สรุป 5 ปมร้อน! ดราม่า ‘อลงกต’ สั่นคลอนศรัทธาวงการผ้าเหลือง!
วงการพุทธศาสนาไทยกำลังเผชิญกับคลื่นแห่งความสงสัย เมื่อเรื่องราวของ"อดีตพระอลงกต" อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี ถูกขุดคุ้ยในหลายมิติ ตั้งแต่เรื่องเงินบริจาคไปจนถึงตัวตนที่แท้จริงของท่าน ก่อให้เกิดคำถามใหญ่ถึงความโปร่งใสและศรัทธาในหมู่พุทธศาสนิกชน?
จากจุดเริ่มต้นที่ "หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ" ชี้แจงถึงเงินบริจาคที่ไม่ได้มอบให้วัดโดยตรง แต่ถูกส่งให้หลวงพ่ออลงกต นำไปสู่การตรวจสอบขนานใหญ่ เผยให้เห็นประเด็นที่ซับซ้อนกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นที่ดินนับพันไร่ โครงการต่าง ๆ รวมถึงข้อมูลส่วนตัวของหลวงพ่อที่สังคมเริ่มตั้งคำถาม โดยวันนี้ เราได้สรุปเรื่องราวที่เกิดขึ้นถึง5 ปมดราม่า (อดีต) พระอลงกต
1.ปมเงินบริจาคจากโครงการ 'หมอบี'
เรื่องราวเริ่มต้นจากการชี้แจงของ "หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ" ที่ระบุว่าได้มอบเงินบริจาคจากโครงการของวัดให้ "หลวงพ่ออลงกต" (ณ ขณะนั้น) เป็นเงินสดโดยตรงตามคำสั่งของท่าน แม้หมอบีจะยืนยันว่ามีเอกสารหลักฐานครบถ้วน แต่กรณีนี้ได้นำไปสู่การระงับการเบิกจ่ายของวัด และการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)
2.ปมศพดองและการเก็บรักษาที่ไม่ถูกสุขลักษณะ
กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พบศพผู้ป่วยกว่า 20 ศพ ถูกเก็บรักษาไว้ในอาคารธรรมสังเวชของวัดพระบาทน้ำพุ โดยไม่ถูกสุขลักษณะและขัดต่อ พ.ร.บ.สุสานและฌาปนสถาน "พระอลงกต" ยอมรับว่าไม่ทราบกฎหมายและพร้อมนำศพไปฌาปนกิจ อย่างไรก็ตาม การขาดแคลนเอกสารสำคัญ เช่น มรณบัตร ทำให้พิธีฌาปนกิจต้องเลื่อนออกไป
3.ปมประวัติการศึกษาที่ไม่ตรงตามข้อมูล
โดยในประวัตินั้น เคยระบุว่าจบชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนนันทวิทยาลัย ขอนแก่น, มัธยมศึกษาจากโรงเรียนเทพศิรินทร์, ปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ และปริญญาโทวิศวกรรมเครื่องกล ม.แห่งชาติออสเตรเลีย แต่จากการตรวจสอบไม่พบชื่อของท่านในระบบของสถาบันเหล่านี้
ต่อมามีการเปิดเผยว่า "หลวงพ่ออลงกต" มีชื่อเดิมว่า "นายเกรียงไกร เพ็ชร์แก้ว" ซึ่งเคยเป็นนักศึกษา ปวช. ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา วิทยาเขตเกษตรพิษณุโลก (ปัจจุบันคือ มทร.ล้านนา พิษณุโลก) รุ่น 15 (ปี 2521-2523) แต่เรียนไม่จบหลักสูตร เนื่องจากขาดเกรดภาคสุดท้าย หลวงพ่อได้ชี้แจงว่าการศึกษาที่กล่าวอ้างเป็นเพียงความฝันและเกิดจากความเข้าใจผิด รวมถึงเคยประสบอุบัติเหตุทำให้ความจำไม่สมบูรณ์
4.ปมชื่อ-นามสกุล และวันเดือนปีเกิดที่คลุมเครือ
ประเด็นนี้เป็นจุดที่สร้างความสับสนมากที่สุด โดยจากข้อมูลที่พบคือ..
