DOHOME กำลังซื้อหด กดกำไร Q2 ลด 18.4%
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 7 สิงหาคม 2568 เวลา 0.50 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) (DOHOME) เปิดเผยภาพรวมผลประกอบการในไตรมาส 2 ปี 2568 สถานการณ์เศรษฐกิจยังได้รับผลกระทบจากปัจจัยทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศ จึงส่งผล ต่อกำลังซื้อ ประกอบกับสภาวะภูมิอากาศในไตรมาส 2 ที่ฤดูฝนมาเร็วกว่าปกติอย่างไรก็ดี ถึงแม้รายได้จะได้รับผลกระทบเนื่องจาก สถานการณ์เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนและผันผวนสูง แต่กลุ่มบริษัทฯ ยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนสินค้าให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการ ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งกลุ่มบริษัทฯ ยังคงพัฒนาช่องทางการขายต่างๆ และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ เช่น กิจกรรมครอบครัวช่าง รวมถึงออกแคมเปญส่งเสริมการขายเพื่อตอบแทนลูกค้า และงานบริการ รูปแบบใหม่ “Fit-In Furniture” ของกลุ่มบริษัทฯ ภายใต้แบรนด์ “นายช่าง” เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้ทันที
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2568 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 7,359.63 ล้านบาท ลดลง731.32 ล้าน บาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 9.0 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และกลุ่มบริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นเท่ากับ 1,311.07 ล้านบาท ลดลง 89.48 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 6.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้กลุ่มบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง จากค่าใช้จ่ายที่ผันแปร เช่น ค่าใช้จ่ายทางการตลาด ค่าสาธารณูปโภค ค่าธรรมเนียมธนาคาร เป็นต้น ส่งผลให้กำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 2 ปี 2568 เท่ากับ 157.18 ล้านบาท ลดลง 35.42 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 18.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
การขยายสาขาในไตรมาส 2 ปี 2568 กลุ่มบริษัทฯ เปิดสาขาขนาดเล็ก เพิ่ม 1 สาขา ทำให้มีสาขาขนาดใหญ่ที่เปิด บริการทั้งสิ้น 24 สาขา และมีสาขาขนาดเล็ก (Dohome To Go) ที่เปิดบริการทั้งสิ้น 16 สาขา
กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวมหกเดือนของปี 2568เท่ากับ 15,491.32 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3.8 จากรายได้รวมหกเดือนของปี 2567 และ มีกำไรสุทธิ เท่ากับ 402.26 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 2.6 ลดลงร้อยละ 7.9 เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิหกเดือนของปี 2567 ซึ่งเท่ากับ 436.93 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 2.7 โดยมีสาเหตุหลักมาจาก
- รายได้จากการขายและค่าบริการ เท่ากับ 15,362.10 ล้านบาท ลดลง 612.69 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 3.8 จากหกเดือนของปี 2567 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้จากสาขาเดิม ในขณะที่สาขาที่อยู่ ในช่วง Ramp up ยังคงเติบโตและมีรายได้ของสาขาที่เปิดใหม่เพิ่มขึ้น
- รายได้อื่น เท่ากับ 129.21 ล้านบาท ลดลง 4.08 ล้านบาท หรือ คิดเป็นร้อยละ 3.1จากหกเดือนของปี 2567 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของเงินสนับสนุนจากเจ้าของสินค้าผู้จัดจำหน่าย
- กำไรขั้นต้น เท่ากับ 2,730.08 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 17.8เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับอัตรากำไรขั้นต้น หกเดือนของปี 2567 ที่ร้อยละ 17.6โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นของสินค้าทุกกลุ่มสินค้า
- ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เท่ากับ 2,140.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.52 ล้านบาท หรือ คิดเป็นร้อยละ 0.8จาก หกเดือนของปี 2567 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายของสาขาใหม่ เช่น ค่าใช้จ่ายพนักงาน ค่าเสื่อม ราคาทรัพย์สิน เป็นต้น
- ต้นทุนทางการเงิน เท่ากับ 234.02 ล้านบาท ลดลง 65.07 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.8 จากหกเดือนของปี 2567 ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนั้นสอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลงตามสถานการณ์การปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย
- ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ เท่ากับ 90.40 ล้านบาท ลดลง 10.17 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.1จากหกเดือนของปี 2567 ซึ่งสอดคล้องกับกำไรก่อนภาษีเงินได้ของกลุ่มบริษัทฯ ที่ลดลง