คนละหมัด! “ศุภชัย” ไล่ “เดชอิศม์” ไปจัดการบรรพบุรุษที่สงขลาก่อน
วันที่ 2 กันยายน 2568 นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคภูมิใจไทย แถลงตอบโต้กรณีที่นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า จะไม่ร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย พร้อมพาดพิงถึงคดีเขากระโดง และข้อกล่าวหาเรื่อง “ฮั้ว ส.ว.”
นายศุภชัย ระบุว่า ตนไม่อยากพูดถึง นายเดชอิศม์ แล้วแต่เมื่อยังมีการกล่าวถึงพรรคภูมิใจไทยอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องชี้แจง โดยย้ำว่ากรณีเขากระโดงที่ นายเดชอิศม์ กล่าวอ้างนั้น มีความไม่ชอบมาพากลตั้งแต่กระบวนการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ที่เร่งรีบผิดปกติ และมีบุคคลใกล้ชิด นายเดชอิศม์ ร่วมเป็นคณะกรรมการ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของการรถไฟซึ่งถือเป็นคู่กรณีโดยตรง
นายศุภชัย กล่าวว่า “คณะกรรมการชุดเก่าใช้เวลาสอบนานถึง 8 เดือน แต่คณะใหม่ที่ตั้งขึ้นมาเร่งตัดสินในเวลาไม่นาน แบบนี้สมควรหรือไม่?”
และสำหรับกรณีข้อกล่าวหา “ฮั้ว ส.ว.” นายศุภชัย ท้าทาย นายเดชอิศม์ ให้มา “ดีเบต” กันแบบเปิดเผย ว่าเข้าใจกระบวนการมากน้อยแค่ไหน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การไต่สวนสอบสวนของคณะกรรมการ กกต. ยังอยู่เพียงขั้นตอนที่ 2 จากทั้งหมด 10 ขั้นตอน จึงไม่เข้าใจว่า นายเดชอิศม์ นำข้อมูลมาจากแหล่งใด
“ถ้าฟังข่าวมา แล้วจับไปกระเดียด เอาความเชื่อไปปนกับข้อเท็จจริง แบบนี้ไม่ถูกต้อง อย่ากล่าวหาแบบไม่มีหลักฐาน” นายศุภชัยกล่าว
จากนั้น นายศุภชัย ยังกล่าวพาดพิงไปถึงคดีในพื้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นฐานเสียงของ นายเดชอิศม์ โดยระบุว่า มีประชาชนในพื้นที่ฝากบอกว่า ควรห่วงคดีของพี่สาว พี่เขย และหลานของ นายเดชอิศม์ ก่อน ซึ่งศาลได้พิพากษาไปแล้วในคดีบุกรุกโบราณสถาน
“วันนี้ไม่ต้องห่วงถึงบุรีรัมย์ เอาสงขลาก่อน ญาติพี่น้องตัวเองยังมีคดีที่ประชาชนสงขลาพูดถึงกันอยู่เต็มไปหมด” นายศุภชัยกล่าว พร้อมทั้งอ้างว่าก่อนมีการดำเนินคดีนั้น กระบวนการยุติธรรมในพื้นที่ก็เคยถูกแทรกแซงโดยผู้มีอิทธิพล
นอกจากนี้ นายศุภชัย ได้กล่าวว่า แม้ตนจะรู้จัก นายเดชอิศม์ มานาน แต่หากมีการมาแตะพาดพิงพรรคภูมิใจไทย ก็ยอมไม่ได้ และขอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจว่า ถ้าวันนี้บอกว่า “ไม่ร่วมงาน” แต่วันหน้าจะร่วม กลับมาใหม่ ประชาชนจะคิดอย่างไร
“เมื่อวานหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้ท้วงติง แต่ยังออกมาพูดอีกว่า ‘อายบรรพบุรุษ’ ถ้างั้นก็กลับไปจัดการบรรพบุรุษที่สงขลาก่อน” นายศุภชัยกล่าว