“จุ๋ย” ปิดอู่ 2 คน โบ้ย! “พ่อพุฒ” ทำหมัน ตอบชัดกลับมารับละครมั้ย?
“จุ๋ย” ปิดอู่ 2 คน โบ้ย!“พ่อพุฒ” ทำหมัน ตอบชัดกลับมารับละครมั้ย?
เตรียมตัวเตรียมใจเตรียมน้ำตาไปส่งลูกชาย “พีร์เจ” เข้าโรง เรียน คู่สามีภรรยา “พุฒ พุฒิชัย” และ “จุ๋ย วรัทยา” ควงคู่ออกงาน “Give LIFE Get LIVES: สร้างกุศลผู้ให้ สร้างชีวิตใหม่ผู้รับ” โดย “คุณแม่จุ๋ย” เผยสาเหตุไม่รับงานละครแล้ว เพราะอยากให้เวลากับลูกๆ ทั้งสอง “พีร์เจ-เจเพิร์ล” เป็นอันดับแรก
อ่านข่าวต่อ : "พุฒ-จุ๋ย" เล่า “พีร์เจ” รัก “น้องเจเพิร์ล” มาก ชอบกอด-หอมแก้มน้องสาว ปิดอู่ทายาท 2 คนพอแล้ว!
จุ๋ย : “หมายถึงว่าพีร์เจกับน้องสาวเขาใช่มั้ย เขารักมาก ตื่นเช้ามาต้องวิ่งเข้าไปหา ไปหอมน้อง เข้าไปกอด เข้าไปสะออนมากๆ เขาเอ็นดูน้องเขามาก เลี้ยงง่ายทั้งคู่ คนเล็กสามารถฝึกนอนได้ นอนง่ายมากๆ ว่าพีร์เจง่ายแล้ว เจเพิร์ลง่ายกว่าอีก ตอนแรกจุ๋ยนึกว่าผู้หญิงจะดูเรียบร้อย แต่กลายเป็นว่าผู้หญิงดูแอ็กทีฟมาก โลดโผน ถามว่าปิดอู่เลยมั้ย คิดว่าสองคนเพียงพอแล้ว ชีวิตประจำวันเรากำลังดี ก็บอกพ่อไปทำหมัน พ่อบอกว่าโอ้ยมีไม่ได้หรอก มียาก
พุฒ : “แฮปปี้แล้วสองคนนี้ก็ถือว่ามาไกลกว่าที่เราคิดไว้แล้วก็พยายามกันมาตั้งแต่แรก สองคน ชายคน หญิงคน มีความสุขมากๆ แล้ว ทำหมันมั้ยเผื่อปุบปับรับโชค เราก็บอกว่ากว่าจะได้พีร์เจกับเจเพิร์ลมาเนี่ย คุณแม่เขาสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ กว่าจะเก็บไข่กว่าผ่านกระบวนการอะไรมามันยากมาก แต่ถ้าเขาอยากให้ไปทำ ไม่มีปัญหา ยินดี แต่ถ้าแบบเผื่อฟลุ๊คอยากจะมาอีกสักคนนึง ก็ไม่ติด”
จุ๋ย : “พรุ่งนี้เปิดเทอมวันแรก พ่อกับแม่ไปส่งด้วยกันแต่คิดว่านี่ไม่น่าร้อง เพราะว่าโรงเรียนใกล้บ้าน”
พุฒ : “เดี๋ยวจะถ่ายคลิปไว้นะ แล้วมาดูกันว่า พีร์เจ คุณจุ๋ย หรือว่าคุณพุฒ ใครจะร้องไห้ก่อน ผมค่อนข้างเซ้นสิทีฟถ้าเป็นเรื่องลูก ก็ไม่รู้เหมือนกันถ้ามีโมเมนต์ในตอนส่งเขาเข้าไปแล้วเราจะเป็นยังไงเพราะบางทีเห็นจากหลายๆ ครอบครัว บางทีลูกไม่ร้อง แต่ว่าพ่อแม่ร้องไห้เป็นเผาเต่า”
จุ๋ย : “เลือกโรงเรียนสำหรับเรารู้สึกว่าพีร์เจเป็นเด็กที่มีพัฒนาการด้านภาษาดี พูดได้เร็ว ปรึกษาหลายๆ ท่าน เขาก็บอกว่าถ้าลูกพูดได้เร็ว การสื่อสารดี ก็อาจจะให้ส่งภาษาที่ 2ภาษาที่ 3ไปเลย ก็เป็นโรงเรียนที่มีทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน”
จุ๋ย : “เอาจริงๆ งานในวงการบันเทิงถ้าเป็นละคร จุ๋ยไม่ได้รับเลย แต่ว่าถ้ามางานแบบนี้หรือว่าถ่ายยูทูบที่เราสามารถจัดสรรเวลาได้ วันเดียวเสร็จ อันนี้จุ๋ยรับ แต่ถ้าเกิดเป็นยาวๆ แล้วต้องรับผิดชอบมาก จุ๋ยกลัวว่ารับผิดชอบกับกองละครได้ไม่ดี เพราะว่าชีวิตเราตอนนี้เรื่องลูกมันสำคัญมาก่อนเป็นสิ่งแรก ดังนั้นจุ๋ยก็จะทำธุรกิจส่วนตัวสกินแคร์ สามารถให้น้องๆ มาประชุมที่บ้าน นัดประชุมที่บ้าน ไม่ออกไปไหนเลย ออฟฟิศใกล้บ้านมากๆ 5 นาทีถึง คือพยายามตัดอะไรที่เราจะต้องไปไกลๆ เพื่อดูแลลูกได้เต็มที่ มีแต่ติดต่อมาตอนที่กำลังจะแพลนมีคนที่สอง ก็ไม่ได้ หรือติดต่อมาเป็นละครที่จะต้องถ่ายกลางคืน ละครผี จุ๋ย ก็ไม่เอา ต้องกลับบ้านไปหาลูก ถ้าโตกว่านี้คิดว่ากลับมารับซีรีส์ มันไม่ได้มีเยอะอยู่แล้ว ก็คิดว่าการที่เราจะเล่นสักเรื่องหนึ่ง มันต้องเหมาะกับเรามากๆ ไม่แน่ใจว่าในอนาคตจะมีหรือเปล่า จะได้มีโอกาสกลับไปเล่นละครอีกหรือเปล่า ไม่ได้หันหลังนะ แต่แค่บางงานที่ไม่สามารถจะรับผิดชอบได้ เราก็ตัดที่ตัวเราเองดีกว่า”