้อยปีควบคู่ไปกับภูมิทัศน์ของแม่น้ำเหลืองและมรดกทางวัฒนธรรมท้องถิ่น ด้านเมืองไท่อัน ในมณฑลซานตงทางตะวันออกของจีน ก็ได้นำเสนอเรื่องราวทางวัฒนธรรมของต้นไม้โบราณที่มีชื่อเสียงตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เช่น ภูเขาไท่ซาน
เกาซวี่เจิน นักวิจัยจากพิพิธภัณฑ์จิ้นฉือกล่าวว่า ต้นไม้โบราณคือสมบัติทางนิเวศวิทยาและเป็นประจักษ์พยานแห่งประวัติศาสตร์ การปกป้องที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นจะช่วยให้ต้นไม้เหล่านี้ยังยืนต้นสูงตระหง่านและทำหน้าที่เป็น “ผู้สืบทอดรากแห่งวัฒนธรรมที่ยังมีชีวิต” ต่อไป