โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

อสส.มีคำสั่งอุทธรณ์คดียกฟ้อง 6 จำเลย กรณีเปลี่ยนความเร็วรถ “บอส อยู่วิทยา”

สำนักข่าวไทย Online

อัพเดต 27 สิงหาคม 2568 เวลา 22.24 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมท

27 ส.ค. – อัยการสูงสุด อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น กรณียกฟ้อง “พล.ต.อ.สมยศ” และพวก ผู้ต้องหาร่วมกันทุจริตเปลี่ยนแปลงความเร็วรถในคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา

นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีหนังสือถึงอัยการสูงสุด แจ้งมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขอให้ดำเนินคดีอาญาฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กับพวกรวม 8 คน กรณีร่วมกันเปลี่ยนแปลงความเร็วรถในคดีที่นายวรยุทธ อยู่วิทยา ขับขี่รถยนต์ชนท้ายรถจักรยานยนต์เป็นเหตุให้ ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ถึงแก่ความตาย โดยอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นจำเลยที่ 1, พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข จำเลยที่ 2, พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี จำเลยที่ 3, นายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม จำเลยที่ 4, นายธนิต บัวเขียว จำเลยที่ 5, นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร จำเลยที่ 6, รองศาสตราจารย์สายประสิทธิ์ เกิดนิยม จำเลยที่ 7 และนายเนตร นาคสุข จำเลยที่ 8 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฐานเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งพนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาหรือจัดการให้เป็นไปตามหมายอาญากระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดๆ ในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบ เพื่อจะช่วยบุคคลหนึ่งบุคคลใด มิให้ต้องโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานในตำแหน่งพนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา หรือจัดการให้เป็นไปตามหมายอาญากระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดๆ ในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบ เพื่อจะช่วยบุคคลหนึ่งบุคคลใดมิให้ต้องโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86, 157, 200 วรรค 1 มาตรา 13 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 65 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172, 192 ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 ซึ่งศาลได้รับไว้พิจารณาเป็นคดีหมายเลขดำที่ อท 131/2567 นั้น

ต่อมาวันที่ 22 เมษายน 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้มีคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อท 131/2567 คดีหมายเลขแดงที่ อท 18/2568 ลงโทษนายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม จำเลยที่ 4 ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และนายเนตร นาคสุข จำเลยที่ 8 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด จำเลยที่ 4 จำคุก 2 ปี จำเลยที่ 8 จำคุก 3 ปี ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 และจำเลยที่ 5 ถึงที่ 7 แต่ให้หมายขังจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 และจำเลยที่ 5 ถึงที่ 7 ไว้ระหว่างอุทธรณ์

อัยการสูงสุดได้พิจารณาแล้ว จึงมีคำสั่งเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้น ขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1, 2, 3, 5, 6 และ 7 ในทุกฐานความผิดตามคำฟ้อง และเห็นชอบที่จะไม่อุทธรณ์จำเลยที่ 4 กับจำเลยที่ 8 โดยให้หารือคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีจะไม่อุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 61 และส่งสำนวนคืนให้สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 เพื่อดำเนินการต่อไป.-415-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สำนักข่าวไทย Online

NBA และ AIS ประกาศความร่วมมือระยะยาว เพื่อถ่ายทอดสดการแข่งขันในประเทศไทย

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ขอบคุณคณะผู้แทนทางการทูตสหภาพยุโรป ลงพื้นที่ รพ.พนมดงรัก

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

น้ำผึ้งพร้อมรังเดลิเวอรี ตระเวนขายข้ามอำเภอ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“มาริษ” จ่อคุยวงใหญ่รัฐภาคี “ออตตาวา” โน้มน้าวกัมพูชากู้ทุ่นระเบิด

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

วิดีโอ

ภูมิธรรม ชี้อนาคตคดี “เขากระโดง” หลังเรียกอธิบดีดีเอสไอชี้แจง

Thai PBS
วิดีโอ

"กำนันลี" ทหารเขมรตัวการใหญ่ฮุบที่ดินบ้านหนองจาน | เนชั่นทันข่าวค่ำ | NationTV22

NATIONTV
วิดีโอ

มทภ.2 คาดเป็น "ทุ่นระเบิดใหม่" เขมรลอบวาง ทหารไทยขาขาด | เนชั่นทันข่าวค่ำ | NationTV22

NATIONTV

ก้างขวางคอ"บิ๊กเต่า"ย้อนเล่า ปีที่แล้วเกือบถูกย้ายหน่วย

TNews
วิดีโอ

เค้นสอบ 20 ชม. "ทิดจอร์จ-หมอบี" ปัดยักยอกเงิน | เนชั่นทันข่าวค่ำ | NationTV22

NATIONTV
วิดีโอ

อนาคตวัดพระบาทน้ำพุ เหลือเงินบริจาคพอใช้อีก 4-5 วัน

Thai PBS

กางไทม์ไลน์ทหารไทยเหยียบระเบิดแล้ว 6 ครั้ง เกิดหลังหยุดยิงถึง 3 ครั้ง!

PPTV HD 36
วิดีโอ

ขาขาดอีก 1 นาย "ทหารไทย" เหยียบกับระเบิดที่ตาควาย | ยุคล ชนข่าว | NationTV22

NATIONTV

ข่าวและบทความยอดนิยม

ศาลยกฟ้อง “สนธิ” หมิ่น “พล.ต.อ.สมยศ” ระบุวิจารณ์ตามข้อเท็จจริง

สำนักข่าวไทย Online

“ธีรัจชัย” วอน นายกฯ เร่งตามตัว “บอส” มาลงโทษ

สำนักข่าวไทย Online

พิพากษาแก๊งช่วยแก้ความเร็วรถ “บอส”

สำนักข่าวไทย Online
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...