ตรวจค้น "วัดพระบาทน้ำพุ-ใจฟ้าฟาร์ม" หาหลักฐานเส้นทางเงิน
วันนี้ (26 ส.ค.2568) เวลาประมาณ 08.00 น. ตำรวจสอบสอบสวนกลาง กองบังคับการปรามปราบ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำหมายค้นจากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤกมิชอบกลาง ลงวันที่ 25 ส.ค. เข้าตรวจค้นภายในวัดพระบาทน้ำพุ จำนวน 5 จุด
ตรวจสอบเส้นทางการเงิน บัญชีรายรับ-รายจ่าย การทำธุรกรรมของวัดและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อประกอบพยานหลักฐานในการสอบสวน โดยได้อ่านหมายค้นให้พระครูสุวัฒน์กิตติสาร รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุทราบ เพื่อให้เป็นผู้นำการตรวจค้น
หนึ่งในเป้าสำคัญที่ตรวจค้นคือ กุฏิของหลวงพ่ออลงกต จากการตรวจค้นเบื้องต้นพบบัญชีธนาคาร เอกสารรายรับ-รายจ่าย โฉนดที่ดิน ต้นขั้วใบอนุโมทนาบัตร โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์และมีตู้เซฟ ซึ่งอยู่ระหว่างขอรหัสจากหลวงพ่ออลงกตเพื่อตรวจสอบ
ค้น "ใจฟ้าฟาร์ม" พบเอกสารบางส่วนถูกทำลาย
ส่วนอีกจุดที่ตำรวจเข้าตรวจค้นในวันนี้คือ อาคารภายในมูลนิธิใจฟ้า อคาเดมี ซึ่งมีลักษณะเป็นอาคาร 5 ชั้น โดยเป็นจุดที่ถูกระบุว่าหลวงพ่ออลงกตจะเข้ามาประชุมหารือกับทีมทนายความ หลังมีกระแสข่าววัดพระบาทน้ำพุ
พ.ต.ต.เอกรัตน์ จันทร์มณี สารวัตรกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เปิดเผยหลังเข้าตรวจค้นว่า ชุดสืบสวนเฝ้าสังเกตความเคลื่อนไหวของหลวงพ่ออลงกตและคณะทำงานของมูลนิธิต่างๆ ของวัดพระบาทน้ำพุมาหลายวัน กระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา พบความเคลื่อนไหวของหลวงพ่ออลงกตลงมาจากอาคาร 5 ชั้น ขึ้นรถตู้เตรียมออกไปข้างนอก ซึ่งถือว่าเป็นความผิดปกติ โดยเฉพาะในช่วงนี้เป็นช่วงเข้าพรรษา ตำรวจจึงเชื่อว่าอาจจะมีการหลบหนี ก่อนที่จะแสดงหมายจับและเข้าควบคุมตัว
สำหรับการตรวจค้น ตำรวจได้ยึดเอกสารสำคัญเกี่ยวกับรายการเดินบัญชีใบอนุโมทนาบัตร พบเอกสารบางส่วนถูกย่อยทำลาย จึงต้องตรวจยึดทั้งหมดเพื่อนำไปตรวจสอบขยายผลเพิ่มเติมที่กองบังคับการปราบปราม
ขณะที่พระครูสุวัฒน์กิตติสาร ระบุว่า ก่อนหน้านี้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีวัดพระบาทน้ำพุ แต่จากการตรวจสอบภายในไม่พบความผิดปกติ เรื่องการเปิดรับบริจาค รวมถึงการใช้เงินของวัด แต่เมื่อศาลออกหมายจับและตำรวจมีหมายค้น แสดงว่าต้องมีหลักฐาน จึงขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการดำเนินการ
พระครูสุวัฒน์กิตติสาร กล่าวอีกว่า เพิ่งมารับตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาส จึงยังไม่ทราบรายละเอียดต่างๆ ภายในวัดมากนัก แต่ยอมรับว่ากังกลเรื่องผู้ป่วยที่อาศัยอยู่ภายในวัด เนื่องจากเงินของวัดเหลือน้อยและคนไม่บริจาคให้วัดเหมือนเมื่อก่อน
จากงบประมาณที่มีคาดว่าจะสามารถดูแลผู้ป่วยไปได้อีกระยะ อีกทั้งวัดยังไม่สามารถปฏิเสธผู้ป่วยในอนาคตได้เพราะถือว่าวัดเป็นที่พึง หากใครมาขอความช่วยเหลือก็ต้องดูแล ส่วนเรื่องมูลนิธิของวัดจะหารือกับคณะกรรมการชุดใหม่อีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
อ่านข่าว
"บิ๊กเต่า" เผยจับ "พระอลงกต" กลางดึกหลังมีพฤติการณ์หลบหนี ทนายเล็งยื่นประกัน
"สุชาติ" รอตำรวจสอบ "พระอลงกต" ก่อนประสานลาสิกขา
เปิดเบื้องหลัง "ทีมข่าว 3 มิติ" แกะรอยปริศนาประวัติ "พระอลงกต"