-ชื่อเดิม ด.ช.ไกร เพ็ชร์แก้ว (เกิดปี 2503) และเปลี่ยนเป็น นายเกรียงไกร เพ็ชร์แก้ว ในปี 2527
-ชื่อในใบสุทธิพระ ปี 2529 ระบุว่านายอลงกต พลมุข ซึ่งซ้ำกับนายอลงกต พลมุข ข้าราชการกรมชลประทานที่เสียชีวิตไปแล้ว ในปี 2566
-การทำบัตรประชาชนครั้งแรก ปี 2552 หลวงพ่อทำบัตรประชาชนครั้งแรกในวัย 49 ปี โดยใช้ชื่อ นายเกรียงไกร เพ็ชร์แก้ว ก่อนจะเปลี่ยนเป็น นายอลงกต พูลมุข และทำบัตรใหม่ในวันเดียวกัน
-วันเกิด ข้อมูลจากวัดระบุ 9 ธันวาคม 2496 (71 ปี), สูติบัตร 6 กุมภาพันธ์ 2503 (65 ปี), ใบสัทธิวิหาริก 1 ธันวาคม 2505 (62 ปี) และใบสุทธิ 1 ธันวาคม 2498 (69 ปี)
-ชื่อพ่อ-แม่ ตอนเกิดพ่อชื่อเสย แม่ชื่อนิตย์ แต่ตอนบวชพ่อชื่อเสริมวิทย์ แม่ชื่อวิไลภรณ์ ซึ่งชื่อพ่อตรงกับพ่อของนายอลงกต พลมุข ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้ว
5.ปมเลขบัตรประชาชน และบัญชีพร้อมเพย์
มีการพบว่าเลขบัตรประชาชนที่ "หลวงพ่ออลงกต" ใช้ตอนบวช (ลงท้าย 46-3) ซ้ำกับนายอลงกต พลมุข ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่เมื่อหลวงพ่อทำบัตรประชาชนในปี 2552 เลขท้ายกลับเป็น 50-7 ซึ่งเป็นคนละชุดกัน
อย่างไรก็ตาม แฟนเพจ Drama-addict ได้ทดลองโอนเงินเข้าพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชนของนายอลงกต พลมุข (ผู้เสียชีวิต) กลับพบว่าเงินเข้าบัญชีกองทุนอาทรประชานาถของวัดพระบาทน้ำพุ นอกจากนี้ ยังพบว่าบัญชีพร้อมเพย์ดังกล่าวไม่สามารถโอนเงินได้แล้ว เนื่องจากมีคนไปแก้ไขข้อมูลการผูกบัญชีออก โดยที่นายอลงกตเสียชีวิตไปแล้ว 2 ปี
ความเคลื่อนไหวหลายหน่วยงาน
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่เรื่องราวของ"หลวงพ่ออลงกต" ถูกเปิดเผยออกมาอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ย่อมไม่อยู่เฉยอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นความเคลื่อนไหวจากฝั่ง "กระทรวงมหาดไทย" ที่ออกมายืนยันว่าเลขบัตรประชาชนของ หลวงพ่ออลงกต กับนายอลงกต พลมุข (ผู้เสียชีวิต) เป็นคนละเลขและคนละคนกัน พร้อมสั่งกรมการปกครองตรวจสอบเพิ่มเติมภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อความชัดเจนในประเด็นการนำเลขบัตรประชาชนไปทำธุรกรรมธนาคาร
ด้าน ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี เร่งตรวจสอบทรัพย์สิน ที่ดิน และเส้นทางเงินบริจาคของวัด ยืนยันว่าเลขบัตรประชาชน 13 หลักของ "พระอลงกต" ไม่ปรากฏในทะเบียนพระใหม่ตั้งแต่ปี 2529 เนื่องจากในยุคนั้นยังไม่มีการคุมทะเบียนด้วยระบบนี้
"อดีตโค้ชฟุตบอลเยาวชนขอนแก่น" เปิดเผยภาพ พระอลงกตในวัยหนุ่ม (ชื่อ นายเกรียงไกร เพ็ชร์แก้ว หรือ จอร์จ) สมัยเป็นนักฟุตบอลเยาวชนจังหวัดขอนแก่น ชื่นชมว่าเป็นนักฟุตบอลที่มีคุณภาพสูง แต่หลังจากนั้นก็หายไป
ส่วน "บุตรชาย นายอลงกต พลมุข (ผู้เสียชีวิต)" ก็ได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับ สภ.ผักไห่ และเตรียมร้องกองปราบปราม เนื่องจากชื่อพ่อและเลขบัตรประชาชนไปเชื่อมโยงกับบัญชีรับบริจาค เกรงจะเกิดความเสียหาย
ทางด้าน "ศ.ดร.อุทิส ศิริวรรณ" (นักวิชาการด้านพระพุทธศาสนา) ชี้ว่าการให้ข้อมูลเท็จอาจเข้าข่ายผิดพระธรรมวินัยเรื่องโลกวัชชะ และหากการให้ข้อมูลเท็จนำมาซึ่งการได้ทรัพย์สิน อาจพิจารณาปรับอาบัติปาราชิกในข้อ 2 เรื่องการลักทรัพย์ได้
การตอบโต้จาก "พระอลงกต"
หลวงพ่ออลงกต เปิดเผยว่ามีกำลังใจที่ดีจากลูกศิษย์และผู้ศรัทธา พร้อมกำลังรวบรวมหลักฐานและข้อมูลเชิงลึกทั้งหมดกับทีมงานฝ่ายกฎหมาย เพื่อชี้แจงทุกประเด็นที่สังคมสงสัยในเร็ว ๆ นี้
จากทั้ง "5 ปมร้อนดราม่าหลวงพ่ออลงกต" ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินบริจาค ตัวตนของหลวงพ่อที่หลากหลายจนเกิดความสับสนว่าเป็นใครกันแน่ ทั้งหมดนี้ล้วนสั่นคลอนความเชื่อมั่นและความศรัทธาของสาธารณชนต่อพระสงฆ์และสถาบันศาสนา จนนำไปสู่เหตุการณ์ตำรวจกองปราบปรามนำกำลังบุกจับกุม พระราชวิสุทธิประชานาถ "พระอลงกต" เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ตามหมายจับของศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ที่ จ 81/2568 ลง 22 สิงหาคม 2568 ข้อหาทุจริตยักยอกเงินวัด รวมทั้งจับกุม นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือ “หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ” ที่ถูกร้องเรียนว่าส่อทุจริตเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทางพระราชวิสุทธิประชานาถ จะยอมให้ปากคำ จากนั้นจึงยอมลาสิกขา หลงเหลือเพียง "นายอลงกต" เป็นที่เรียบร้อย..