มาตามนัด 'นพดล' แจ้งความเอาผิดอาญา 'มัลลิกา' ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ใส่ร้าย ด้วยความเท็จ
นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ สส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้ (25 สิงหาคม 2568) ผมมาแจ้งความที่ตำรวจ กองปราบปรามเพื่อเอาผิดกับ นางสาวมัลลิกา บุญมีตระกูล ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา สืบเนื่องจากการที่ นางสาวมัลลิกา ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการทีวี 2 ช่องใส่ความใส่ร้ายเท็จว่าผมมีส่วนร่วมในการที่กัมพูชานำคดีขึ้นสู่ศาลโลกในปี 2554 และเอื้อประโยชน์ให้กัมพูชา ทั้งๆ ที่เป็นความเท็จเพราะผมพ้นตำแหน่งไปตั้งแต่ปี 2551 แล้ว
นอกจากนั้น ที่ร้ายแรงเป็นการใส่ร้ายที่เป็นเท็จโดยสิ้นเชิงก็คือ ใส่ความว่าผมทำให้เสียเขาพระวิหารซึ่งเป็นความเท็จ ดังนั้นจึงต้องมาพิสูจน์ความจริงและให้นางสาวมัลลิกา ต้องรับผิดชอบในความผิดทางอาญาที่ก่อขึ้น ผมได้ตั้งทีมทนายตรวจสอบ ถ้านางสาวมัลลิกาหรือบุคคลใดหมิ่นประมาทผมด้วยความเท็จก็จะดำเนินการโดยไม่ละเว้นและถึงที่สุดไม่มีการยอมความใดๆ ทั้งสิ้นวันนี้มาพิสูจน์ดูครับว่าความเท็จกับความจริงท้ายที่สุดสิ่งใดจะชนะ
เพราะเรื่องนี้ผมเคยถูกฟ้องเป็นคดีอาญาในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิสูจน์ความบริสุทธิ์มาแล้ว โดยกล่าวหาว่าผมทำให้เสียดินแดนและเสียพื้นที่เขาพระวิหาร หลังจากสืบพยานทั้ง 2 ฝ่ายร่วม 2 ปี ศาลได้ตัดสินในวันที่ 4 กันยายน 2558 ยกฟ้องผมและในคำพิพากษาสรุปว่าสิ่งที่ผมทำตนเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศนั้นถูกต้อง ผมไม่ได้ทำให้เสียดินแดนและประเทศจะได้ประโยชน์จากการกระทำของผม ซึ่งเรื่องนี้พิสูจน์ความจริงเป็นที่ยุติแล้วแต่ก็ยังมีคนบังอาจมาใส่ความเท็จให้ผมเสียหาย ผมจึงต้องสู้ครับเพราะผมเลือดอีสานหลานย่าโม พร้อมสู้การรังแกใส่ร้ายเท็จทุกรูปแบบ ถ้าผมเป็นอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศเป็น สส. ยังปกป้องตัวเองและสิทธิ์ของผมไม่ได้ ผมจะไปปกป้องประชาชนได้อย่างไร ผมมั่นใจว่าคนไทยส่วนใหญ่เชื่อมั่นในความจริงและความจริงก็ปรากฏอยู่ในคำพิพากษาของศาลฎีกา คนที่มีจิตใจเป็นธรรมและมีความเมตตาต่อคนอื่น ย่อมยึดมั่นในความจริงและใช้สติปัญญาไตร่ตรองโดยยึดพยานหลักฐานของทางราชการเป็นหลัก
ผมขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งให้ผมครับและขอให้ท่านมั่นใจว่าผมจะไม่ยอมความใดๆ ทั้งสิ้น คนใส่ร้ายเท็จต้องรับโทษทางอาญาและความจริงต้องปรากฏคู่ประเทศไทยตลอดไปครับ