“รฟม.” เช็กแล้วใน “คลองสำเหร่” ไม่ใช่เศษปูนจากก่อสร้าง “สายสีม่วงใต้”
นายกิตติ เอกวัลลภ ผู้ช่วยผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะผู้อำนวยการโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่บริเวณจุดก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงฯ สัญญาที่ 4 ช่วงสะพานพุทธ-ดาวคะนอง ใกล้คลองสำเหร่ พร้อมผู้รับจ้างงานโยธา เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีการร้องเรียนว่า พบปลาลอยตายเป็นจำนวนมาก บริเวณประตูระบายน้ำคลองสำเหร่ และน้ำมีสีค่อนข้างขุ่น โดยระบุว่าเกิดจากผู้รับจ้างก่อสร้างรถไฟฟ้าสายวงเวียนใหญ่เทน้ำปูนลงคลอง รวมถึงมีการพบเศษปูนซีเมนต์แข็งตัวประมาณ 100 เมตร หน้าซอยวัดราชวรินทร์ (วัดสำเหร่) และมีถุงปูนซีเมนต์ทิ้งไว้ริมคลอง
นายกิตติ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบบริเวณหน้าซอยวัดราชวรินทร์ (วัดสำเหร่) พบว่า บริเวณดังกล่าวอยู่ระหว่างการดำเนินงานขุดดิน เพื่อก่อสร้างสถานีโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า จึงมีความจำเป็นต้องเบี่ยงแนวคลองระบายน้ำสาธารณะเป็นการชั่วคราว เพื่อให้สามารถดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้าได้อย่างปลอดภัย การเบี่ยงแนวคลองชั่วคราวข้างต้นอาจส่งผลให้มีการไหลเวียนของน้ำในคลองน้อยลง ทำให้มีตะกอนดินจนมีลักษณะเป็นดินเลนในคลอง ซึ่งไม่ใช่เศษปูนแต่อย่างใด ส่วนถุงปูนที่พบในพื้นที่ จากการตรวจสอบพบว่า ไม่ใช่เศษซากถุงปูนของโครงการฯ เนื่องจากโครงการฯ ไม่ได้ใช้ปูนซีเมนต์ถุง แต่ใช้ปูนซีเมนต์ (คอนกรีตผสมเสร็จ) จากโรงงานผลิตคอนกรีตผสมเสร็จโดยตรง และนำส่งมายังพื้นที่ก่อสร้างด้วยรถขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จตามปริมาณที่ใช้งาน นอกจากนี้โครงการฯยังมีการจัดการบำบัดน้ำทิ้งในพื้นที่ก่อสร้างก่อนปล่อยสู่ระบบระบายน้ำสาธารณะ
อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น โครงการฯ จะดำเนินการขุดลอกท่อระบายน้ำและขุดลอกคลองสำเหร่ให้เรียบร้อย เพื่อให้การระบายน้ำสามารถถ่ายเทได้สะดวก และมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งจะสุ่มเก็บตัวอย่างน้ำในคลองไปตรวจหาสารปนเปื้อน หากพบว่าเป็นสารที่มาจากการดำเนินงานก่อสร้างโครงการฯ รฟม. จะกำหนดบทลงโทษแก่ผู้รับจ้าง และหามาตรการป้องกัน เพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ทั้งนี้ รฟม. ได้เน้นย้ำให้ผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าทุกสาย ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมแก่ประชาชน.