โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธรรมะ

สมศ. เปิดเวทีระดมภาคีทุกภาคส่วน ร่วมขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาไทยด้วยกลไกการประเมิน

เดลินิวส์

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว • เดลินิวส์
สมศ. เปิดเวทีประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติ “2025 ONESQA Forum” ระดมภาคีทุกภาคส่วนร่วมขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาไทยด้วยกลไกการประเมิน

เมื่อวันที่ 1 ก.ย.สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. จัดการประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติ " 2025 ONESQA Forum " ภายใต้หัวข้อ “Beyond Assessment: Driving Educational Change – ขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาไทยด้วยกลไกการประเมิน” มีผู้เข้าร่วมกว่า 300 คน ประกอบด้วย ผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการ ผู้กำหนดนโยบาย ผู้แทนหน่วยงานต้นสังกัด ผู้บริหารองค์กรภาครัฐและเอกชน คณะกรรมการและที่ปรึกษาของ สมศ. นับเป็นเวทีสำคัญที่รวมพลังจากทุกภาคส่วนเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยให้ก้าวไกลและยั่งยืน

โดยมี ผศ.ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีและกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “บทบาทของการประเมินเพื่อยกระดับมาตรฐานคุณภาพการศึกษาไทย” โดยได้เน้นย้ำว่า การประเมินคุณภาพไม่ได้เป็นเพียงการตรวจสอบ แต่เป็น “เครื่องมือสำคัญในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย” ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพผู้เรียน ครู และระบบการศึกษาไทยให้ก้าวทันต่อโลกที่เปลี่ยนแปลงไป สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการที่มุ่งใช้ข้อมูลเป็นฐานในการพัฒนาการศึกษาเพื่ออนาคต

ผศ.ดร.ลิณธิภรณ์ กล่าวต่อไปว่า การเดินทางของ สมศ. ตั้งแต่การประเมินคุณภาพภายนอกรอบแรกเมื่อปี 2544 จนถึงปัจจุบันเป็นปีที่ 25 แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการและความท้าทายที่องค์กรก้าวข้ามมาได้ ไม่ว่าจะเป็นการลดภาระสถานศึกษา การใช้ระบบ Automated QA ที่ช่วยให้กระบวนการประเมินดำเนินไปอย่างรวดเร็วและไม่ใช้กระดาษ รวมถึงการนำข้อมูลผลการประเมินไปใช้เป็น “กระจกสะท้อน” ให้ผู้กำหนดนโยบายมองเห็นทั้งจุดแข็ง จุดที่ต้องพัฒนา และออกแบบมาตรการที่ตอบโจทย์จริง ทั้งนี้ สมศ. ไม่ได้เป็นเพียง “ผู้ประเมิน” แต่ยังเป็น “พันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์” ที่ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการในการผลักดันนโยบายการศึกษาไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานสากล

พร้อมกันนี้ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการยังกล่าวเชิญชวนผู้บริหารระดับสูงทางการศึกษาที่เข้าร่วมประชุม ให้ใช้เวทีครั้งนี้เป็นโอกาสในการทำความเข้าใจทิศทางใหม่ของ สมศ. ซึ่งได้เปลี่ยนบทบาทจาก “ผู้ประเมินแบบเน้นตัดสินคุณภาพ” มาสู่ “ผู้ประเมินแบบสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพ” โดยให้ความสำคัญกับการแสดงพลังของข้อมูล การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ และการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน เพื่อร่วมกันยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน

ศาสตราจารย์ ดร.องอาจ นัยพัฒน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. กล่าวว่า การจัดประชุมในครั้งนี้เป็นเวทีนโยบายสาธารณะ (ONESQA Public Forum) ที่จัดขึ้นเพื่อประกาศเจตนารมณ์ “ก้าวใหม่ของการประเมินคุณภาพ” ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนบทบาทของ สมศ. จาก “ผู้ตัดสินคุณภาพ” ไปสู่การเป็น “ผู้ผลิตข้อมูลคุณภาพ” ที่สะท้อนสภาพจริงของระบบการศึกษาไทย เพื่อให้สามารถนำข้อมูลไปใช้เป็นฐานในการกำหนดนโยบายเชิงระบบได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ พร้อมย้ำว่า “การประเมินคือเครื่องมือเพื่อการพัฒนา มิใช่ภาระของสถานศึกษา”

ศาสตราจารย์ ดร.องอาจ ยังได้บรรยายในหัวข้อ “จากข้อมูลสู่การขับเคลื่อนคุณภาพ: วิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์ และเครื่องมือใหม่ของ สมศ.” โดยชี้ให้เห็นว่า สมศ. กำลังก้าวสู่การเป็น Data-Driven Organization ที่ใช้สารสนเทศจากผลการประเมินคุณภาพภายนอกมาต่อยอดเป็นข้อเสนอเชิงนโยบาย เพื่อเสนอแก่ผู้กำหนดนโยบายระดับสูง (Policy Makers) และใช้ขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาไทยอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังพัฒนา กรอบการประเมินการศึกษา 5.0 ที่มุ่งให้ผู้ประเมินภายนอกทำหน้าที่เป็น “ที่ปรึกษา” หรือ “โค้ช” มากกว่าการตัดสิน พร้อมทั้งใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Machine Learning ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก สร้าง Dashboard Interactive เพื่อให้ผู้บริหารเห็นภาพรวมการศึกษาได้อย่างรวดเร็วและชัดเจน

สำหรับข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากผลการประเมินคุณภาพภายนอกจะถูกนำเสนอในรูปแบบที่สามารถนำไปใช้สนับสนุนการตัดสินใจเชิงนโยบายได้อย่างชัดเจน ช่วยให้ผู้กำหนดนโยบายเห็นถึงจุดแข็งและจุดที่ต้องพัฒนาในระบบการศึกษา และสามารถออกแบบนโยบายที่ตอบโจทย์ตามบริบทจริงได้อย่างแท้จริง การประชุมนี้จึงไม่ใช่เพียงเวทีนำเสนอผลลัพธ์ แต่ยังแสดงให้เห็นถึง “คุณค่าเชิงนโยบาย” และ “ศักยภาพในการสร้างผลกระทบเชิงบวก” จากข้อมูลที่ สมศ. ได้รวบรวมและวิเคราะห์ โดยมุ่งเปลี่ยน “ผลการประเมิน” ให้กลายเป็น จุดเริ่มต้นของการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาอย่างมีทิศทาง เชื่อมโยงกลไกการประเมินภายในและภายนอกเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างวัฒนธรรมคุณภาพและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในทุกระดับของระบบการศึกษาไทย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...