AWC เปิดกำไรไตรมาส 2/68 พุ่ง 1.4 พันล้าน โต 12.7% ชู "จูราสสิค เวิลด์" ปั้มยอด
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น หรือ AWC เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 /68 เติบโตต่อเนื่อง โดยรายได้รวมแตะ 5,211 ล้านบาท เติบโต 7.7% เทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน
อีกทั้งมีกำไรจากดำเนินงาน 2,723 ล้านบาท เติบโต 9.3% เทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน และกำไรสุทธิ 1,404 ล้านบาท เติบโต 12.7% เทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ด้วย Growth-Led Strategy รับรู้รายได้ของทรัพย์สินใหม่ และการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอ ทั้งยังรักษาโครงสร้างการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับดีกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
โดยกลุ่มโรงแรมสร้างรายได้รวมที่ 2,612 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน จากการรับรู้รายได้จาก ทรัพย์สินใหม่ รวมทั้งการเติบโตของโรงแรมในกลุ่มรีสอร์ทระดับลักชัวรี และรายได้ที่เติบโตโดดเด่น ของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
พร้อมเปิดตัวโรงแรม พัทยา แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา ซึ่งเข้ามาช่วงส่งเสริมให้พอร์ตโฟลิโอเติบโตก้าวกระโดดมากกว่า 2 เท่า นับตั้งแต่ IPO รวมมูลค่าทรัพย์สินสิ้นไตรมาส 2/68 ที่ 212,616 ล้านบาท
ทั้งนี้ พอร์ตโฟลิโอโรงแรมของ AWC ยังคงแข็งแกร่งด้วยดัชนีการสร้างรายได้ (Revenue Generation Index หรือ RGI) เฉลี่ยอยู่ที่ 102 โดยเฉพาะโรงแรมในกลุ่มรีสอร์ท ระดับลักชัวรี และโรงแรมในกรุงเทพฯ ที่มี RGI สูงถึง 118 และ 109 ตามลำดับ
นอกจากนี้ รายได้จากพอร์ตโฟลิโออาหารและเครื่องดื่มยังขยายตัว 8.7% เทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน โดยเฉพาะจากโครงการ “เอ-ญ่า” รูฟทอป แอท ดิ เอ็มไพร์ เข้ามาร่วมด้วย
ขณะที่กลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียลสร้างกระแสเงินสดอย่างมั่นคง จากการเสริมกลยุทธ์พัฒนาศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานตามแนวคิด AWC’s Lifestyle Destination มีการเติบโตของรายได้ค่าเช่า 11.6% เทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน
พร้อมเปิดตัว Jurassic World: The Experience และหลากหลายประสบการณ์พิเศษใน Hatch Dome ที่เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น ที่เข้ามาช่วยสร้างปรากฏการณ์ระดับโลกสนับสนุนกลยุทธ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวตลอดทั้งวัน เพิ่มการเติบโตของรายได้และผู้เช่า พร้อมสนับสนุนกรุงเทพฯ และประเทศไทยเป็นศูนย์กลางความบันเทิงและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนระดับโลก
กางแผนครึ่งปีหลัง
สำหรับแผนงานในช่วงครึ่งหลังปี 68 AWC เดินหน้าขยายพอร์ตโฟลิโอคุณภาพสร้างความโดดเด่นให้การท่องเที่ยวของไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเตรียมเปิดตัวโครงการคุณภาพในช่วงครึ่งปีหลัง ได้แก่ Lannatique Kalare จุดหมายปลายทางแห่งศิลปวัฒนธรรมล้านนารูปแบบใหม่ใจกลางเชียงใหม่
ควบคู่กับการบริหารโครงสร้างทางการเงินอย่างแข็งแกร่ง และการควบคุมต้นทุนทางการเงินอย่างมีวินัย โดยคงความเป็นผู้นำด้านโครงสร้างทางการเงินที่มั่นคงที่สุดในกลุ่มอุตสาหกรรม พร้อมรักษาวินัยทางการเงินในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยง เสริมความยืดหยุ่นในการลงทุน และรองรับการเติบโตระยะยาวอย่างมั่นคง
ทั้งนี้ บริษัทยังได้รับแรงสนับสนุนเชิงบวกจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ซึ่งช่วยกระตุ้นดีมานด์ของนักท่องเที่ยวในประเทศ โดยเฉพาะโรงแรมในหัวหินและพัทยาที่ได้รับความนิยมสูงสุด
ขณะเดียวกันความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกที่มีเครือข่ายนักท่องเที่ยวคุณภาพกว่า 710 ล้านคนทั่วโลก ยังช่วยเพิ่มสัดส่วนการจองตรง (Direct Booking) สูงถึง 70% ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการสร้างการเติบโตให้กับยอดจองของโรงแรมในเครือ โดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ เชียงใหม่ สมุย กระบี่ และพัทยา ที่มียอดจองล่วงหน้าเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