จับนายร้อยปอยเปต อ้างโดน AI ปลอมแปลงใบหน้า
พ.ต.ต.ยศชนินทร์ ประเสริฐโสภา สว.กก.ดส. จับกุม นายบุญอุ้ม อายุ 24 ปี ในข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน และเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดฐานโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่ง ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบและข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตนเอง และเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องโดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด”
สืบเนื่องจากตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้มีการเร่งรัดติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับคดีเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นำโดย พ.ต.ต.ยศชนินทร์ จึงได้ออกสืบสวนติดตามตัว นายบุญอุ้ม จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหาตามหมายจับได้หลบหนีการจับกุมมาบริเวณศูนย์การค้าอินโดจีน จ.สระแก้ว จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจนกระทั่งพบตัวนายบุญอุ้ม เครือกำแพง ดังกล่าว
พ.ต.ต.ยศชนินทร์ กล่าวว่า พฤติการณ์แก๊งคอลเซนเตอร์กลุ่มนี้จะลวงว่าเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ และหลอกลวงให้ติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบโทรศัพท์มือถือและคนร้ายจะทำการโอนเงินจากบัตรเครดิตและบัญชีธนาคารของผู้เสียหายไปยังบัญชีของคนร้าย
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้ข้อมูลว่า ตนขอปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เนื่องจากตนโดนหลอกให้ไปทำงานแก๊งคอลเซนเตอร์ โดยมีคนจีนเป็นนายจ้างมาสแกนใบหน้าตน และมีการใช้ AI ปลอมแปลงใบหน้าตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจไปหลอกลวงผู้เสียหายให้หลงเชื่อ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดส.จึงได้ทำการจับกุมและนำผู้ต้องหาส่ง กก.3 บก.สอท.2 เพื่อขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.